ภาพจาก www.ph.mahidol.ac.th/ sunami/images.html
----------------------------

ประชาไท - 26 พ.ค. 48 ศึกชิงพื้นที่แหลมป้อมบานปลาย แกนนำชาวบ้านหอบหลักฐานร้องวุฒิฯ หวั่นโดนดับตามรอย "เจริญ วัดอักษร" ระบุนายทุนทั้งขู่ ทั้งยิง และใช้อำนาจอิทธิพลกลั่นแกล้ง ชี้นักการเมือง-จนท.รัฐพัวพัน

"ถูกไล่ล่าตั้งค่าหัวเดิม 5แสนบาท ตอนนี้ถึง 2 ล้านบาทแล้ว แกนนำที่น่าเป็นห่วง คือ ผมและ ราตรี ต้องอยู่อย่างหลบๆซ่อนๆ" นายสุวิทย์ คงสงค์ แกนนำบ้านแหลมป้อม ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงาให้ข้อมูลกับคณะกรรมาธิการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ วุฒิสภา

นายสุวิทย์ กล่าวว่า ชาวบ้านแหลมป้อมโดยรวมก็คือพื้นที่เดียวกับบ้านน้ำเค็ม ซึ่งโดนผลกระทบจากซึนามิ ก่อนหน้านั้น ราวพ.ศ. 2545 บริษัท ฟาร์อีสต์ฯ เริ่มเข้ามาไล่ที่ และไล่ยิงชาวบ้านราวปลายปี 2546 จึงเริ่มอ้างสิทธิและแสดงเอกสาร ซึ่งบางส่วนเป็นเอกสารที่ทับกับพื้นที่ของชาวบ้านที่มีอยู่เดิม ซึ่งเอกสารนี้ชาวบ้านมีตั้งแต่ปี 2514

นายสุวิทย์กล่าวว่า ขณะนี้ไม่สามารถอยู่ในพื้นที่ได้ เพราะรู้ว่ามีการตั้งค่าหัวสูงถึงสองล้านบาท และมีมือปืนแทรกซึมอยู่ในพื้นที่ นอกจากนี้ยังเคยถูกคุกคามเมื่อวันที่ 28 ธ.ค.2545 โดยมีกลุ่มอิทธิพลนำรถมาขุดดินฝังบ้านของตน

อย่างไรก็ตาม นายสุวิทย์ ระบุว่า ก่อนที่บ้านจะถูกรื้อในเวลา 20.00 น. มีนักการเมืองระดับชาติ ชื่อนำหน้าด้วยตัวอักษร "ส." นั่งรถโฟล์ค คาราแวน ทะเบียน อศ 999 เข้ามาบริเวณหน้าบ้านพร้อมด้วยนายตำรวจ และขบวนรถอีก 20 คันในเวลาประมาณ 15.00-16.00 น. โดยไม่ได้ลงจากรถ

ส่วนนางราตรี คงวัดใหม่ แกนนำอีกคนหนึ่งระบุว่าหลังเหตุการณ์ซึนามิเพียงวันเดียวก็โดนคุกคามอย่างหนักจากบริษัท ฟาร์อีสต์ฯ มีการนำรั้วมากั้นบนพื้นที่ชาวบ้าน แม้แต่จะเข้าไปหาศพก็ไม่ได้ ศพลูกสาวของตนก็อยู่ในนั้น

นางราตรี กล่าวว่า ปัจจุบันยังโดนข่มขู่โดยคนของบริษัทฟาร์อีสต์ฯ จะยิงปืนวันละ 7-8 นัด แต่กลับแจ้งตำรวจว่าชาวบ้านยิง ในขณะที่ชาวบ้านเองเมื่อแจ้งความกับตำรวจว่าโดนขู่ฆ่า ตำรวจกลับไม่รับแจ้ง และกลายเป็นว่าชาวบ้านต้องมาวิตกกับตำรวจ เพราะมีการเข้ามาตรวจในยามวิกาลทั้งๆ ที่ไม่มีหมายค้น และไม่เคยถามเรื่องที่ชาวบ้านถูกคุกคาม ซ้ำยังมีการถ่ายรูปคอยจับผิดเพื่อดำเนินการ จึงเกรงว่าต่อไปอาจถูกยัดเยียดข้อหา

เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเองก็กลั่นแกล้งทุกทาง หลังซึนามิจนปัจจุบันยังไม่มีการต่อไฟฟ้าให้ ทั้งๆ ที่เดิมมีไฟฟ้ามาตั้งแต่ พ.ศ. 2539 ทราบมาว่า บริษัทฟาร์อีสต์ฯ คัดค้านการใช้ไฟฟ้าของชาวบ้าน ส่วนเงินช่วยเหลือที่รัฐเคยออกข่าว ชาวบ้านได้รับเพียงค่าทำศพ ผู้ที่ให้การช่วยเหลือจริงกลับเป็นองค์กรเอกชนรวมทั้งชาวต่างชาติ

ด้านนางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิชย์ ส.ว.ขอนแก่น กล่าวว่า จะนำเรื่องดังกล่าวไปแจ้งให้ มท. 2 ทราบ เพื่อแสวงหาความจริงและจะนำข้อมูลมาเรียนที่ประชุมคราวหน้า

ส่วนที่ประชุม กมธ.พัฒนาสังคมฯ เห็นว่า กรณีดังกล่าวมีความล่อแหลมในความปลอดภัยของประชาชน จึงมีมติร่วมกันให้สอบสวนหาความจริง และต้องออกจดหมายเป็นการเร่งด่วนจาก กมธ.พัฒนาสังคมฯ ถึง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาคที่ 4 เพื่อให้พิจารณาย้ายเจ้าหน้าที่ที่มีลักษณะคุกคามประชาชน จากพื้นที่ในช่วงการสอบสวน

ภาพันธ์ รักษ์ศรีทอง