เอเอฟพี - 14 ม.ค.48 ฮิวแมน ไรท์ วอทช์ ( Human Right Watch ) องค์กรพิทักษ์สิทธิมนุษยชน มีสำนักงานอยู่ในเมืองนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ออกรายงานว่าด้วยสถานการณ์สิทธิมนุษยชนโลก ประจำปี 2004 ว่า ว่าด้วยสถานการณ์สิทธิมนุษยชนทั่วโลก โดยในส่วนของเอเชียนั้น ถูกวิจารณ์ว่าแม้มีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว แต่ภูมิภาคนี้กลับลังเลที่จะผ่อนคลายมาตรการปิดกั้นเสรีภาพ และยกระดับสิทธิมนุษยชน

รายงานยกตัวอย่างว่า แม้เศรษฐกิจเติบโตรุดหน้า แต่จีนยังคงเป็นประเทศที่มีการกดขี่ด้านมนุษย
ชนอย่างมาก โดยเฉพาะในทิเบตและซินเจียง เช่นเดียวกับอินเดีย ที่นับวันจะแสดงแสนยานุภาพ
ทางเศรษฐกิจและการเมืองให้เป็นที่ประจักษ์มากขึ้น แต่สิ่งที่โลกรอคอยที่จะเห็นก็คือ การปฏิบัติตัวเยี่ยงมหาอำนาจในแง่ของการเคารพสิทธิมนุษยชน

รายงานจำแนกปัญหาลงลึกในระดับภูมิภาค ยกตัวอย่างเช่นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีการร่ายยาวถึงปัญหาการปราบปรามผู้ก่อความรุนแรงชาวมุสลิมในไทย การล่วงละเมิดกลุ่มผู้ประท้วงและมีความคิดเห็นต่อต้านรัฐบาลในเวียดนาม การกลับมาของอำนาจทางทหารในอินโดนีเซีย การใช้กฎเหล็กควบคุมผู้ถูกกล่าวหาก่อความรุนแรงในมาเลเซีย การคุกคามผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลในกัมพูชา และการปฏิเสธเสรีภาพขั้นพื้นฐานในพม่า

ในส่วนของไทยนั้น ฮิวแมน ไรท์ วอทช์อ้างถึงการปราบปรามกลุ่มผู้ก่อความรุนแรงทางภาคใต้ โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 86 คน และปฏิบัติการตอบโต้ของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบด้วยการลอบวางระเบิด และฆ่าตัดคอพระสงฆ์

ฮิวแมน ไรท์ วอทช์กล่าวว่า นับจากทางการไทยประกาศกฎอัยการศึกเมื่อเดือนมกราคมปีที่แล้ว มีผู้เสียชีวิตใน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างน้อย 550 คน ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นฝีมือของผู้ก่อความไม่สงบ และอีกส่วนจากปฏิบัติการของทหารและกองกำลังกึ่งทหาร

รายงานระบุว่า กองกำลังความมั่นคงของไทยใช้ความรุนแรงในการปราบปรามกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบทางภาคใต้ โดยที่สามารถรอดพ้นจากการถูกลงโทษมากขึ้น

กลุ่มพิทักษ์สิทธิมนุษยชนแห่งนี้ยังเน้นย้ำว่า รัฐบาลไทยกดดันและคุกคามองค์กรเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนในประเทศที่ครั้งหนึ่งเคยเฟื่องฟูมากกว่านี้

ประชาไทรายงาน