หวั่นรัฐเลยธงสมานฉันท์ ปิดทางดับไฟใต้

ภาพจาก กรุงเทพธุรกิจ
--------------------------------
ประชาไท -- 23 พ.ค. 48 -- "ก็มีความหวังว่า แนวทางสมานฉันท์ เป็นแนวทางที่สามารถที่จะทำให้ชาวบ้านให้เกิดความหวังขึ้นมาได้ แต่ว่าอาจจะเป็นความหวังครั้งสุดท้ายที่ชาวบ้านจะมีให้กับรัฐบาลก็ได้ ตรงนี้ก็เป็นภาระหนักว่าถ้าเราไม่สามารถที่จะทำให้เกิดความรู้สึกในทางสมานฉันท์ได้ ก็อาจจะทำให้เกิดปัญหาที่หนักขึ้นกว่าเดิม"

พระไพศาล วิสาโล กรรมการสมานฉันท์แห่งชาติ กล่าวในการให้สัมภาษณ์รายการ "มิติใหม่ ไทยแลนด์" ทางสถานีโทรทัศน์ ช่อง 11 โดยระบุว่า แนวทางแก้ปัญหาความรุนแรงภาคใต้นั้น มีหลายวิธี วิธี เช่นการเปิดพื้นที่ให้ชาวบ้านได้รักษาวิถีชีวิต และชุมชนด้วยสันติวิธี ซึ่งเป็นแนวทางของการสมานฉันท์ โดยพระไพศาลกล่าวว่า ขณะนี้พื้นที่ของชาวบ้านแคบลงเรื่อย ๆ จนกระทั่งชาวบ้านทำอะไรไม่ได้ ไม่กล้าพูด ยิ่งมีกฎอัยการศึกค้ำคอชาวบ้านก็ยิ่งไม่กล้าพูด

ทั้งนี้ พระไพศาลระบุว่า ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในภาคใต้นั้น เป็นเรื่องของทัศนคติประกอบกับทักษะทั้งฝ่ายชาวบ้านและฝ่ายเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งทักษะสันติวิธีนี้แทบไม่ได้สอนกัน เช่น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตำรวจก็คิดว่าต้องใช้กระบอง ใช้โล่ ในการสลายการชุมนุม

สำหรับรัฐบาลปัจจุบัน แม้จะมียุทธศาสตร์สันติวิธี แต่ก็ไม่มีการอบรม ไม่มีการฝึกบุคลากรด้านสันติวิธี ซึ่งขณะนี้ก็ยังไม่ถือว่าสายเกินไปที่จะดำเนินการ

พระไพศาลกล่าวต่อไปว่า ก่อนหน้านี้ มีการผลักดันตั้งแต่วิธีคิด วิธีการทำงาน แต่ไม่ได้เอามาใช้ ก็มีการฝึกอบรม ตชด. มีการอบรมจากสภาความมั่นคงแห่งชาติ กับกรรมการยุทธศาสตร์สันติวิธี และร่วมจัดให้กับหน่วยงานปกครอง แต่กระบวนการอบรมต่าง ๆ ก็มายุติในสมัยรัฐบาลทักษิณ ในปี พ.ศ. 2545

"อาตมาเสียดายในกรณีที่ตากใบ เราไม่ได้ใช้สันติวิธี อย่างมากที่เราทำก็คือ ใช้รถดับเพลิงมาฉีดน้ำ แต่พอไม่สำเร็จก็เอาทหารมา ซึ่งทหารไม่ได้ฝึก แม้กระทั่งตำรวจปราบจลาจลก็ไม่เคยฝึกเรื่องสันติวิธี เลือกวิธีการปราบแต่ไม่ได้ฝึกวิธีการแก้ปัญหาอย่างนุ่มนวล การสลายและการแยกน้ำกับน้ำมันออกจากกัน แยกระหว่างแกนนำที่ก่อความวุ่นวายกับชาวบ้านที่เป็นแค่แนวร่วม"

ในส่วนของ กอส. นั้น พระไพศาลกล่าวว่า ยังไม่มีการดำเนินการด้านสันติวิธีจริงจังเพราะอนุกรรมการด้านสันติวิธีเพิ่งตั้งขึ้น ต้องเริ่มทำงานกับทางพื้นที่ ต้องคุยกับหน่วยงานของรัฐ เช่น กอ.สสส.จชต. มหาวิทยาลัยในพื้นที่ มัสยิด กรรมการอิสลามประจำจังหวัดต่างๆ รวมถึงเจ้าหน้าที่ ตำรวจ และทหาร

"เพราะขณะนี้เราก็ไม่สามารถจะวางใจได้ว่าความสงบจะเกิดขึ้น อาจจะต้องมีการประท้วง อาจจะต้องมีความไม่พอใจ เพราะการที่จะฝึกในเรื่องของการแก้ไขความขัดยังด้วยสันติวิธีเป็นสิ่งจำเป็น แต่ว่าสิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือเรื่องความอยุติธรรมที่เกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐ การอุ้ม การละเมิดสิทธิมนุษยชน ก็ต้องยุติด้วย"

สำหรับมาตรการในระยะใกล้ พระไพศาลกล่าวว่า ต้องฟื้นความไว้วางใจระหว่างรัฐกับประชาชน
และฟื้นความไว้วางใจระหว่างประชาชนด้วยกันหนึ่ง นอกจากนี้ ต้องพยายามกระตุ้นให้ประชาชนฟื้นฟูให้เกิดความร่วมมือกัน เช่นเวลาที่มีสัญญาณดี ๆ หลาย ๆ อย่าง เช่น การที่ชาวพุทธร่วมสร้างมัสยิดบางแห่งในจังหวัดนราธิวาส สะท้อนให้เห็นถึงความรู้สึกที่ดี ๆ ระหว่างชาวพุทธกับชาวมุสลิม

"สันติวิธีคือ เราสามารถหาทางออกที่เป็นประโยชน์กับทั้ง 2 ฝ่ายแต่ก็มีกรณีที่แก้ไม่ได้ก็คือเมื่อความขัดแย้งมันลุกลาม มีเรื่องศักดิ์ศรี หน้าตา ผลประโยชน์ และมีกองเชียร์ของทั้ง 2 ฝ่ายมาหนุนให้ความขัดแย้งลุกลาม ปัญหาคือว่าส่วนใหญ่เราไม่ฟัง เราไม่รู้จักขอโทษ เราไม่เปิดใจ" พระไพศาลกล่าวในที่สุด

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท