Skip to main content
sharethis

ศูนย์ข่าวภาคใต้-25 ม.ค.48 เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 24 ม.ค.ที่ผ่านมา นางจิราพร บุนนาค รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ พร้อมด้วยนายพิชัย รัตนพล ประธานกรรมการยุทธศาสตร์สันติวิธี รศ.ชัยวัตน์ สถาอา นันท์ และรศ.มารค ตามไท รองประธานกรรมการยุทธศาสตร์สันติวิธี นายโคทม อารียา และนายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม เข้าเยี่ยมนายอับดุลเร๊าะห์มาน อับดุลสอมัด ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส ที่สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส ระหว่างเดินทางมาเปิดสำนักงานโต๊ะอิหม่ามประจำมัสยิดในจังหวัดนราธิวาส ตามโครงการหนึ่งตำบลหนึ่งมัสยิด

นายอับดุลเร๊าะห์มาน ได้เสนอต่อนางจิราพร ให้ช่วยผลักดันการก่อตั้งศูนย์บริหารกิจการศาสนาอิสลาม และวิทยาลัยอิหม่าม เพื่อพัฒนาโต๊ะอิหม่ามใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้มีความนอกจากด้านการพัมนาจิตใจแล้ว ยังมีความรู้ทางสังคม หากโต๊ะอิหม่ามไม่มีความรู้และไม่พัฒนาแล้ว มะมูม หรือสมาชิกในหมู่บ้านก็ไม่อาจพัฒนาไปได้ด้วย ซึ่งนางจิราพรรับที่จะดำเนินการให้

นายอับดุลเร๊าะห์มาน กล่าวอีกว่า การกระจายอำนาจการปกครองของรัฐบาลยังไม่ถึงจังหวัดนราธิวาสอย่างแท้จริง โดยเฉพาะเมื่อมีหนังสือมาจากส่วนกลางที่ลงมายังศาลากลางจังหวัดนราธิวาส แต่แทนที่เรื่องดังกล่าวซึ่งเกี่ยวข้องกับกิจการศาสนาอิสลาม ทางจังหวัดไม่ได้ส่งเรื่องมาที่สำนักงานคณะกรรมการอิสลามแต่กลับส่งเรื่องไปยังกำนันผู้ใหญ่บ้านทันที ทั้งที่จริงสำนักงานคณะกรรมการอิสลามสามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า ขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างฝ่ายปกครองกับสถานบันทางศาสนามีน้อยมาก ที่มีอยู่งหวัดเท่านั้น

นายอับดุลเร๊าะห์มาน กล่าอีกว่า คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดมีค่าใช้จ่ายเดือนละ 3 แสนบาท ไม่เพียงพอกับภารกิจที่ดำเนินการอยู่ แต่ที่ไม่ได้เสนอรัฐบาลเพราะบางคนยังกลัวว่าจะกระทบกับความมั่นคงของชาติ สำนักงานคณะกรรมการอิสลามก่อตั้งมาก 60 กว่าปีแล้ว แต่ยังไม่มีความเข้มแข็ง จะทำอย่างไรให้มีควมเข้มแข็งขึ้นมา เช่น กรณีเอกสาร เบอร์ญีฮาด ดี ปาตานี(การต่อสู้ที่ปัตตานี) ที่มีการบิดเบือนหลักคำสอนทางศาสนาอิสลาม ซึ่งกว่าคณะกรรมการอิสลามจะรู้ก็มีการนำไปสอนมาแล้ว 2-3 ปี หากคณะกรรมการอิสลามรู้มาก่อนคณะกรรมการอิสลามสามารถตรวจสอบได้ก่อน แต่เนื่องจากเราไม่มีระบบระเบียบที่เป็นมาตรฐาน จึงไม่สามารถป้องอะไรได้มาก
หลังจากนั้นนางจิราพรได้เดินทางไปเปิดอาคารสำนักงานโต๊ะอิหม่ามประจำมัสยิดบ้านยะกัง 2 อำเภอเมือง มัสยิดบ้านดุซงญอ อำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส และมัสยิดนูรุลยันนะห์ ตำบลตุยง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี

นางจิราพร กล่าวว่า โครงการนี้มีวตถุประสงค์หลักเพื่อให้สำนักงานดังกล่าว เป็นที่สร้างความร่วมมือ ความไว้จันระหว่างรัฐกับประชาชน โดยมีมัสยิดเป็นศูนย์กลาง มีผู้นำชุมชนเป็นแกนหลัก ซึ่งสอดคล้องกับ กระบวนการสันติวิธี ที่ต้องการสลายแนวคิดที่รุนแรงโดยใช้พลังวัฒนธรรม โครงการมีทั้งผู้นำศาสนา ผู้นำชุมชน นักศึกษา นักการศึกษา ตั้งแต่ ระดับโรงเรียนตาดีกา อุสตาซ โต๊ะอิหม่าม ครู อาจารย์ และ สื่อมวลชนร่วมสร้างวัฒนธรรมการแก้ปัญหาร่วมกัน เพราะพื้นที่นี้มี ศาสนาเป็นจุดแข็งและมัสยิดเป็นจุดศูนย์รวมของชุมชน

สำหรับโครงการหนึ่งมัสยิดหนึ่งตำบลเป็นโครงการของสภาความมั่นคงแห่งชาติตามข้อเสนอของภาคประชาสังคมจังหวัดชายแดนภาคใต้ภายใต้ยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยก่อสร้างอาคารสำนักงานโต๊ะอิหม่ามประจำมัสยิดตำบลละ 1 แห่ง จำนวน 250 ตำบล ค่าก่อสร้างแห่งละ 1.4 แสน รวมงบประมาณทั้งสิ้น 46 ล้านบาท

ประชาไทรายงาน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net