Skip to main content
sharethis

กรุงเทพฯ-19 ธ.ค.47 เครือข่ายพ่อแม่ ครอบครัว เตรียมบุกทำเนียบฯ พบนายกฯ ถามหานโยบายผลิตรายการทีวีเพื่อเด็ก ระบุผู้ผลิตรายการอ้างเรตติ้งปล่อยหนังน้ำเน่าท่วมจอ ขณะที่ถอดรายการดีๆ ออกหรือย้ายไปอยู่ในช่วงเวลาที่เด็กดูไม่ได้

"ขณะนี้กำลังเชิญชวนพ่อแม่ที่วันที่ 21 ธันวาคมนี้ว่าง ไปพบนายกฯ กันเถอะ คือไม่ไหวแล้ว เปิดไปช่องไหนก็ไม่มีรายการที่สามารถปล่อยให้ลูกนั่งดูได้ตามลำพัง แม้แต่ละครหลังข่าวพ่อแม่ก็ต้องคอยนั่งประกับกับลูกและสอนว่าอะไรดี ไม่ดี พฤติกรรมใดควรทำตามหรือไม่อย่างไร ซึ่งพ่อแม่ที่ทำมาหากิน และต้องกลับมาทำงานบ้านด้วย จำเป็นต้องปล่อยปละละเลยลูกให้เสพสิ่งที่ไม่พึงประสงค์อย่างจำยอม และรายการโทรทัศน์ที่ไม่มีคุณภาพเช่นนี้น่าจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เด็กจำนวนหนึ่งหันไปติดเกมคอมพิวเตอร์ "นางศิริภรณ์ อัศวปยกุต์กุล ตัวแทนจากเครือข่ายพ่อแม่ กล่าว

นางศิริภรณ์ กล่าวว่าในการรวมตัวกันเมื่อวันที่ 18 ธันวาคมที่ผ่านมา ที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติพ่อแม่และเด็กจำนวนหนึ่ง ได้เขียนจดหมายและโปสการ์ดถึงท่านนายกรัฐมนตรีว่า พวกเราต้องการรายการแบบไหนเพื่อพัฒนาลูกหลานของเราและจะรวบรวมส่งให้ท่านในวันที่ 21 ธันวาคมนี้

ทุกวันนี้รายการสำหรับเด็กไม่ได้อยู่ในช่วงเวลาที่เด็กสามารถดูได้ เช่น ลูกของตนชอบดูรายการเจ้าขุนทอง เคยอยู่ช่วงเช้า สามารถดูก่อนไปโรงเรียนได้ แต่ก็ถูกย้ายไปอยู่ช่วง 16.00 น. ซึ่งยังกลับมาไม่ถึงบ้านเท่าที่ตนคุยกับ
ผู้ปกครองจำนวนมากก็อยู่ในสถานการณ์เดียวกันคือ ระยะหลังไม่ค่อยให้ลูกได้ดูโทรทัศน์เท่าใดนัก โดยจะหากิจกรรมอื่นให้ลูกทำแทน

นายวันชัย บุญประชา ผู้จัดการมูลนิธิเครือข่ายครอบครัวเปิดเผยว่า เครือข่ายครอบครัวและพ่อแม่มั่นใจว่าคงไม่สามารถเรียกร้องให้รายการสำรวจโลก และรายการอื่นๆที่เป็นประโยชน์แก่การเรียนรู้ของเด็กร่วมกับครอบครัวกลับมาอยู่ในผังรายการของช่อง5 ได้เหมือนเดิม

ทั้งนื้สืบเนื่องจากสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ปรับผังรายการใหม่โดยถอดรายการที่เป็นประโยชน์สำหรับเด็ก เยาวชน และครอบครัว เช่น รายการสำรวจโลกซึ่งเป็นรายการสารคดีออก โดยผู้บริหารสถานีอ้างว่า เรตติ้งต่ำ จนกระทั่งเครือข่ายเด็ก เครือข่ายครอบครัว นักวิชาการ และผู้ผลิตรายการออกมาวิจารณ์ว่าช่อง 5ในฐานะทีวีของรัฐ ไม่สนองมติคณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2546 ที่กำหนดให้ทีวีต้องจัดให้มีรายการเพื่อการเรียนรู้สำหรับเด็ก ในช่วงเวลา16.00-22.00 น. อย่างน้อยวันละ 1 ชั่วโมงนั้น

ฉะนั้น วันที่ 21 ธันวาคม นี้ พ่อแม่และเด็กจำนวนหนึ่งจากเครือข่าย ครอบครัว เครือข่ายพ่อแม่ และตัวแทนจากคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ประมาณเกือบ 30คนซึ่งเป็นตัวแทนจากเครือข่ายพ่อแม่นับพันคน จะเดินทางเข้าพบ พล.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อทวงถามจุดยืนและมาตรการในการกำกับให้หน่วยงานของรัฐปฏิบัติตามมติครม.

เพราะกรณีที่เกิดขึ้นกับช่อง 5 เป็นตัวอย่างสะท้อนให้เห็นว่ารัฐไม่ได้เอาจริงกับการกำหนดนโยบายของตนเอง ช่อง 5 ซึ่งเป็นสถานีโทรทัศน์ของรัฐมุ่งเน้นการแสวงหาผลประโยชน์ทางธุรกิจ ตอบสนองนายทุนมากกว่าการลงทุนเพื่อเด็กวันนี้รัฐต้องชัดว่าต้องการพัฒนาเด็กไทยไปทางไหนจะมอมเมาเด็กให้อยู่ในกระแสบริโภคนิยมตลอดเวลา หรือพัฒนาเขาให้เป็นเด็กฉลาดกันแน่

นายวันชัย กล่าวว่า ถ้ารัฐไม่สนับสนุนให้มีรายการเพื่อการเรียนรู้สำหรับเด็ก ผู้ผลิตรายการและรายการเหล่านี้ก็อยู่ไม่ได้ ผู้เกี่ยวข้องควรมีการนั่งคุยกันอย่างจริงจังว่า รายการสำหรับเด็กน่าจะมีลักษณะอย่างไร ทำอย่างไรให้ผู้ผลิตสามารถเลี้ยงตัวเองอยู่ได้

ที่สำคัญคือ การวัดเรตติ้งขณะนี้น่าเชื่อถือมากน้อยเพียงใด ควรมีการประเมินผลอย่างเป็นธรรม อย่าเอาเรตติ้งของรายการสำรวจโลกไปเปรียบเทียบกับละครหลังข่างของช่อง 3 และ 7 หากเทียบเช่นนั้นรายการสำรวจโลกย่อม
เรตติ้งต่ำกว่าอยู่แล้ว แต่ประเด็นที่ควรพิจารณาคือ การวัดคุณภาพของเรตติ่ง ว่าใครกลุ่มไหนดูรายการอย่างไร เป็นต้น และรัฐควรกำหนดช่วงเวลารายการสำหรับเด็ก เยาวชน ให้แน่นอน ทั้งนี้

รศ.ดร.พันธุ์ทิพย์ กาญจนะจิตรา สายสุนทร จากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และนักวิชาการด้านนิเทศศาสตร์ อยู่ระหว่างการพัฒนาเครื่องมือในการสำรวจเรตติ้งคุณภาพ ว่าจะทำอย่างไรที่จะวัดเรตติ้งให้สอดคล้องกับกลุ่มผู้ชมรายการที่เป็นเด็ก เยาวชน

ประชาไทรายงาน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net