Skip to main content
sharethis

ประชาไท - 21 เม.ย.48 ในการประชุมร่วมกันระหว่างสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ. 41 ฉบับซึ่งค้างพิจารณาเพราะรัฐบาลชุดที่แล้วหมดวาระลง และรัฐบาลชุดปัจจุบันทำการยืนยันต่อรัฐสภาในวันนี้ (21 เม.ย.) ตามมาตรา 178 มีการอภิปรายร่างกฎหมายสำคัญหลายฉบับ

แจงปัญหาพ.ร.บ.ค่าธรรมเนียมฯ

นายสมบูรณ์ ทองบุราณ ส.ว.ยโสธร กล่าวถึงร่างพ.ร.บ.ค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนตร์บนทางหลวงและสะพาน ว่าสมาชิกวุฒิสภาส่วนใหญ่มีมติไม่รับไปแล้ว หากวันนี้สภารับกฎหมายดังกล่าวก็ไปสู่การพิจารณาของส.ส. โดยที่ส.ว.ไม่สามารถเข้าไปร่วมพิจารณาได้อีก

"ผมไม่ติดใจ ถ้าในรอบปีเก็บแล้วเอาไปให้รัฐมนตรีคลัง ผ่านรัฐสภา จะเอาไปทำอะไรเท่าไร แต่จะหักคอว่าเงินที่เก็บได้ไม่ต้องผ่านสภา ให้ผู้ว่าการทางด่วนพิจารณาเอาไปทำอะไรต่อได้เลย อย่างนั้นมีสภาไปทำไม ดังนั้นถ้าถอนได้จะดีมาก เพราะมีข้อผิดพลาดอยู่" นายสมบูรณ์กล่าว

"สัก" ชี้รัฐผ่านกฎหมายซ้ำเติมลูกหนี้

นายสัก กอแสงเรือง ส.ว.กรุงเทพฯ กล่าวถึง ร่างพ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติม กฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ที่ปรับปรุงการบังคับคดี การคุ้มครองสิทธิเจ้าหนี้และลูกหนี้ในการการบังคับคดีและอัตราค่าธรรมเนียมว่า ประเด็นที่มีการยับยั้งกฎหมายฉบับนี้ คือ อัตราค่าธรรมเนียมในการบังคับคดี ซึ่งไป กำหนดธรรมเนียมขายทอดตลาดร้อยละ 3 และไม่มีเพดาน หากยึดแล้วไม่ขายทอดตลาดกำหนดไว้ที่ร้อยละ 2 จากเดิมที่กำหนดไว้ที่ร้อยละ 2.5และ2 ตามลำดับโดยกำหนดเพดานไว้ด้วย

ดังนั้นวุฒิสภาจึงเห็นว่าเป็นค่าธรรมเนียมอำนวยความสะดวกต่อคู่ความ ควรยุติธรรมและไม่แพงจึงแก้ไขค่าธรรมเนียมการขายทอดตลาดเป็นร้อยละ 1 และไม่เกิน 100,000 บาท หากยึดแล้วไม่ขายทอดตลาดคิดร้อยล 0.5 และไม่เกิน 50,000 บาท

"ถ้าคิดตามที่ร่างกฎหมายกำหนดรวมแล้วทุกกระบวนการลูกหนี้ต้องเสียค่าธรรมเนียมต่างๆ มากถึง ร้อยละ10.5 ทำไมทรัพย์สินของจำเลยจะต้องแบ่งให้รัฐมากขนาดนั้น ทำไมไม่เอาไปใช้หนี้เจ้าหนี้มากกว่าที่เป็นอยู่ เพราะเจ้าหน้ารัฐก็ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรมากมาย เรื่องนี้กรรมาธิการร่วมก็เห็นด้วยกับวุฒิฯ ที่ให้ลดค่าธรรมเนียม แต่รัฐบาลกลับไม่เห็นด้วย" นายสักกล่าว

นางมาลีรัตน์ แก้วก่า ส.ว.สกลนคร กล่าวว่า หนึ่งไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งที่จะผ่านกฎหมาย 3 ฉบับที่ส.ว.เสียงข้างมากได้ยับยั้งตามมาตรา 175 อนุ 3 ไปแล้วคือ ร่างกฎหมายทางหลวง ร่างกฎหมายกำหนดค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนตร์บนทางหลวง และค่าธรรมเนียมการขายทอดตลาด ซึ่งเป็นการยับยั้งหลังกมธ.ร่วมพิจารณาแล้ว รัฐบาลจึงน่าจะไปทบทวนใหม่

ซัดรัฐบาลดองกฎหมายปกป้องผู้หญิง

นอกจากนี้นางมาลีรัตน์ยังเสนอให้รัฐบาลทบทวนเสนอเพิ่มเติมในร่างพ.ร.บ.ขจัดความรุนแรงในครอบครัว ซึ่งเป็นกฎหมายที่มีการนำเสนอทั้งพรรคฝ่ายค้านฝ่ายรัฐบาล มีการรับฟังเสียงประชาชนเกิน 2000 คน โดยออกรับฟัง 8 ครั้ง

"เราพบว่าผู้หญิงถูกทำร้ายร่างกาย 1 ใน3 เคยคิดฆ่าตัวตาย จนผู้หญิงบางคนที่ฆ่าตัวตายแต่รอดมาได้ตั้งคำถามกับดิฉันว่าต้องรอให้คนอย่างพวกเธอตายอีกเท่าไร กฎหมายนี้ถึงจะออก" นางมาลีรัตน์กล่าว

ส่วนร่างพ.ร.บ.สภาการเกษตรแห่งชาติ ซึ่งนำเสนอโดยภาคประชาชน และรัฐบาลไม่ได้ยืนยันเพื่อพิจารณาต่อในวันนี้นั้น มีการอภิปรายกันกว้างขวางพอสมควร โดยนายสุรสิทธิ์ นิติวุฒิวรรักษ์ ส.ส.ชลบุรี กล่าวชี้แจงปัญหาที่ยังไม่มีการนำมาพิจารณาว่า ร่างกฎหมายนี้ไม่ได้กำหนดหลักการเพื่อเป็นผู้ให้คำปรึกษาหรือเหมือนสภานิติบัญญัติ แต่สภาการเกษตรเข้าไปเกี่ยวข้องกับการบริหารงาน จนมีคนวิพากษ์ว่าถ้ามีสภาการเกษตรแล้วจะมีกระทรวงเกษตรเอาไว้ทำอะไร รวมทั้งเรื่องงบประมาณด้วย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net