ประชาไท-12 เม.ย. 2548 "แม้ว" คาด "คลัง" มีรายได้สุทธิเกิน 50,000 ล้านบาท คณะรัฐมนตรี เห็นชอบ ทำเป็น "งบกลาง" พร้อมดึง 9,400 ล้าน บาท ลง โครงการพัฒนาศักยภาพหมู่บ้านหรือชุมชน(SML) เชื่อ มีผลทางเศรษฐกิจ บรรเทาพิษราคาน้ำมัน

ทำเนียบรัฐบาล วันนี้ (12เม.ย. 48) พ.ต.ท ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลมีความต้องการที่จะรักษาวินัยทางการคลังเพื่อที่จะเข้าสู่ภาวะงบประมาณสมดุลให้ได้ โดยใช้งบกลางเป็นตัวเริ่ม ทั้งนี้คาดว่า ปีนี้น่าจะมีรายได้เกินราว 50,000 ล้านบาท โดยครม.เห็นควรจัดเป็นงบกลาง นอกจากนี้ยังเห็นว่าน่าจะมีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะบางส่วนจะนำมาใช้ในโครงการ SML ซึ่งลงสู่ฐานรากและกระตุ้นแรงซื้อ น่าจะมีผลทางเศรษฐกิจ บรรเทาผลกระทบจากราคาน้ำมันได้

ด้าน น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รายได้สุทธิปี งบ
ประมาณ 2548 กระทรวงการคลังคาดว่าน่าจะมี ประมาณ 1,250,000 ล้านบาท โดยสูงกว่าประมาณการจำนวน 50,000 ล้านบาท หรือร้อยละ 4.2 คณะรัฐมนตรีมีความเห็นว่าน่าจะใช้ดำเนินการในลักษณะงบกลางเช่นเดียวกับปีงบประมาณ 2547 เพราะมีความคล่องตัวสูงในการบริหารจัดการ

น.ส.ศันสนีย์ กล่าวต่อว่า งบกลางดังกล่าวแบ่งออกเป็นเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น 17,000 ล้านบาท เช่น กรณีซึนามิ ซึ่งต้องมีงบจัดการแก้ไข รวมทั้งอาจเตรียมพร้อมไว้สำหรับสถานการณ์อื่น

นอกจากนี้ยังมีเงินสำหรับผู้ว่าราชการจังหวัดแบบบูรณาการ หรือซีอีโอ 15,000 ล้านบาท เงินสำหรับพัฒนาศักยภาพ หมู่บ้านหรือชุมชน (SML) 9,400 ล้านบาท เงินสำหรับแก้ไขปัญหาความยากจนหรือเดือดร้อน 4,000 ล้านบาท และเงินสำหรับอุดหนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินการตามมาตรการแก้ปัญหาภัยแล้ง 4,600 ล้านบาท

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงเงินที่ใช้แก้ปัญหาความยากจนซึ่งเคยจัดสรรไปแล้วว่าทำไมต้องจัดงบกลางไปเพิ่มอีก น.ส.ศันสนีย์ ตอบว่า งบประมาณจริงที่ต้องใช้แก้ปัญหาความยากจนของปี 2548 นั้น ต้องใช้งบประมาณประมาณ 13,526 ล้านบาท แต่ครั้งที่แล้วจัดสรรงบประมาณไปเพียง 8,038 ล้านบาท จึงยังเหลืองบประมาณที่ต้องจัดสรรเพิ่มในส่วนนี้อีก 5,488 ล้านบาท จึงนำงบกลางดังกล่าวจัดสรรเพิ่มเติมในส่วนนี้

อย่างไรก็ตาม เงินงบกลางจำนวน 50,000 ล้านบาทนี้ น่าจะมีผลมาจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ต่อเนื่องมาตลอด 3 ปี ทำให้สามารถเก็บภาษีได้มากกว่ากำหนดอย่างต่อเนื่อง

ภาพันธ์ รักษ์ศรีทอง