ประชาไท -- 4 ม.ค. 2548--เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนภาคใต้ จ.ตรัง (กป.อพช.ใต้) มีการประชุมคณะทำงานฟื้นฟูพื้นที่ชายฝั่งภาคใต้ มีผู้เข่าร่วมประชุมกว่า 100 คน เช่น นางเรวดี ประเสริฐเจริญสุข ประธาน กป. อพช. นายภาคภูมิ วิธานติรวัฒน์ เลขาธิการ กป.อพช. ใต้ นายแพทย์บัญชา พงษ์พานิช ผู้อำนวยการโครงการพัฒนาชุมชนเป็นสุขที่ภาคใต้ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) นายอัมพร แก้วหนู ผู้จัดการสำนักงานปฏิบัติการภาคใต้ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน นายสะมะแอ เจ๊ะโมดอ เลขาธิการสมาพันชาวประมงพื้นบ้านภาคใต้ เป็นต้น

ที่ประชุมได้รายงานสถานการณ์ล่าสุด เกี่ยวกับความเสียหาย และการให้ความช่วยเหลือเหยื่อคลื่นยักษ์ซึนามิทั้ง 6 จังหวัดภาคใต้โดยระบุว่าคนท้องถิ่นที่ได้รับผลกระทบเกือบทั้งหมดเป็นชาวประมงพื้นบ้านและบางส่วนที่เข้าไปทำงานในธุรกิจการท่องเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ

โดยที่ประชุมได้สรุปความเสียหายเบื้องต้นว่า มีชาวประมงพื้นบ้านได้รับความเสียหายประมาณ 1,863 ครอบครัว มูลค่าความเสียหายเฉลี่ยครอบครัวละ 25,000 บาท เรือประมงและเครื่องเรือเสียหาย 2,291 ลำ มูลค่าความเสียหายเฉลี่ยลำละ 20,000 บาท รวมมูลค่าความเสียหายทั้งหมด 90 กว่าล้านบาท ทั้งนี้ ยังไม่รวมความเสียหายของเครื่องมือทำประมงและการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ

ในเบื้องต้น ทางมูลนิธิการพัฒนาที่ยั่งยืน และนางเตือนใจ ดีเทศก์ สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดเชียงราย รับว่าจะเป็นผู้ระดมเงิน เข้ามาให้ความช่วยเหลือกลุ่มผู้เดือดร้อนในระยะแรกไปพลางก่อนระหว่างที่เงินช่วยเหลือจากภาครัฐยังลงมาไม่ถึง

พร้อมกันนี้ ที่ประชุมได้แยกพื้นที่ความรับผิดชอบ ที่จะเข้าไปช่วยฟื้นฟูในระยะต่อไปโดยเน้นพื้นที่ที่ชาวประมงพื้นบ้านได้รับความเสียหายในขั้นวิกฤติ แยกเป็น

กลุ่มเกษตรทางเลือก ดูแลบ้านหน้านอก ต.หงาว อ.เมือง จ.ระนอง , บ้านบางเบน บ้านอ่าวเคย ต.ม่วงกลาง อ.กะเปอ จ.ระนอง

ชมรมประมงพื้นบ้านจังหวัดระนอง ดูแลชาวบ้านหาดประพาส แพกำพวน กิ่งอำเภอสุขสำราญ จ.ระนอง

สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) และสมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านภาคใต้ ดูแลเกาะพระทอง บ้านปากเตรียม ต.คุระ อ.คุระบุรี จ.พังงา, เกาะคอเขา ต.คึกคัก บ้านน้ำเค็ม บ้านบางเนียง แหลมปะการัง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา, แพปลาทับละมุ อ.ท้ายเหมือง จ. พังงา

มูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพันธุ์พืชแห่งประเทศไทยฯ ดูแลหาดราไวย์ สะปำ สิเหร่ จ.ภูเก็ต ทั้งสามพื้นที่เป็นที่อยู่อาศัยของชาวเล รวมทั้งดูแลชาวเลที่ได้รับผลกระทบในในจังหวัดอื่น ๆ ด้วย

และสมาพันธ์ประมงพื้นบ้านภาคใต้ ดูแลเกาะพีพี ต.อ่าวนาง อ.เมือง กระบี่ เฉพาะในส่วนชาวประมงพื้นบ้าน และชาวเล, บ้านหัวแหลม วัดสังกะอู้ อ.เกาะลันตา จ.กระบี่

สมพันธ์ประมงพื้นบ้าน และมูลนิธิหยาดฝน ดูแลเกาะมุก อ.กันตัง จ.ตรัง

สมาพันธ์ประมงพื้นบ้านภาคใต้ กองทุนสนับสนุนการวิจัยสำนักงานท้องถิ่นภาคใต้ ดูแลเกาะสาหร่าย อ.เมืองสตูล บ้านบ่อเจ็ดรูป อ.ละงู จ.สตูล

พร้อมกันนี้ทางโครงการพัฒนาชุมชนเป็นสุขที่ภาคใต้ สสส. และกลุ่มกระจกเงาจะร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดทำระบบฐานข้อมูลคนหายและผู้เสียชีวิต เพื่อให้เกิดความสะดวกในการค้นหาของญาติ โดยขณะนี้ได้เริ่มต้นดำเนินการไปบางส่วนแล้ว

สุพจ จริงจิตร
ประชาไทรายงาน