Skip to main content
sharethis

ภายหลังเหตุการณ์วินาศกรรมตึกเวิลด์เทรดในนครนิวยอร์กประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2544 โดยขบวนการก่อการร้ายมุสลิมหัวรุนแรง กลุ่มอัลไคดา ซึ่งมีนาย โอซามา บินลาเดนเป็นผู้นำ ประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช ของสหรัฐอเมริกา ก็ได้ประกาศสงครามกับ "อักษะแห่งความชั่วร้าย"

จากนั้นเป็นต้นมา โลกทั้งโลกก็ดูเหมือนจะเข้าสู่สภาวะสงครามระหว่างขั้วสองขั้ว ขั้วหนึ่งคือเครือข่ายผู้ก่อการร้ายมุสลิมหัวรุนแรงทั่วโลกที่เกี่ยวข้องโยงใยกับกลุ่มอัลไคดา และขั้วตรงกันข้ามคือ สหรัฐและชาติพันธมิตร ที่จำเป็นต้องปกป้องตนเองจากภัยคุกคามของการก่อการร้ายที่ลุกลามขยายตัวไปทั่วโลก

ทว่าน้อยคนนักจะทราบว่า แท้จริงแล้วสหรัฐกับชาติพันธมิตรคือ ผู้ให้กำเนิดและให้การสนับสนุนแก่เครือข่ายผู้ก่อการร้ายมุสลิมหัวรุนแรงต่างๆ ตลอดมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มอัลไคดา

ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีข้อมูลและหลักฐานต่างๆที่พิสูจน์ว่าแม้ภายหลังเหตุการณ์โศกนาฏกรรม 11 กันยายน สหรัฐและชาติพันธมิตรก็ยังคงให้การสนับสนุนแก่กลุ่มผู้ก่อการร้ายเหล่านี้อยู่เช่นเดิม

เป็นความจริงที่ปัจจุบันโลกได้เข้าสู่ภาวะสงคราม ทว่าไม่ใช่สงครามระหว่างผู้ปราบปรามการก่อการร้ายกับผู้ก่อการร้าย ไม่ใช่สงครามศาสนาระหว่างมุสลิมกับคนนอกศาสนา แต่คือสงครามทางเศรษฐกิจระหว่างผู้สนับสนุนสกุลเงินดอลล่าร์กับผู้สนับสนุนสกุลเงินยูโร

ประวัติผู้ปราบปรามการก่อการร้ายกับการสร้างผู้ก่อการร้าย

ในช่วงสงครามเย็น นับตั้งแต่พ.ศ.2522 เป็นต้นมา ทางการสหรัฐอเมริกาได้เริ่มต้นปฏิบัติ
การลับในการร่วมมือกับขบวนการก่อการร้ายมุสลิมหัวรุนแรง ( ดูรูปตารางที่ 1 ท้ายข่าวด้านล่าง) เพื่อการโค่นล้มสหภาพโซเวียตรัสเซีย

นอกจากนี้ ตลอดมาทางการสหรัฐยังได้ให้การสนับสนุนทางทหารอย่างเปิดเผยกับบรรดาประเทศที่สหรัฐเองระบุว่า มีส่วนในการสนับสนุนการก่อการร้ายอีกด้วย
จากรายชื่อในกลุ่มประเทศที่ให้การสนับสนุนการก่อการรายทั้งหมด 18 ประเทศที่ระบุอยู่ในรายงานประจำปี 2544 ของกระทรวงกลาโหมสหรัฐ รัฐบาลสหรัฐเองให้การสนับสนุนทางทหารถึง 16 ประเทศ1

ในรายงานประจำเดือนกันยายน 2545 ของสำนักงานบัญชีกลางกระทรวงกลาโหมสหรัฐระบุว่า จากปีพ.ศ.2534-43 สหรัฐให้งบสนับสนุนทางทหารแก่ประเทศในแถบตะวันออกกลางถึงกว่า 3 ล้านล้านบาท โดยมีซาอุดิอาราเบียเป็นผู้ได้รับงบช่วยเหลือมากที่สุดในโลกหรือกว่า 1.3 ล้านล้านบาท มากกว่าที่สหรัฐให้กับอิสราเอลถึง 5 เท่า 2

แต่ทั้งนี้ ซาอุดิอารเบียกลับถูกทางการสหรัฐกล่าวหาว่า ให้การสนับสนุนขบวนการก่อการร้ายมุสลิมหัวรุนแรงกลุ่มอัลไคดาและเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ 11 กันยา แม้ภายหลังรัฐบาลสหรัฐจะยอมยุติข้อกล่าวหานี้แล้วด้วยเหตุผลทางการเมือง

