ประชาไท -28 มี.ค.48 " ในขณะนี้ประเทศไทยกำลังประสบปัญหาที่ดิน น่าจะมีความรุนแรงมากกว่านี้หลังจากทำข้อตกลงเอฟทีเอ" รศ. จักรกฤษณ์ ควรพจน์ กล่าวปาฐถาเรื่อง "เอฟทีเอไทย-สหรัฐฯ กับอนาคตประเทศไทย" ในงานสัมมนาวิชาการสาธารณะเรื่องจับตาการเจรจาเอฟทีเอ ไทย - จีน รอบที่ 3 เพื่อเตรียมความพร้อมและแสดงจุดยืนต่อเจรจาข้อตกลงการค้า (เอฟทีเอ) ไทย - สหรัฐ ซึ่งครอบคลุมปัญหาเรื่องสิทธิบัตรยา พันธ์พืช พันธ์สัตว์ และการเกษตร

โดยคณะกรรมาธิการต่างประเทศ ภายใต้คณะกรรมาธิการพัฒนาสังคมและทรัพยากรมนุษย์ วุฒิสภา คณะกรรมการสิทธิมนุษย์ชน กลุ่มWTO WATCH และกลุ่ม FTA WATCH เป็นองค์กรร่วมจัดงาน

รศ.จักรกฤษณ์ กล่าวอ้างถึงคำกล่าวของ โธมัส มัลธัส ซึ่งทำนายไว้เมื่อประมาณสองร้อยกว่าปี คือการแย่งชิงทรัพยากรที่ดินจะเป็นปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของมนุษย์ชาติ อันเนื่องจากประชากรเพิ่มขึ้นทั้งที่ทรัพยากรก็มีอยู่เพียงจำกัด และไม่สามารถตอบสนองความต้องการพื้นฐานได้

ด้าน ดร.จิราพร ลิ้มปานานนท์ หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการวิจัยเภสัชกรศาสตร์สังคม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ข้อเสนอให้ยกเลิกการเจรจาข้อตกลงเรื่องสิทธิบัตรยาเพราะประเทศไทยทำตามข้อตกลงทางการค้าขององค์การค้าโลก (WTO) เรียบร้อยแล้ว

ในกรณีที่ไม่สามารถยกเลิกเจรจาเรื่องสิทธิบัตรยาให้ออกจากเอฟทีเอได้ โดยยื่นข้อเสนอให้ยกเว้นการจดสิทธิบัตรยาเฉพาะส่วนที่เกี่ยวกับชีวิต อาทิ โรคเรื้อรังคือโรคเอดส์ โรคหัวใจ และโรคที่สูญเสียค่าใช้จ่ายสูงจำพวก โรคมะเร็ง โรคไต เป็นต้น

ทั้งนี้ การจดสิทธิบัตรยาด้านกรรมมาวิธี ตาม พ.ร.บ.ทรัพย์สินทางปัญญาซึ่งจะครอบคุ้มเฉพาะการทดลองและพัฒนาเท่านั้น แต่ไม่คุ้มครองในด้านการผลิตภัณฑ์ที่มีการพัฒนาต่อยอดเพื่อการผลิต ภัณฑ์ยาออกสู่ตลาดได้ เพราะถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิบัตรยาเกี่ยวกับวัสดุดิบที่เป็นส่วนประกอบผลิตภัณฑ์ยาที่จดสิทธิบัตร

นายบัณฑูร เศรษฐศิโรตม์ ผู้อำนวยการโครงการนโยบายฐานทรัพยากรฯ แถลงจุดยืนว่า ให้นำประเด็นเรื่องการขยายหรือการเพิ่มความเข้มงวดในการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาออกจากการเจรจาเอฟทีเอ

เนื่องจากข้อตกลงที่เข้มงวดกว่าที่กำหนดในข้อตกลงทริปส์ขององค์การค้าโลก และการให้สิทธิผูกขาดสิ่งที่มีชีวิตตามระบบสิทธิบัตรเป็นเรื่องที่ขัดต่อการค้าเสรี และก่อให้เกิดผลกระทบอย่างรุนแรงและกว้างขวางต่อประชาชนไทยในการเข้าถึงการรักษาผู้ป่วย ทำให้พันธ์พืชสัตว์ราคาสูงขึ้น สร้างปัญหาการผูกขาดปัจจัยทางการผลิตทางการเกษตร โดยอาศัยการคุ้มครองสิทธิบัตรสิ่งมีชีวิต

จันทร์สวย จันเป็ง