Skip to main content
sharethis

ประชาไท-25 พ.ค. 48 หลังจากวานนี้ (24 พ.ค.) อนุกรรมาธิการเพื่อการพิจารณาศึกษาแนวทางแก้ปัญหาการดำเนินกิจการด้านการสื่อสารและสารสนเทศมีมติว่า ควรให้มีการปิดสถานีวิทยุชุมชนในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อป้องกันคลื่นแทรกในสถานีวิทยุการบินและสถานีวิทยุหลัก และได้นำเข้าสู่การประชุมของคณะกรรมาธิการการสื่อสารและโทรคมนาคม สภาผู้แทนราษฎรในวันนี้

นายวิชิต ปลั่งศรีสกุล ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย ประธานกมธ.การสื่อสารฯ แถลงมติในที่ประชุมว่า จากการเสนอแนะข้อคิดเห็นของหลายฝ่าย รวมทั้งคณะอนุกรรมาธิการฯ ทางกมธ.การสื่อสารฯ เห็นด้วยกับทุกข้อ แต่เพื่อให้กรมประชาสัมพันธ์และคณะกรรมการกิจการโทรคมนา
คมแห่งชาติ (กทช.) ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ จึงสรุปเป็นข้อเสนอได้ 4 ข้อ

ประการแรก ให้กรมประชาสัมพันธ์และกทช. ดำเนินการกับสถานีวิทยุชุมชนที่ตั้งอุปกรณ์ไม่ได้มาตรฐานในด้านเทคนิคที่ได้ตกลงไว้คือ กำลังส่งเกิน 30 วัตต์ ตั้งเสาอากาศสูงเกิน 30 เมตร จากแนวราบพื้นดิน และมีรัศมีในการส่งเกิน 15 กม. และห้ามติดตั้งสถานีทวนสัญญาณ(Reporter) พร้อมอุปกรณ์พ่วงอื่นโดยเคร่งครัด

ประการต่อมาให้กรมประชาสัมพันธ์ทบทวนการอนุญาตให้สถานีวิทยุชุมชนโฆษณาได้ 6 นาที ใน 1 ชั่วโมง เพราะการโฆษณานั้นเป็นการทำเชิงธุรกิจ และขัดต่อหลักการของวิทยุชุมชน พร้อมทั้งให้กรมประชาสัมพันธ์ตรวจสอบและอนุญาตให้ดำเนินกิจการวิทยุชุมชนได้เฉพาะผู้ประกอบการที่เป็นบุคคลในชุมชน และเพื่อประโยชน์ของชุมชนที่แท้จริง

ประการสุดท้ายให้กรมประชาสัมพันธ์ตรวจสอบให้สถานีวิทยุแต่ละแห่ง ในการตรวจสอบคลื่นความถี่ที่รบกวนวิทยุการบินอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยในการบิน

ด้านนายสุภาพ คลี่กระจาย รองประธานกมธ.การสื่อสารฯ และดำรงตำแหน่งประธานอนุกรรม
การฯ ซึ่งมีมติเมื่อวานนี้ให้ปิดสถานีวิทยุชุมชนในระดับต่างๆ กล่าวว่า ตนเองไม่ขัดแย้ง และไม่ติดใจอะไร เพราะคณะกรรมาธิการใหญ่ไม่จำเป็นต้องทำตามข้อเสนอของอนุกรรมการฯ ถ้าจุดไหนเห็นว่าจะผ่อนปรนได้ก็ทำ

"ถ้าจะให้ปิดหมด ตามมติของที่ประชุมเห็นว่าอาจจะเป็นการโหดร้ายเกินไป แต่ถ้าเป็นในกรณีของการไปรบกวนสถานีวิทยุการบิน อันนี้เป็นจะเป็นเรื่องที่ต้องจัดการโดยเด็ดขาดในกรณีที่เตือนแล้วไม่ฟัง จะต้องทำการสั่งปิด เพราะจะกระทบกับสังคมโดยรวมโดยใช้กฎหมายที่มีอยู่ และให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นผู้ดำเนินการ" นายสุภาพกล่าว

ทั้งนี้ นายสุภาพยังกล่าวถึงข้อห่วงใยในการจัดการสถานีวิทยุชุมชนอีกว่า ที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดในขณะนี้คือ จำนวนของเจ้าพนักงานของทั้ง 2 หน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็นกรมประชาสัมพันธ์หรือกทช.มีไม่เพียงต่อการทำงาน ซึ่งอาจทำให้งานทำงานไม่ต่อเนื่องและกลับมามีปัญหาเหมือนเดิมได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากมติ 4 ข้อดังกล่าว ในที่ประชุมยังมีการเสนอให้วิทยุชุมชนสามารถมีโฆษณาต่อไปได้ โดยนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ และนายอสิ มะหะมัดยังกี กมธ.การสื่อสารฯ เสนอต่อที่ประชุมว่า อยากให้มองว่าการทำวิทยุชุมชนก็เหมือนกับการประกอบอาชีพสุจริตอย่างหนึ่ง ถ้าไม่มีโฆษณาวิทยุชุมชนก็คงอยู่ไม่ได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องอยู่ในกรอบของข้อกำหนดทางเทคนิคในการจัดทำวิทยุชุมชนด้วย

ขณะเดียวกันนายเชน เทือกสุบรรณ รองประธานกมธ.การสื่อสารฯ เสนอในที่ประชุมว่าเป็นการรวบรัดที่เร็วเกินไปสำหรับการลงมติในการหาแนวทางการแก้ไขในวันนี้เพื่อยื่นเสนอต่อรัฐบาล หากจะเสนอให้มีการสั่งปิดวิทยุชุมชน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อประชาชน และจะไปเกี่ยวเนื่องกับการละเมิดสิทธิ เสรีภาพ ตามกฎรัฐธรรมนูญ ดังนั้นจึงน่าจะมีการศึกษาข้อมูลให้ชัดเจนกว่านี้ก่อน

สิรินภา อิ่มศิริ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net