ตัวกลาง : เคล็ดลับของสหรัฐในการสนับสนุนการก่อการร้าย

เพื่อมิให้ปฏิบัติการลับของสหรัฐในการเกื้อหนุนเครือข่ายก่อการร้ายมุสลิมหัวรุนแรงเป็นที่ล่วงรู้ สหรัฐจึงจำเป็นต้องทำการผ่าน "ตัวกลาง (GO BETWEEN)" อีกทีหนึ่ง หากความลับนี้เกิดรั่วไหล สหรัฐก็สามารถปฏิเสธข้อกล่าวหาได้โดย "ตัดตอน" เฉพาะข้อมูลและหลักฐานที่เชื่อมโยงความ
สัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับตัวกลางออกไป เพื่อให้เข้าใจว่าตัวกลางเท่านั้นคือผู้ที่อยู่เบื้องหลังในการสนับสนุนการก่อการร้าย

นายวิลเลียม เคซี อดีตผู้บัญชาการหน่วยงานซีไอเอ ในยุครัฐบาลเรแกน ยอมรับว่า เขาเองเป็นผู้ติดต่อประสานงานกับตุรกี ปากีสถาน และซาอุดิอารเบีย ในการร่วมมือสนันบสนุนเครือข่ายก่อการร้ายมุสลิมหัวรุนแรง

ตามข้อตกลงนี้ สหรัฐ ปากีสถาน ตุรกีและซาอุดิอารเบีย จะร่วมกันให้การสนับสนุนผ่านหน่วยงานข่าวกรองปากีสถานหรือ ไอเอสไอ และอีกส่วนผ่านเครือข่ายองค์กรศาสนานิกายวาฮาบีที่มีอยู่ทั่วโลก 3 หรืออีกนัยหนึ่ง สหรัฐใช้ ไอเอสไอและวาฮาบีเป็นตัวกลางนั่นเอง

อัลไคดาไม่เกี่ยวข้องกับสหรัฐแล้วจริงหรือ?
" เป็นความจริงที่สหรัฐและชาติพันธมิตรเคยให้ความสนับสนุนเครือข่ายก่อการร้ายมุสลิมและกลุ่มอัลไคดา แต่เมื่อสงครามเย็นยุติลง พวกเขาก็ได้เปลี่ยนแปลงมาเป็นฝ่ายต่อต้านสหรัฐ" นี่ คือคำอธิบายที่สื่อกระแสหลักทั่วโลกใช้อธิบายเหตุผลในการก่อการร้ายชองกลุ่มอัลไคดา นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ 11 กันยาเป็นต้นมา

ทว่ามีข้อมูลหลักฐานอยู่มากมายที่ส่อว่า แท้จริงแม้จนถึงปัจจุบันโครงข่ายการให้การสนับสนุนเครือข่ายผู้ก่อการร้ายมุสลิมหัวรุนแรงที่สหรัฐและพันธมิตรได้สร้างขึ้นยังคงดำรงอยู่ และสหรัฐก็ยังคงอาศัยโครงข่ายนี้สนับสนุนเครือข่ายก่อการร้ายเหล่านี้อยู่เช่นเดิม อาทิเช่น

หนึ่ง สถานีโทรทัศน์ ซีบีเอสของสหรัฐโดยนายแดน แรเทอร์ ได้รายงานว่าในวันที่ 10 กันยายน 2544 เพียงหนึ่งวันก่อนเหตุวินาศกรรมตึกเวิลด์เทรด นายบิน ลาเดนได้เข้ารับการบำบัดด้วยเครื่องฟอกไตในโรงพยาบาลของกองทัพอากาศปากีสถานในเมืองราวันบินดี4

ก่อนหน้านี้หนังสือพิมพ์เลอ ฟิกาโร ของฝรั่งเศสได้ลงข่าวโดยอ้างแหล่งข่าวภายในหน่วยงานไอเอสไอ ในช่วงวันที่ 4-14 กรกฎาคม ปี2544 สองเดือนก่อนเกิดเหตุ 11 กันยา นายบิน ลาเดนได้เข้ารับการผ่าตัดในโรงพยาบาลอเมริกัน ณ เมือง ดูไบประทศอาหรับ เอมิเรตส์

ในช่วง 10 วันที่เขาพักรักษาตัวอยู่นั้น ได้มีเครือญาติในตระกูลบินลาเดน บุคคลสำคัญจาก ซาอุดิอาราเบียและอาหรับเอมิเรตส์ รวมถึงเจ้าหน้าที่ ซีไอเอประจำดูไบ ได้ข้าพบนายบิน ลาเดน5

หากข่าวทั้งสองชิ้นนี้มีมูลความจริง เป็นไปได้หรือที่ทางการสหรัฐจะไม่ทราบถึงที่อยู่ของนายบินลาเดน เหตุใดจึงไม่เข้าจับกุม ทั้งๆที่ก่อนหน้าสหรัฐได้ตั้งรางวัลนำจับตัวเขาเป็นจำนวนหลายล้านเหรียญสหรัฐ ในข้อหาเกี่ยวข้องกับการวางระเบิดกงสุลสหรัฐ 2 แห่งในอัฟริกาตะวันออกเมื่อปี 25316

