"รัฐไทยกำลังเข้าสู่วิกฤตการณ์แล้ว"

ประชาไท -- 8 ธ.ค. 2547 นายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ สมาชิกวุฒิสภา กรุงเทพฯ กล่าวที่คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในการปาฐกถาเรื่อง "รัฐกับอาณาจักรแห่งความกลัว"

ประธานกรรมาธิการการต่างประเทศ วุฒิสภา กล่าวถึงการดำเนินนโยบายของรัฐที่เต็มไปด้วยมิติของความรุนแรง ทำให้สังคมไทยเข้าสู่วิกฤติการณ์ ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ที่ตากใบ การกล่าวหาประชาชนว่าเป็นผู้ก่อการร้ายหลังจากที่ฝ่ายรัฐใช้กำลังจัดการกับผู้ชุมนุมที่ตากใบ การไปผูกมิตรในเชิงนโยบายในการทำสงครามที่อิรักกับอเมริกา การเป็นปากเป็นเสียงให้กับเผด็จการที่พม่า พูดแทนเกือบทุกเรื่องเมื่อพม่าโดนสังคมโลกกล่าวหา

ทั้งนี้ นายไกรศักดิ์เชื่อว่าสังคมไทยกำลังดำเนินมาถึงจุดที่ต้องการการปฏิวัติทางความคิด และการเคลื่อนไหวของประชาชน

อย่างไรก็ตาม จากสภาพการณ์ปัจจุบันที่ยังคงมีประชาชนหลายฝ่ายออกมาให้กำลังใจการกระทำของรัฐซึ่งเลือกใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหาซึ่งนายไกรศักดิ์เชื่อว่าจะนำไปสู่ภาวะคลั่งชาติที่จะปรากฏขึ้นในทุกจุดของสังคม โดยยกตัวอย่างกรณีวุฒิสภา ซึ่งตนเองไม่สามารถกล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา ในวันที่ 28 เมษายนที่ผ่านมา เนื่องจากถูกวุฒิสมาชิกบางคนลุกขึ้นก่อกวนด้วยการด่าหยาบคาย

"ผมพูดเรื่องสะบ้าย้อยในสภา ยังไม่ได้พูดถึงตากใบ ผมยังพูดไม่ได้เลย ต้องมีคนมาด่าหยาบ ๆ คาย ๆ ไม่ให้ผมพูด การข่มขู่กันถึงส่วนตัวเกิดขึ้นทุกวัน คนที่แสวงหาความจริง คนที่สอบสวน... เราไม่เคยอยู่ในสภาพนี้ว่าตัวแทนของประชาชนที่ออกมาปกป้องความอ่อนแอของประชาชน คนยากคนจนโดนฆ่าตายทั่วประเทศ แล้วเราเรียกยุคนี้ว่ายุคอะไร"

นายไกรศักดิ์ตั้งคำถาม พร้อมให้ข้อมูลว่าขณะนี้องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนเกี่ยวกับประเด็นผู้นำประชาชน ผู้นำชุมชนจำนวนกว่า 10 คน ถูกฆ่าตายในช่วงเวลารัฐบาลนี้

นอกจากนี้ นายไกรศักดิ์ได้ตั้งประเด็นเรื่องสถานการณ์ความไม่สงบในภาคใต้ว่าจะต้องตอบโต้ความรุนแรงด้วยความรุนแรงเท่านั้นหรือ

อีกทั้งเหตุการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการตอบโต้รัฐไทยโดยการฟันพระ โดยการยิงครู เอาเจ้าหน้าที่รถไฟไปตัดคอ เหล่านี้เป็นพฤติกรรมทางการเมืองหรือเป็นการวางกับดักให้รัฐไทยซึ่งมีแนวโน้มจะใช้ความรุนแรงตกกับดักนี้ลงไป

"แล้วก็ลงโทษชุมชนเพราะไม่สามารถจับคนร้ายได้ ไม่สามารถเจาะเข้าไปในชุมชนได้ ไปประทุษร้ายต่อสังคม และชุมชนจนกระทั่งพวกนี้กลายไปเป็นผู้สนับสนุนผู้ก่อการร้ายหรือเปล่า รัฐไทยตั้งใจที่จะตกกับดักนี้เพราะว่ายังนิยมพฤติกรรมเก่า ๆ ของตัวเองอยู่หรือเปล่า หรือทำอะไรไปโดยไม่มีจิตสำนึกแต่พยายามจะกลบเกลื่อนมัน ซึ่งนำไปสู่การเป็นลัทธิฟาสซิสม์มากขึ้น"

นายไกรศักดิ์กล่าวด้วยว่า แม้สังคมไทยจะบอกตัวเองว่าเป็นประชาธิปไตย แต่เมื่อพิจารณาจากวิถีชีวิตและวัฒนธรรมแล้วจะพบว่าวิถีชีวิตวัฒนธรรมของสังคมไทยยังตกค้างอยู่กับความรุนแรง

"สังคมไทยยังเป็นสังคมที่นิยมความรุนแรงกันเหลือเกิน ถึงแม้เราจะโฆษณายิ้มแย้มแจ่มใส ต้อนรับคนต่างชาติ แต่วัฒนธรรมของเรา ประวัติศาสตร์ของเราเต็มไปด้วยเลือดและนิยมเล่าเรื่องเลือด เรื่องฆ่ากัน"

ทั้งนี้ นายไกรศักดิ์เสนอว่า สังคมไทยต้องถอนตัวออกจากความรุนแรง และประณามการใช้ความรุนแรงไม่ว่าจะเกิดจากฝ่ายรัฐหรือฝ่ายผู้ก่อการร้ายก็ตาม

พิณผกา งามสม
ประชาไทรายงาน