Skip to main content
sharethis

เอเชีย นิวส์ เน็ตเวิร์ค/ ประชาไท-กลุ่มนักรบชาวม้งได้เวลานับถอยหลังปิดหน้าประวัติศาสตร์การต่อสู้กับรัฐบาลลาวที่ดำเนินการมาอย่างยาวนานนับ 3 ทศวรรษตั้งแต่สงครามเวียดนามยุติลง ส่วนนักกิจกรรมสังคมที่สนับสนุนกลุ่มม้งหายตัวไป คาดถูกทางการลาวจับ

เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ (4 มิย.) ที่ครอบครัวของนักรบเผ่าม้งภายใต้การสนับสนุนของ CIA สหรัฐอเมริกาในสมัยสงครามเวียดนามซึ่งประกอบด้วยกลุ่มผู้หญิง เด็ก คนชราจำนวน 173 คนได้ออกมาจากป่าเพื่อเข้ามามอบตัวกับทางการลาว ซึงนับเป็นก้าวแรกของการวางอาวุธโดยกลุ่มดังกล่าวที่ทำการต่อสู้มาตลอดระยะเวลา 30 ปีหลังจากสงครามเวียดนามยุติลง

แหล่งข่าวที่ติดตามสถานการณ์ในประเทศลาวมายาวนานระบุว่า การออกมามอบตัวดังกล่าวนี้ ส่วนหนึ่งนั้นเป็นเพราะความอดอยาก เนื่องจากประเทศลาวมีนโยบายยุติการปลูกพืชแบบทำไร่เลื่อนลอย (slash and burn) และพยายามชักชวนให้ลาวสูงและลาวเทิงได้ทำมาหากินอยู่กับที่ รวมทั้งได้ปิดล้อมบริเวณที่อยู่ของกลุ่มนักรบม้งมาเป็นเวลานาน ทำให้ไม่สามารถที่จะทำมาหากินได้ ซึ่งที่ผ่านมานั้นกลุ่มนักรบดังกล่าวได้รับการสนับสนุนทางด้านการเงินจากกลุ่มต่อต้านลาวจากต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากกลุ่มของนายพลว่าง เปา ซึ่งเป็นแกนนำในการต่อสู้กับฝ่ายคอมมิวนิสต์ในประเทศลาวภายใต้การนำของสหรัฐอเมริกาในยุคสงครามเวียดนาม

ทั้งนี้ ข้อมูลจากแหล่งข่าวดังกล่าวตรงกันกับที่คณะกรรมการสืบหาข้อเท็จจริง ( Fact Finding Commission-FFC) ในสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนที่ให้การส่งเสริมกลุ่มชาวม้งอยู่ได้ออกมาเปิดเผยในเว็บไซค์ขององค์กรเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคมว่า จากการโทรศัพท์ผ่านดาวเทียมสนทนากับ นายมั่ว ถัว เท่อ ผู้นำกลุ่มนักรบที่อยู่ที่เขตพิเศษไซสมบูนซึ่งได้ระบุถึงความเป็นไปได้ที่จะสู้ต่อหรือจะยอมแพ้

" เราอยากจะให้คุณรู้ว่าถ้าเรายังสามารถเพาะปลูกและยังหาอาหารกินได้ เราคงจะยืนหยัดไว้ได้นานกว่านี้ แต่มาถึงวันนี้เราไม่มีอาหารจะกินแล้ว เราได้กินทุกๆอย่างที่พอจะเห็นอาหารได้ ดังนั้นผมอยากจะขอให้คุณเร่งให้ความช่วยเหลือเราให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ถ้าไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นเนื่องจากรัฐบาลลาวไม่ยินยอม ผมของให้คุณเข้ามาที่ลาวมาตั้งพื้นที่เพื่อยอมจำนน ที่เราจะได้ส่งผู้หญิงและเด็กของเราลงไปอยู่ที่นั่นก่อน ถ้าเราจะรอจนถึงสินเดือนนี้ หรือ เดือนหน้า ( พค. - มิย.) ผู้หญิงและเด็กคงจะตายกันหมดแล้วเพราะไม่มีอะไรจะกิน"

