Skip to main content
sharethis

กรุงเทพฯ-24 ก.พ. 48 วันพรุ่งนี้ (25 ก.พ.) คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ จะออกแถลงการณ์ถึงนายกรัฐมนตรีเสนอให้ทบทวนนโยบายของรัฐบาลในการแบ่งโซนหมู่บ้านในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

"คณะกรรมการสิทธิฯเห็นว่า รัฐบาลจะต้องเคารพและปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญอย่างเคร่งครัด หลัง จากนี้จะมีการรวบรวมกรณีแนวนโยบายต่างๆ ของรัฐบาลที่เห็นว่า เข้าข่ายการละเมิดรัฐธรรมนูญ มาศึกษาและตรวจสอบพร้อมกับนำเสนอต่อรัฐบาลเพื่อให้พิจารณาทบทวนต่อไป" ศ.เสน่ห์ จามริก
ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติกล่าว

ทั้งนี้คณะกรรมการสิทธิฯ เห็นว่า หลังรัฐธรรมนูญมีผลใช้บังคับเป็นเวลากว่า 7 ปีแล้วแต่กฎหมาย
ต่างๆ ที่จำเป็นต้องออกมาบังคับใช้ในการส่งเสริมคุ้มครองสิทธิเสรีภาพตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ และปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ รวมทั้งสนธิสัญญาต่างๆ ที่ประเทศไทยมีพันธกรณีต้องปฏิบัติตามนั้นปรากฏว่า ทุกรัฐบาลที่ผ่านมาได้เพิกเฉยในการออกกฎหมายมาบังคับใช้

ยิ่งไปกว่านั้นกลับมีกฎหมายที่ลิดรอนสิทธิเสรีภาพประชาชนออกมาบังคับใช้แทนรวมทั้งยังมีการละเลยในการออกกฎหมายดังกล่าวด้วยจึงเป็นเหตุให้การกระทำของเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีหน้าที่บังคับใช้กฎหมายในปัจจุบันไม่เป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญอีกทั้งยังก่อให้เกิดความขัดแย้งระหว่างเจ้าหน้าที่ของรัฐและประชาชนตลอดมา

"เรื่องการแบ่งโซนฝ่ายทหารทำมาตลอดตั้งแต่การปราบปรามคอมมิวนิสต์ในแง่ของยุทธวิธีซึ่งไม่ใช่เรื่องใหม่แต่ที่คราวนี้มันใหม่เพราะว่าเป็นการแบ่งในเรื่องการอุดหนุนงบประมาณซึ่งถือว่าเป็นการเลือกปฏิบัติที่ชัดเจนโดยปัญหาใหญ่มันไม่ใช่อยู่ที่แค่ขัดหรือไม่ขัดรัฐธรรมนูญเท่านั้นแต่มันยังอยู่ที่ว่ามันจะแก้ไขปัญหาได้มากขนาดไหนซ้ำมันอาจยิ่งทำให้ปัญหาบานปลาย" ศ.เสน่ห์กล่าว

ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวว่า คณะกรรมการสิทธิฯ ไม่ได้มีเจตนาต่อฃต้านจึงไม่กลัวที่จะถูกรัฐบาลโต้กลับและรัฐบาลจะรับฟังหรือไม่ก็ตามกรรมการสิทธิ์ถือว่าการเสนอเป็นการปฏิบัติตามหน้าที่ที่กฎหมายบัญญัติไว้และอยู่บนพื้นฐานที่เข้าใจดีว่ารัฐบาลมีเอกสิทธิ์ในการที่จะบริหารประเทศคณะกรรมการสิทธิ์ไม่มีอำนาจที่จะเข้าไปก้าวก่ายแต่คำทักท้วงของกรรมฃการสิทธิ์ในกรณีภาคใต้เกิดขึ้นเพราะเกรงว่าปัญหาดังกล่าวจะบานปลาย

ส่วนการที่รัฐบาลให้มีการเปิดประชุม2สภาเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาว่า ถือเป็นสัญญาณที่ดีแต่อย่างไรก็ดี เราไม่อยากปล่อยให้เป็นการดำเนินการโดยรัฐเพียงฝ่ายเดียว สังคมน่าจะคอยคัดท้ายเสนอแนะเพื่อให้มันเดินไปในทิศทางที่ถูกต้องเพราะขณะนี้เรากำลังอยู่ในช่วงที่จะมีรัฐบาลและสภาผู้แทนราษฎรชุดใหม่

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net