กรุงเทพฯ- 23 เม.ย.48 วันนี้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จลง ณ ศาลา
ดุสิดาลัย สวนจิตรลดา พระราชวังดุสิต พระราชทานพระราชวโรกาสให้คณะลูกเสือชาวบ้าน สมาชิกไทยอาสาป้องกันชาติ สมาชิกราษฎรอาสาพัฒนาป้องกันตนเอง สมาชิกกองหนุนเพื่อความมั่นคงของชาติ สมาชิกราษฎรอาสาสมัครพิทักษ์ป่าและสมาชิกราษฎรอาสารักษาหมู่บ้าน เฝ้าทูล
ละอองธุลีพระบาท ถวายพระพรเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ และทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายพานพุ่ม

ในโอกาสนี้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระราชทานพระราชดำรัส แก่คณะผู้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทสรุปใจความสำคัญว่า เหตุการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มีการเข่นฆ่าไม่เว้นแต่ละวัน และเกิดเหตุระเบิดเพิ่มมากขึ้น ได้สร้างผลกระทบต่อชีวิต ทรัพย์สิน และบรรยากาศการท่องเที่ยวอย่างมาก

ซึ่งขณะนี้ประเทศไทยมีภัยจริงๆ และไม่ทราบว่าจะขอร้องพูดจากับใคร นึกถึงพวกท่าน แต่ข้าพเจ้าไม่ได้จะยุให้จับอาวุธ ฆ่าฟันใคร ไม่ใช่เช่นนั้น เพราะพวกเราเป็นประชาชน ไม่ได้มีหน้าที่ปราบ
ปราม เพียงแต่อย่าได้อยู่เฉยๆ เพราะเมื่อนิ่งเฉยประเทศชาติก็จะเป็นอันตราย

คนไทยทั้งหลายเป็นเจ้าของประเทศ เราต้องแสดงให้เห็นถึงภัยที่มีต่อประเทศ นึกถึงจิตใจของประชาชนที่อยู่ในภาคใต้ที่ประสบปัญหามานาน ให้ร่วมกันประณามการกระทำดังกล่าวว่า ไร้มนุษยธรรม ให้พวกใจอำมหิตได้รู้ว่าเรายอมไม่ได้กับการเข่นฆ่า

นอกจากนี้ เรามาช่วยกันสอดส่องดูแลความเคลื่อนไหว ความผิดปกติที่อาจจะเกิดผลเสียต่อชาติบ้านเมือง ต้องช่วยเหลือเพื่อนร่วมชาติ และช่วยป้องกันทรัพย์สินของทางราชการที่มาจากเงินภาษีอากรของพวกเรา เราจะมอบหมายให้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลอย่างเดียวไม่ได้ เราต้องช่วยกัน โดยไม่ถืออาวุธ ร่วมแสดงความคิดเห็นว่า เป็นสิ่งโหดร้าย และมีผลกระทบต่อคนไทย ตัดสิทธิ์ของคนไทย ให้กลายเป็น คนตาบอดแขนขาด

ข้าพเจ้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่าพวกท่านทั้งหลาย ซึ่งได้สาบานไว้แล้วว่า จะปกปักรักษาพื้นแผ่นดินไทย จะได้ช่วยกันรักษาแผ่นดินให้กับลูกหลานต่อไป ขออวยพรให้พวกท่านประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ชีวิตครอบครัว และกุศลทั้งหลายที่ข้าพเจ้าได้กระทำมา ขอให้พวกท่านเดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ ขอขอบใจ