ประชาไท-17 ธ.ค. กรรมการอิสระตรวจสอบการเสียชีวิตกรณีเหตุการณ์ตากใบสรุปผล ไม่พบหลักฐานเจ้าหน้าที่รัฐจงใจทำให้ผู้ชุมนุมทั้ง85 รายเสียชีวิต

"ในรายงานของอนุกรรมการทางการแพทย์ ไม่พบสาเหตุการตายอันเนื่องมาจากการโดนซ้อม คอหักหมุนได้รอบตัว หรือการคลุมถุงดำแต่อย่างใด อีกทั้งยังไม่พบหลักฐานที่พิสูจน์ได้ว่าการดำเนิน การของเจ้าหน้าที่รัฐแต่ละขั้นตอนเป็นความจงใจทำให้เกิดการเสียชีวิต" นายพิเชต สุนทรพิพิธ ประธานกรรมการอิสระสืบข้อเท็จจริงเหตุการณ์ตากใบให้สัมภาษณ์ถึงรายงานสรุปที่จะส่งให้นายกรัฐมนตรีในบ่ายวันนี้ (17 ธ.ค.)

นายพิเชตกล่าวว่า การตายของ 78 ศพที่เสียชีวิตจากข้อบกพร่องในการเคลื่อนย้ายของเจ้าหน้าที่นั้น ทางกรรมการฯ ใช้ข้อมูลจากจากรายงานของอนุกรรมการที่ลงไปในพื้นที่ และรายงานทางการแพทย์ของแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ เป็นหลัก เพราะคณะกรรมการฯ ไม่มีผู้เชี่ยว ชาญในการลงไปชันสูตรศพหรือได้เห็นศพในพื้นที่ เห็นแต่เพียงรูปภาพที่ถ่ายไว้เท่านั้น

ส่วนกรณีผู้เสียชีวิต7 ศพที่ถูกยิงระหว่างการสลายการชุมนุมนั้น แม้รายงานของแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ระบุว่าเสียชีวิตจากการถูกยิงระยะไกล แต่จาการตรวจสอบโดยวิดีโอและจากหลักฐานทุกอย่างที่มีพบภาพคนถือปืนจริง แต่ไม่เห็นว่าใครยิงใคร และไม่พบกระสุน

"อีกทั้งผลการชันสูตรของเจ้าหน้าที่ตำรวจและแพทย์ปัตตานีระบุว่าใน 7 ศพไม่มีบาดแผลจ่อยิงในระยะเผาขน ทางกรรมการอิสระฯ จึงไม่สามารถระบุได้ว่าใครเป็นมือสังหาร 7 ศพจากที่เกิดเหตุขณะสลายการชุมนุม เพราะไม่มีหลักฐานที่ชัดเจน" ประธารกรรมการอิสระสืบข้อเท็จจริงกรณีตากใบกล่าว

อย่างไรก็ตาม นายพิเชตกล่าวถึงกรณีการใช้อาวุธปืนในที่เกิดเหตุว่า จะต้องมีผู้รับผิดชอบอย่างแน่นอน แม้ทางเจ้าหน้าที่ให้เหตุผลในการใช้ปืนได้ทุกขั้นตอน ทหารก็มีเหตุผลในการตัดสินใจท่ามกลางสถานการณ์เช่นนั้น ซึ่งเหตุผลของเจ้าหน้าที่สามารถยอมรับได้ หากไม่มีการเสียชีวิต 78 ศพ

หารือนายกฯ ก่อนแถลงผลสรุป

นายพิเชตกล่าวว่า ช่วงบ่ายของวันนี้ (17 ธ.ค.) จะส่งตัวรายงานและนัดหมายวันหารือกับนายก รัฐมนตรีเพื่อสรุปประเด็นอีกครั้ง โดยจะทำรายงานเป็นรูปเล่ม และคาดว่าจะสามารถเปิดเผยรายงานการสรุปข้อเท็จจริงกรณีตากใบให้กับสื่อมวลชนได้หลังคณะกรรมการเข้าชี้แจงต่อนายก รัฐมนตรีทั้งคณะ

"ผมยืนยันได้ว่า ไม่มีแรงกดดันจากฝ่ายใด โดยเฉพาะจากฝ่ายรัฐบาล" นายพิเชต กล่าวและว่าหลัง จากนี้หน้าที่ของกรรมการอิสระฯใกล้เสร็จสิ้นแล้ว ทั้งนี้ทางกรรมการอิสระใช้เวลาทั้งสิ้น 45 วันในการสืบหาข้อเท็จจริงได้ตามกำหนด

นายพิเชตชี้แจงด้วยว่า วิธีการที่กรรมการฯ ทำรายงานสรุปเป็นการไล่ตามลำดับคำสั่ง หาข้อมูล ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ชี้ความรับผิดชอบว่าใครรับผิดชอบในขั้นตอนใด โดยสอบถามผู้ที่รับผิดชอบเป็นช่วงๆ เช่น ช่วงสลายการชุมนุม การขนย้ายผู้ถูกควบคุม การดูแลรักษาพยาบาล และได้ทำข้อเสนอแนะเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นอีก เช่น คำสั่งในการสลายม๊อบ วิธีการสลาย รวมถึงสิ่งที่ควรปรับปรุง เพื่อให้รัฐบาลพิจารณา

"ความเห็นครั้งนี้กรรมการทุกคนมีความเห็นเป็นเอกฉันท์ เพราะคุยจนกระทั่งเข้าใจ เห็นข้อมูลชัด เจนร่วมกัน จึงคิดว่าประชาชนสามารถยอมรับผลสรุปได้" ประธารกรรมการฯ กล่าว

นายพิเชตกล่าวต่อว่า ส่วนการสอบสวนเอาความผิดเป็นเรื่องของรัฐบาล อยู่ที่นายกรัฐมนตรีว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป โดยรายงานดังกล่าวจะไม่มีการพิมพ์เอกสารแจก แต่จะเปิดเผยต่อเมื่อผู้สนใจใช้ พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารขออ่านเอกสาร โดยตัวเอกสารแยกเป็น 2 เล่ม คือเนื้อหาสาระ และข้อมูลประกอบ ซึ่งมีทั้งข้อเท็จจริงและข้อเสนอแนะ

ศิริรัตน์ อนันต์รัตน์
ประชาไทรายงาน