กรุงเทพฯ- 19 พ.ค.48 นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย คาดว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ(จีดีพี) ในปี 2548 จะชะลอตัวลงจาก 6.1% ในปี 2547 มาอยู่ที่ระดับ 4.8-5.3% จากเดิมที่คาดว่าจีดีพีจะอยู่ที่ระดับ 5.5-6.0%

โดยปัจจัยเสี่ยงที่ส่งผลให้ต้องมีการปรับลดจีดีพีในปีนี้ลงมาจากแนวโน้มการปรับขึ้นราคาน้ำมันในประเทศที่คาดว่า ราคาน้ำมันดีเซลจะปรับตัวสูงขึ้นถึงลิตรละ 3.60 บาท แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในประเทศที่จะปรับตัวสูงขึ้นประมาณ 0.5-0.75% ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ รวมถึงอัตราแลกเปลี่ยนของค่าเงินบาทที่เฉลี่ยประมาณ 39.5 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ นอกจากนี้ยังมีผลกระทบจากเหตุความไม่สงบในภาคใต้และปัญหาไข้หวัดนกอีกด้วย

อย่างไรก็ตามในปี 48 ยังคงมีปัจจัยบวกที่ส่งผลดีต่อภาวะเศรษฐกิจไทยอยู่บ้าง เนื่องจากเศรษฐกิจโลกยังอยู่ในวัฏจักรช่วงขาขึ้น โดยเศรษฐกิจและปริมาณการค้าโลกยังคงขยายตัวอยู่ในระดับสูง อีกทั้งรัฐบาลยังดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำและการเพิ่มงบประมาณกลางปี 50,000 ล้านบาท

นอกจากนี้การลงทุนของภาครัฐในโครงการขนาดใหญ่(เมกะโปรเจกต์) ในช่วงปี 2548-2552 ด้วยเงินลงทุนถึง 1.702 ล้านล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะทำให้มีเงินลงทุนหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจปีนี้ประมาณ 20,000-50,000 ล้านบาท