จนในที่สุดกลุ่มม้งได้ประกาศยุติการรู้รบ และส่งผู้หญิงเด็กและผู้สูงอายุกลุ่มแรกเดินทางมายังพื้นที่ที่จุดเตรียมไว้ ทั้งนี้ เอ็ด เซ็นดรีย์ ผู้ให้การสนับสนุนม้ง จาก FFC ประจำแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกาซึ่งได้เข้าร่วมเดินทางมากับชาวบ้านจากไซสมบูนซึ่งเป็นพื้นที่ห้ามชาวต่างชาติเข้า กล่าวว่า ไม่มีทหารในหมู่บ้านที่กลุ่มมอบตัวกลุ่มแรกจะเข้ามาพักและได้รับการต้อนรับอย่างดี
มีรายงานข่าวแจ้งว่าในอีกประมาณ 2-3 สัปดาห์หลังจากนี้ก็จะมีกลุ่มที่ลงตามลงมามอบตัวสมทบอีกประมาณ 2 พันคนจากพื้นที่ต่างๆ และหากเหตุการณ์ต่างๆเป็นไปได้ด้วยดีชาวม้งที่เหลือซึ่งมีการอ้างว่าประมาณ 14,000 คนก็จะมาสมทบด้วย

อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าวจาก เดอะ เนชั่น ในวันที่ 6 มิย. อ้างแหล่งข่าวนักการทูตที่ติดตามสถานการณ์ลาวบอกว่า กลุ่มนักกิจกรรมสังคม ชาวอเมริกัน 4 คนที่ได้เข้าไปจัดการเรื่องการยินยอมมอบตัวของกลุ่มม้งได้หายตัวไปในตอนบ่ายวันเสาร์เข้าใจว่าคงถูกทางการลาวจับตัวไปแล้ว
.
กลุ่มคนทั้ง 4 ที่หายตัวไปประกอบก้วย เอ้ด และ จอร์เจียร์ เซ็นดรีย์ สมาชิด FFC ซึ่งเป็นองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนจากอเริกา ซึ่งเน้นประเด็น ม้ง โดยเฉพาะ ทั้งคู่มาจากแคลิฟอร์เนีย ส่วนอีก 2 คน เป็นชาวอเมริกันเชื้อสายม้ง ชื่อ เซี๊ยะ เช่อ ว่าง และ เนี๊ยะ ว่าง ย่าง ทั้งนี้ทาง FFC ได้รับการติดต่อครั้งสุดท้ายจากนาย เอ็ด เซ็นดรีย์ ประมาณ 15 นาฬิกา โดยบอกว่าเขาอาจจะไปถึงเวียงจันทน์ประมาณ 16 นาฬิกา และขณะนั้น อยู่ที่ 52 กิโลเมตรก่อนถึงจุดตรวจของทหาร

แหล่งข่าวจาก FFC คนหนึ่งกล่าวว่า เขาจะขอให้รัฐบาลสหรัฐฯให้เรียกร้องให้รัฐบาลลาวออกมาชี้แจงเรื่องที่ชาวอเมริกันทั้งสี่คนหายตัวไปดังกล่าว

ในยุคสงครามเวียดนามนั้น มีการสู้รบเกิดขึ้นในลาวลาวที่เรียกกันว่า สงครามลับของอเมริกา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการการขยายความพื้นที่สู้รบมาจากสงครามเวียดนาม กองกำลังของสหรัฐฯ เวียดนาม และจีน ต่างสู้รบกันในพื้นที่ของประเทศลาว โดยกลุ่มชาวม้งจากแดนทุรกันดารเป้นกลุ่มหลักที่ได้รับการสนับสนุนจาก ซีไอเอของสหรัฐฯ ที่มีรายได้จากกองทุนฝิ่น มตั้งเป้นกลุ่มกองทัพลับๆ ชาวม้งนับหมื่นได้อพยพออกจากลาวไปตั้งแต่ช่วงก่อนและหลังจากที่คอมมิวนิสต์เอาชนะได้ในปี 1975 ไปยังสหรัฐฯอเมริกา โดยเมืองที่ตั้งรกรากที่ใหญ่ที่สุดของชาวม้งอยู่ในหลายเมืองใหญ่ ตั้งแต่ ลองบีช ในคาลิฟอนร์เนีย ไปจนถึง มีนีอาโปลิส ส่วนคนอีกจำนวนหนึ่งที่ไม่ได้อพยพออกนอกประเทศที่ไม่ได้หลบหนีออกนอกประเทศก้หลบหนีอยู่ตามภูเขา และมีจำนวนไม่น้อยที่ยังคงทำการสู้รบต่อไปจนกระทั่งถึงวันนี้ ซึ่งปัจจุบันมีลูกหลานซึ่งอยู่ในช่วงอายุคนช่วงที่สองและกำลังเผชิญกับความอดอยากและหิวโหย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net