ประชาไท-9 มิย. 48 "จนบัดนี้กระทรวงยุติธรรมแห่งสหรัฐอเมริกาไม่พบหลักฐานใดที่แสดงว่าได้มีการจ่ายเงินจากอินวิชั่นให้แก่บุคลอันเป็นเจ้าหน้าที่ของราชอาณาจักรไทย หรือแม้แต่ว่าถ้าหากมีการเสนอที่จะยื่นมอบเงินดังกล่าวจริง หรือได้มีการรับเงินดังกล่าวไปแล้วหรือไม่ เราพร้อมที่จะให้ความร่วมมือในการตรวจสอบกับท่าน" เนื้อความตอนหนึ่ง จากเอกสารกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ที่ส่งถึงนาย วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี

วันนี้ นายวิษณุแถลงผลการตรวจสอบของคณะกรรมการตรวจสอบการจัดซื้อ จัดจ้าง เครื่องตรวจจับระเบิด(CTX) ในสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ โดยยกเอกสารชี้แจงจากทางการสหรัฐฯ เพื่อยืนยันว่า ไม่มีเจ้าหน้าที่และนักการเมืองของรัฐคนใดรับสินบนจากการจัดซื้อเครื่องตรวจจับระเบิด

ทั้งนี้นายวิษณุได้เลื่อนการแถลงข่าวจากเมื่อวาน ( 8 มิ.ย.) โดยให้เหตุผลว่า ติดภารกิจการอภิปรายร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในรัฐสภา อย่างไรก็ดี เวลา 10.30 น.วันนี้ ตนได้รับโทรสารยืนยันผลการตรวจสอบจากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ ลงชื่อ นางแมรี่ เอเลน วอร์โล อธิบดีกรมกิจการระหว่างประเทศ

โดยเอกสารดังกล่าวยังระบุเพิ่มอีกว่า สหรัฐฯ พร้อมที่จะแบ่งปันพยานที่มีในความครอบครองให้กับไทยด้วย

นายวิษณุให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวเพิ่มเติมว่า จะเสนอนายกรัฐมนตรีให้ตั้งคณะกรรมการกลางรับผิด ชอบโครงการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ พิจารณาจากบุคคลที่น่าเชื่อถือ เนื่องจากโครงการเป็นการลงทุนขนาดใหญ่เกี่ยวพันกับการทำสัญญารับเหมาเป็นจำนวนมาก โดยกรรมการจะทำหน้าที่รับเรื่องร้องเรียนและตรวจสอบในทางลับ รายงานตรงกับนายกฯ

ส่วนการจัดซื้อเครื่อง CTX 9000 จากบริษัท จีอี อินวิชั่น ไม่ผ่าน บริษัท แพตทริออต หรือจะเปลี่ยน ไปใช้เครื่อง L3 รุ่นใหม่ที่มีราคาถูกกว่านั้น ต้องให้สำนักงานอัยการสูงสุดตรวจสอบข้อกฎหมายเสียก่อน

สำหรับการทำหน้าที่ของคณะกรรมการตรวจสอบฯถือว่า สิ้นสุดแล้ว โดยผลการตรวจสอบทั้งหมดจะมีการเปิดเผยต่อสาธารณชน สามารถขอข้อมูลได้จากนายพุฒิสัตย์ นามเดช ผู้อำนวยการสำนักกฎหมายและระเบียบกลาง

ส่วนการดำเนินการขั้นต่อไปจะมอบหมายให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ตรวจสอบต่อ และจะให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ป.ป.ง.) ติดตามการเดินของกระแสเงินของทุกคนที่เกี่ยวข้องกับกรณีการจัดซื้อ จัดจ้าง CTX ทั้งในอดีตและปัจจุบัน

รวมทั้งจะมีการส่งเอกสารข้อมูลทั้งหมดให้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบตาม พระราชบัญญัติป.ป.ช. มาตราที่ 66 และ 84 ด้วย

ภาพันธ์ รักษ์ศรีทอง