Skip to main content
sharethis

ประชาไท -- 23 มิ.ย. 48 "กสท.ของเรามีการลงทุนมหาศาล ถ้าหากมีการกำกับดูแลให้เกิดความสมดุลเพื่อประโยชน์ในการแข่งขันกับต่างชาติ เราก็ควรจะต้องรักษาองค์กรในประเทศไว้ด้วย ผมไม่รู้ว่าถ้าเปิดเสรีเกินไปโดยไม่มีการกรองเอาไว้ก่อน ผมเกรงว่าถ้าธุรกิจโทรคมนาคมไม่ดูแลให้ดีก็จะสูญพันธุ์ไปเป็นของต่างชาติหมด กลายเป็นว่า เราจะเอาผลประโยชน์ส่งให้เขาแทนที่จะมาพัฒนาเราเอง คล้ายกับการเสียอธิปไตยให้คนต่างชาติไป ดังนั้นคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม(กทช.)จะต้องดูแลให้ดี" นายสมพล จันทร์ประเสริฐ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ (ด้านร่วมกิจการ) บริษัท กสท.โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) กล่าว

นายสมพล ยังกล่าวต่อว่า "การยืดเยื้อของกทช.ที่ผ่านมาทำให้ไม่เกิดการพัฒนา ในกรณีที่เราต้องการทรัพยากรโดยเฉพาะคลื่นความถี่ เราก็ยังทำอะไรไม่ได้ ในการจัดสรรคลื่นความถี่ยังต้องรอให้กสช. จัดการอีก ซึ่งกทช.เองตอนนี้ก็ยังทำอะไรไม่ได้ ขณะที่เทคโนโลยีตอนนี้เป็นสิ่งที่จัดการค่อนข้างยาก เพราะมีความล้ำเส้นการเกี่ยวโยงกันทั้งหมด ถ้ากทช.ให้อนุญาตคลื่นความถี่ก็ไม่ทราบว่ามีอำนาจตรงส่วนนี้หรือเปล่า ผมเห็นว่าน่าจะนำกทช.และกสช.มารวมกันเป็นองค์กรเดียว"

นอกจากนี้ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กสท. มองว่า ในการเจรจาเอฟทีเอกับสหรัฐนั้นมีอุปสรรคต่อการปกป้องธุรกิจโทรคมนาคม การที่ประเทศไทยจำเป็นต้องเปิดให้สหรัฐมาทำกิจการโทรคมนาคมและเอาผลประโยชน์ไปนั้น จึงมีแนวโน้มที่จะเป็นอันตรายต่อไทย เพราะในบางอย่างเอฟทีเอก็มีประโยชน์และในบางอย่างเราก็ต้องช่วยกันดูแล

ด้าน นายจำรัส ตันตรีสุคนธ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทศท.คอเปอร์เรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "ทศท. เป็นรัฐวิสาหกิจเก่าแก่ ดั้งเดิมคือให้บริการด้านโทรศัพท์เพียงอย่างเดียว แต่เมื่อมีความสามารถจำกัด และปัจจุบันมีการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาทำให้เราแทบตามไม่ทัน ต่อไปก็ไม่สามารถประกอบธุรกิจโดยลำพังได้ ต้องจับมือเพื่อปรับตัวสู้กับสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ ซึ่งทศท.ยังต้องการการสนับสนุนอีกพอสมควร"

ธิติกมล สุขเย็น

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net