Skip to main content
sharethis

ประชาไท-23 มิ.ย. 48 พระกิตติศักดิ์ กิตติโสภโณ ประธานกลุ่มเสขิยธรรม เข้ายื่นข้อมูลเพิ่มเติม คณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร พร้อมทั้งชี้แจงกรณีถูกกล่าวหาว่าสำนักปฏิบัติธรรมสวนเป็นสถานปฏิบัติธรรมเถื่อน ทั้งๆ ที่การดำเนินการที่ผ่านมา อยู่ภายใต้มูลนิธิเมตตาธรรมรักษ์ ซึ่งจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย

พระกิตติศักดิ์ กิตติโสภโณ ประธานกลุ่มเสขิยธรรม ได้แถลงชี้แจงข่าวของสถานีโทรทัศน์บางแห่งนำเสนอข่าวว่า สวนเมตตาธรรมซึ่งพระสุพจน์ สุวโจ จำพรรษาอยู่และเป็นสถานที่เกิดเหตุฆาต กรรม เป็นสถานปฏิบัติธรรมที่ก่อตั้งโดยไม่ถูกกฎหมายว่า สวนเมตตาธรรม เป็นสถานปฏิบัติธรรมที่อยู่ภายใต้มูลนิธิเมตตาธรรมรักษ์ซึ่งจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย จึงไม่ใช่สถานปฏิบัติธรรมเถื่อนดังข่าวที่ออกไป

ส่วนที่ดินของสถานปฏิบัติธรรมแห่งนี้เป็นที่ดินของ ดร.สิงห์ทน คำซาว (พระสิงห์ทน นราสโก) มอบให้มูลนิธิเมตตาธรรมรักษ์ดูแล โดยมีหลักฐานชัดเจน

กรณีมีการตั้งข้อสังเกตว่า สถานปฏิบัติธรรมแห่งนี้ไม่มีสิ่งก่อสร้างถาวร พระกิตติศักดิ์ได้ชี้แจงว่า เป็นเพราะพระที่ปฏิบัติธรรม ในสถานปฏิบัติธรรมแห่งนี้ เป็นลูกศิษย์สายท่านพุทธทาสภิกขุสวนโมกขพลาราม อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี จึงมีความประสงค์ที่จะไม่แตกแยกจากธรรมชาติ ปัจจุบันแม้แต่ที่สวนโมกข์ พื้นที่ปฏิบัติกิจของสงฆ์สิ่งก่อสร้างก็ยังเป็นเพียงลานหิน ดิน ทราย

พระกิตติศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า หลังจากที่ตนออกมาวิพากษ์วิจารณ์ เรื่องหวยฟุตบอล วันรุ่งขึ้นทางรัฐบาลก็สั่งการให้กระทรวงวัฒนธรรม ติดต่อมายังเจ้าคณะอำเภอเข้ามาตรวจสอบสถานปฏิบัติธรรมแห่งนี้ การกล่าวว่าเป็นสถานปฏิบัติธรรมเถื่อนจึงไม่ถูกต้อง เพราะเจ้าหน้าที่ก็รับรู้

นอกจากนี้ ก่อนหน้านี้ มหาวิทยาลัย มหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย เคยมีการเตรียมการก่อสร้างมหาวิทยาลัยสงฆ์บนพื้นที่นี้ แต่ก็มีเหตุไม่ได้ก่อสร้าง เพราะผู้มีอิทธิพลเผาป้ายข่มขู่ คุกคาม หากสถานปฏิบัติธรรมแห่งนี้ตั้งอยู่บนที่ดินเถื่อน จะมีการพิจารณาให้เป็นพื้นที่ก่อสร้างมหาวิทยาลัยสงฆ์ได้อย่างไร

ส่วนความคืบหน้าคดีฆาตกรรมพระสุพจน์ เครือข่ายศาสนิกชนแห่งประเทศไทย ก็ได้ตั้งข้อสังเกตและมีการเรียกร้องให้รัฐบาลต้องแสดงความรับผิดชอบอย่างชัดเจน เพื่อให้เกิดความยุติธรรม หากรัฐบาลมีความจริงใจ นายกรัฐมนตรีต้องเปิดปากพูด เกี่ยวกับกรณีที่มีการพาดพิงว่ามีสมาชิกของพรรครัฐบาลเกี่ยวข้องกับคดีให้ชัดเจน

หลังเสร็จสิ้นการแถลงข่าว พระกิตติศักดิ์ได้ให้สัมภาษณ์กับ "ประชาไท" ว่า เมื่อเช้า ตนได้นำหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับคดีบุกรุกที่ดินของสำนักปฏิบัติธรรมไปมอบให้คณะกรรมาธิการธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร ที่รัฐสภา

ทั้งนี้พระกิตติศักดิ์ ให้เหตุผลว่าในขณะที่คณะกรรมาธิการฯ เดินทางไปตรวจพื้นที่เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งตนต้องลงมาดูแลเรื่องการจัดการสวดพระอภิธรรมศพของพระสุพจน์อยู่ที่กรุงเทพฯ นั้น ปรากฏว่ามีนักการเมือง และผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่นให้ข้อมูลที่ บิดเบือนต่อกรรมาธิการฯ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net