Skip to main content
sharethis

ยะลา- 18 เม.ย.48 พ.อ.สมควร แสงภัทรเนตร โฆษกกองอำนวยการเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กอ.สสส.จชต.) เปิดเผยว่า ได้ขอเลื่อนการเข้าพบผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดยะลา เพื่อทำความเข้าใจกรณีที่กอ.สสส.จชต.และกรมสอบสวนคดีพิเศษ นำกำลังเข้าล้อมและตรวจบ้านของนายอับดุลเลาะ หะยีสะมะแอ ดาโต๊ะยุติธรรมประจำศาลจังหวัดยะลา เหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากพ.อ.สมควร ติดภารกิจการปฐมนิเทศข้าราชการใหม่ที่จังหวัดปัตตานี

พ.อ.สมควรยังกล่าวอีกว่า ส่วนจะเข้าพบอีกครั้งเมื่อใดนั้นตนจะปรึกษากับหัวหน้าศาลจังหวัดยะลาอีกครั้ง

ทั้งนี้ พ.อ.สมควรได้รับมอบหมายจาก พล.อ.พิศณุ อุไรเลิศ เจ้ากรมกิจการพลเรือน ในฐานะเลขาธิการกองอำนวยการเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ไปพบกับหัวหน้าศาลจังหวัดยะลา แทน เนื่องจาก พล.อ.พิศณุ ติดภารกิจสำคัญ

"ผมได้รับมอบหมายให้ไปพบกับหัวหน้าศาลจังหวัดยะลาเพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว แต่เนื่องจากตนติดภารกิจสำคัญ จึงได้ให้ พ.อ.สมควร แสงภัทรเนตร โฆษกกองอำนวยการเสริม สร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ไปพบหัวหน้าศาลจังหวัดยะลาแทน" พล.อ.พิศณุกล่าว

ก่อนหน้านี้ นายอับดุลเลาะได้เข้าขอความเป็นธรรมต่อผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดยะลาแล้ว โดยนายอับดุลเลาะระบุว่า เจ้าหน้าที่ไม่ให้เกียรติตนที่มีฐานะเป็นดาโต๊ะยุติธรรม

ทำให้ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดยะลา ได้เรียกนายอับดุลเลาะ พร้อมด้วยผู้พิพากษามาร่วมประชุมหารือถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเห็นว่าการตรวจค้น โดยนำกำลังตำรวจ ทหารเข้าล้อมบ้าน เป็นสิ่งที่ไม่สมควรกระทำ และยังเป็นการไม่ให้เกียรติบุคลากรในกระบวนการยุติธรรม จึงเชิญตัวแทนของทั้งสองหน่วยงานมาชี้แจงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

สำหรับเหตุการณ์ตรวจค้นดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 9.00 น. วันที่ 11 เมษายน 2548 โดยเจ้าหน้าที่จากกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมกำลังทหารจากกองอำนวยการเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ 20 นาย ได้เดินทางไปยังบ้านของนายอับดุลเลาะ เลขที่ 61/1 หมู่ที่ 4 ตำบลลำใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดยะลา โดยแจ้งว่าต้องการมาพบนายไฟซอล หะยีสะมะแอ บุตรชายของนายอับดุลเลาะ แต่นายไฟซอลไม่อยู่ เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงกระจายกำลังปิดล้อมและเข้าตรวจค้นในบ้าน โดยใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง แล้วถอนกำลังกลับไป

ต่อมา เวลา 16.00 น. วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปที่บ้านหลังดังกล่าวอีกครั้ง และได้ตรวจสอบคอมพิวเตอร์ภายในบ้าน พร้อมกับยึดข้อมูลในฮาร์ดดิสก์ไป โดยได้แจ้งกับนายอับดุลเลาะว่า พบข้อมูลส่วนผสมของสารเคมีบางอย่าง

ขณะที่นายอับดุลเลาะยืนยันว่า เป็นสูตรเคมีในวิชาวิทยาศาสตร์ สาขาฟิสิกส์และเคมี ของบุตรชายอีกคนที่กำลังเรียนอยู่ในโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง เตรียมไว้ทำรายงานส่งให้อาจารย์ผู้สอน ขณะนี้พนักงานสอบสวนกำลังตรวจสอบว่าเกี่ยวข้องกับขบวนการเยาวชนกู้ชาติปัตตานีด้วยหรือไม่

สำหรับ นายไฟซอล อายุ 22 ปี บุตรชายของนายอับดุลเลาะ ถูกตำรวจออกหมายจับในข้อหาเป็นผู้วางระเบิดสนามบินนานาชาติหาดใหญ่ มีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครอง ร่วมกับพวกฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่น เป็นภัยกับความมั่นคง อั้งยี่ ซ่องโจร แต่ปรากฏว่าหลังจากศาลออกหมายจับนายไฟซอล และพวกได้หลบหนีไปก่อนหน้านี้แล้ว

ทั้งนี้ก่อนจะออกหมายจับ ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนของ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจแห่งชาติส่วนหน้าของ พล.ต.ท.ไพศาล ตั้งใจตรง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สืบสวนจากซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือ ที่ตรวจยึดได้จากระเบิดแสวงเครื่อง ที่คนร้ายนำมาวางที่ถังขยะหน้าห้างโรบินสันสาขาหาดใหญ่ แต่ระเบิดไม่ทำงาน จนทราบว่า ซื้อมาจากร้านขายโทรศัพท์มือถือแห่งหนึ่งในย่านจตุจักร ในเขตเทศบาลนครยะลา พนักงานสอบสวนจึงนำตัวเจ้าของร้านไปสอบสวนขยายผล จนทราบว่าผู้ที่ซื้อซิมการ์ดดังกล่าวไปคือนายไฟซอล โดยซื้อไป 5 อันด้วยกัน

ประกอบกับมีหลักฐานภาพจากทีวีวงจรปิดที่สนามบินหาดใหญ่ ที่สามารถจับภาพนายไฟซอลไว้ได้ ก่อนที่จะเกิดเหตุระเบิดขึ้น อีกทั้งยังตรงกับภาพสเก๊ตช์ผู้ต้องสงสัยในคดีนี้ และพนักงานสอบสวนได้นำภาพถ่ายดังกล่าวไปให้พยานที่อยู่ในเหตุการณ์ดู ได้รับการยืนยันว่าเห็นนายไฟซอลอยู่ในที่เกิดเหตุก่อนจะเกิดระเบิดขึ้น

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net