ประชาไท--27 เม.ย. 48 "วันนี้ที่ต้องขึ้นป้ายเรียกร้องเรื่องที่บริษัทฮุบเอาที่ดินวะกัฟ เพื่อให้สังคมรู้ว่าบริษัททีทีเอ็มกำลังฮุบที่ดินวะกัฟ เพื่อก่อสร้างโรงแยกก๊าซ ซึ่งวันนี้ถือว่ากลุ่มคัดค้านได้ทำหน้าที่ของคนมุสลิมที่รู้เรื่องดินวะกัฟแล้วต้องมาบอกต่อพี่น้องมุสลิมคนอื่นๆให้รับรู้หรือให้ผู้ที่หลงผิดไปได้กลับใจเสียใหม่ เพื่อไม่ต้องไปตอบคำถามกับองค์อัลเลาะฮฺและจะไม่ถูกลงโทษในวันที่จากโลกนี้ไป" นางสุไรด๊ะห์ โต๊ะหลี หนึ่งในผู้คัดค้านโครงการท่อก๊าซไทย-มาเลเซียให้กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการขึ้นป้ายคัดค้านโครงการดังกล่าว

ทั้งนี้ กลุ่มคัดค้านโครงการท่อก๊าซฯ จำนวนกว่า 200 คนได้รวมตัวกันที่ลานหอยเสียบ อ.จะนะ จ. สงขลา โดยสวมเสื้อแดงและถือธงแดง มุ่งหน้าไปปักป้าย จำนวน 7 ป้าย ตามชุมชนต่าง ๆ

ป้ายทั้ง 7 มีเนื้อหาเรียกร้องให้ชาวมุสลิมคัดค้านการเดินท่อก๊าซผ่านที่ดิน "วะกัฟ"" ซึ่งเป็นที่ดินซึ่งได้อุทิศให้กับองค์อัลเลาะห์ซึ่งตามหลักศาสนาถือเป็นที่ดินของอัลเลาะห์ ห้ามซื้อขาย แลกเปลี่ยน และถือเป็น "วายิบ" หรือหน้าที่ที่มุสลิมต้องร่วมกันปกป้อง

หลังจากนั้น กลุ่มผู้คัดค้านได้เคลื่อนขบวนเข้าไปในโรงแยกก๊าซเพื่อสำรวจที่ดินวะกัฟ ซึ่งบริษัท ทรานส์ไทย-มาเลเซียเข้าไปครอบครองและได้ทำการเปลี่ยนสภาพ ทำรั้วปิดกั้น และใส่กุญแจอย่างแน่นหนา โดยกลุ่มผู้คัดค้านถือว่าการกระทำของบริษัทฯ เป็นการทำลายหลักการของศาสนาอิสลาม

กลุ่มผู้คัดค้าน ระบุว่าบริษัททรานส์ ไทย-มาเลเซีย ครอบครองที่สาธารณะประโยชน์โคกชายทะเลโดยมิชอบ และที่ผ่านมากลุ่มคัดค้านได้ดำเนินกิจกรรมที่กลุ่มคัดค้านฯ ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง เพราะเห็นว่า รัฐบาล กลไกของรัฐ บริษัทเอกชน และบริษัทต่างชาติ ร่วมมือกันละเมิดสิทธิชุมชน ละเมิดหลักการศาสนาอิสลามเพียงเพื่อผลประโยชน์ของตนและพวกพ้อง หากปล่อยให้เป็นไปโดยขาดการตรวจสอบและการมีส่วนร่วมของประชาชน ย่อมเป็นผลเสียหายกับประเทศ จึงเรียกร้องให้บริษัทและรัฐหยุดทำลายศาสนาอิสลาม หยุดการคอร์รัปชั่น โดยการหยุดโครงการท่อก๊าซไทย-มาเลเซีย

อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่กลุ่มคัดค้านได้ชี้แจงให้กับส่วนราชการและหน่วยงานต่างๆให้รับทราบและรียกร้องให้ลงมาดำเนินการแก้ไขปัญหา เช่น ร้องเรียนต่อนายอำเภอจะนะและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้ลงมาตรวจสอบข้อเท็จจริง แต่จนกระทั่งปัจจุบันก็ยังไม่ได้รับการชี้แจงที่ชัดเจนและยังไม่มีการดำเนินการแก้ไขปัญหาแต่อย่างไร