ประชาไท - 30 ธ.ค.47 "โอกาสเกิดแผ่นดินไหวขนาดยักษ์ขึ้นในขณะนี้คงยังไม่มี แต่จะมีอาฟเตอร์ช็อกที่รุนแรงตามมาอย่างแน่นอน เพราะมหาสมุทรแห่งนี้มีจุดอันตรายสำหรับการเกิดแผ่นดินไหว และทำให้เกิดอาฟเตอร์ช็อกที่ต่อเนื่องได้ยาวนานหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน แต่ไม่น่าจะมีความรุนแรงถึง 9 ริคเตอร์ " เวเวอร์ลี่ เพอร์สัน ผู้อำนวยการองค์กรสำรวจทางธรณีวิทยาสหรัฐ หรือยูเอสจีเอส กล่าว

เพอร์สันกล่าวว่า ผู้เชี่ยวชาญแผ่นดินไหวของยูเอสจีเอสได้พบการสั่นไหวขนาด 6 ริคเตอร์อีก 2 ครั้งเมื่อวันพุธ (29 ธ.ค.) ส่วนอาฟเตอร์ช็อกขนาดใหญ่สุด 7.5 ริคเตอร์เกิดถัดมาประมาณ 3.5 ชม.ถัดมา หลังเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงที่สุดในรอบ 40 ปีเมื่อวันที่ 26 ธ.ค.

เพอร์สันกล่าวต่อว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้ มีสาเหตุมาจากแผ่นอินเดีย มุดตัวลงไปในแผ่นพม่า โดยจุดศูนย์กลางอยู่ห่างจากเกาะสุมาตรา 155 ไมล์ และไม่มีผู้เชี่ยวชาญแผ่นดินไหวของยูเอสจีเอสคนใดวางแผนเดินทางไปเอเชียในตอนนี้ เพราะว่ายังคงมีการสั่นสะเทือนใต้น้ำเกิดขึ้นทำให้ยากต่อการศึกษา แต่เหล่าวิศวกรยังคงตั้งใจเข้าไปศึกษาความเสียหายของตัวอาคารต่างๆ ในทุกที่ที่พอจะเข้าไปได้

"นี่ไม่ใช่การเกิดแผ่นดินไหวใต้น้ำครั้งแรกในพื้นที่นี้ มีการสั่นสะเทือนขนาด 7 ริคเตอร์ เกิดขึ้นบ่อยครั้ง เพียงแต่ครั้งนี้เป็นแผ่นดินไหวที่ใหญ่ที่สุดและก่อให้เกิดสึนามิ อีกทั้งพื้นที่บริเวณนี้ไม่มีความรู้มากนักในเรื่องสึนามิ ไม่มีประวัติการเกิดในมหาสมุทรอินเดียมาก่อน จึงเป็นโอกาสสำหรับนักวิทยาศาสตร์ให้ศึกษาเรื่องนี้อีกมาก" เพอร์สันกล่าว

ด้าน ดร.ฮาโรลด์ มอฟจิลด์ นักวิทยาศาสตร์อาวุโสในองค์การบริหารสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติสหรัฐ กล่าวว่า ทีมนักวิทยาศาสตร์นานาชาติของญี่ปุ่นและสหรัฐที่ศึกษาเรื่องสึนามิ กำลังจะเข้าไปศึกษายังบริเวณที่ประสบภัย ซึ่งให้ข้อมูลก้าวหน้ามากขึ้นในเรื่องแผ่นดินไหวและสึนามิ
เพื่อช่วยให้คำนวณกลับไปหาแหล่งกำเนิดของสึนามิได้ แต่ทีมงานต้องลงมือศึกษาอย่างว่องไวเพราะหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ของสึนามิจะหายไปอย่างรวดเร็ว

ประชาไทรายงาน