Skip to main content
sharethis

ประชาไท - 16 ก.พ.48 สำนักข่าวเกียวโตรายงานว่าเนื่องในโอกาสที่พิธีสารเกียวโต (Kyoto Protocol) มีผลบังคับใช้วันนี้เป็นวันแรก นายจุนอิชิโร่ โคอิซูมิ นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่นได้ออกมาแถลงชัดเจนว่า ญี่ปุ่นจะปฏิบัติตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ในพิธีสาร โดยการเพิ่มมาตรการต่างๆ และกระตุ้นให้ประชาชนและภาคอุตสาหกรรมช่วยการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก แต่นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นยังคงระมัดระวังกับข้อเสนอการจัดเก็บภาษีสิ่งแวดล้อมจากภาคธุรกิจ และยังไม่ได้ตัดสินใจเรื่องนี้ เพราะยังมีทางเลือกอีกมากที่จะใช้เพื่อแก้ปัญหา

เป้าหมายของพิธีสารเกียวโตต้องการให้ทั่วโลกลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้ 5.2% ภายในพ.ศ.2555 ตามเป้าหมายเฉพาะของแต่ละประเทศ ซึ่งขณะนี้มีประเทศที่ร่วมลงนาม 141 ประเทศในจำนวนนี้มีชาติอุตสาหกรรมถึง 30 ชาติ โดยสนธิสัญญานี้ เริ่มมีผลบังคับใช้เมื่อรัสเซียให้สัตยาบันเป็นชาติสุดท้าย

ด้านนางวันการี มาธาอี รัฐมนตรีช่วยกระทรวงสิ่งแวดล้อมจากประเทศเคนยา เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพคนล่าสุด หนึ่งในองค์ปาฐกของพิธีเปิดการบังคับใช้พิธีสารอย่างเป็นทางการให้สัมภาษณ์ก่อนเริ่มพิธีในนครเกียวโตว่า เหตุผลหนึ่งที่ประเทศหลายประเทศไม่ต้องการสนับสนุนพิธีสารนี้ เพราะประเทศเหล่านั้นไม่ต้องการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการใช้ชีวิตบริโภคนิยมมากเกินควรอย่างที่เป็นอยู่

ขณะที่สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า บรรดานักเคลื่อนไหวเพื่อสิ่งแวดล้อมทั่วโลกต่างนัดกันชุมนุมเพื่อย้ำถึงวาระพิเศษดังกล่าวนี้และเป็นการประท้วงไปด้วยในตัว โดยมุ่งเป้าหมายสำคัญไปที่สหรัฐอเมริกาที่ไม่ยอมลงนามในพิธีสารนี้

นอกจากนี้จีนซึ่งเป็นประเทศที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากสหรัฐอเมริกา ได้ให้สัญญาว่าจะลดมลภาวะ และเปลี่ยนไปใช้พลังงานหมุนเวียนมากขึ้น โดยนายหลัวซือผิง ผอ.กรีนพีซจีน ชี้ว่า ทัศนคติของรัฐบาลจีนให้ความสำคัญต่อประเด็นสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยเมื่อเดือนที่แล้ว สำนักงานพิทักษ์สิ่งแวดล้อมจีนได้ยับยั้งโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ 30 แห่ง รวมทั้งโรงไฟฟ้าพลังน้ำมูลค่ากว่า 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจากยังไม่ได้รับอนุมัติจากหน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อมของราชการ

ประชาไทรายงาน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net