สอง สถานีโทรทัศน์เอบีซี ของสหรัฐได้เสนอข่าวว่า เอฟบีไอพบว่า ก่อนเหตุการณ์ 11 กันยา ไม่กี่เดือน ได้มีการโอนเงินจำนวนอย่างต่ำ สี่ล้านบาท จากธนาคารในปากีสถานไปยังบัญชีของนายมูฮัมหมัด อัททา หัวหน้ากลุ่มก่อการร้ายในการก่อวินาศกรรมตึกเวิลด์เทรด การโอนเงินนี้เป็นไปตามคำสั่งของนายพล มามูด อัคหมัด หัวหน้าหน่วยงานไอเอสไอของปากีสถาน ข้อมูลนี้ได้รับการยืนยันอีกครั้งโดย สำนักข่าว เอเอฟพี ของฝรั่งเศส7

สิ่งที่ผิดสังเกตคือ ในวันที่ 4 กันยายน หนึ่งอาทิตย์ก่อนเหตุการณ์ 11 กันยา นายพล อัคหมัด ได้เดินทางไปยังสหรัฐอเมริกาเพื่อเข้าพบและปรึกษาหารือกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของซีไอเอ อย่างเป็นทางการตามธรรมเนียมที่ถือปฏิบัติมาโดยตลอด และในวันที่ 12-13 กันยายน หนึ่งวันหลังเหตุ
การณ์วินาศกรรมตึกเวิลด์เทรด นายพล อัคหมัด ก็ได้ลงนามในข้อตกลงร่วมมือในการปราบปรามการก่อการร้ายร่วมกับนายริชาด อาร์มีเทจ รองเลขาธิการกระทรวงกลาโหมสหรัฐ และยังได้เข้าพบนายพล คอลิน พาวเวลล์ เลขาธิการกระทรวงกลาโหมเป็นการส่วนตัวอีกด้วย8

เป็นไปได้หรือ ที่ทางการสหรัฐไม่ทราบระแคะระคายมาก่อนหน้านี้เลยว่า บุคคลสำคัญที่เป็นถึงหัวหน้าหน่วยงานข่าวกรองปากีสถาน หน่วยงานที่สหรัฐเป็นตัวตั้งตัวตีในการก่อตั้ง อีกทั้งยังมีความสัมพันธ์อันใกล้ชิดกันมาเป็นเวลานาน และให้ความไว้วางใจถึงกับขอให้ร่วมมือในการปราบปรามการก่อการร้าย จะเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดในการก่อการร้ายที่มุ่งทำลายสหรัฐ

สาม จวบจนวันนี้ เครือข่ายองค์กรศาสนานิกายวาฮาบีของซาอุดิอารเบียยังคงให้การสนับสนุนสหรัฐดังที่เป็นมา ในบทบรรณาธิการหนังสือพิมพ์อัลคุด อัล อาราบี ที่เพิ่งตีพิมพ์ในประเทศอังกฤษ ฉบับวันที่ 14 พฤศจิกายน ศกนี้ อ้างถึงคำวินิจฉัยสูงสุดทางศาสนา หรือฟัดวา ที่ประกาศห้ามมิให้มุสลิมนิกายวาฮาบีทำการสู้รบกับกองทัพสหรัฐในอิรัก และเตือนระวังชาวซาอุดิอารเบีย มิให้หลงผิดเชื่อคำหลอกลวงเพื่อไปร่วมรบกับพี่น้องมุสลิมในอิรัก9

ดอลลาร์และน้ำมัน: เหตุผลในการทำสงครามกับการก่อการร้าย

ความลับของพลังอำนาจทั้งปวงของสหรัฐนั้น ขึ้นอยู่กับการที่เงินดอลลาร์เป็นสกุลเงินหลักสกุลเดียวที่ทุกประเทศจำเป็นต้องใช้สำรองเป็นเงินตราต่างประเทศ เพื่อเตรียมไว้ใช้จ่ายซื้อสินค้าและบริการจากประเทศอื่นที่แทบทั้งหมดต้องใช้เงินดอลลาร์

ทั้งนี้โดยมีน้ำมันเป็นสินค้าที่จำเป็นที่สุดซึ่งแทบทุกประเทศจำเป็นต้องนำเข้า หรืออีกนัยหนึ่ง นานาประเทศต้องขายสินค้าเพื่อแลกเป็นดอลลาร์ เพราะถ้าไม่มีดอลลาร์ก็ซื้ออะไรไม่ได้ และที่สำคัญที่สุดซื้อน้ำมันไม่ได้

บนความจำเป็นนี้เอง สหรัฐจึงสามารถพิมพ์ดอลลาร์ออกมาเพื่อใช้จ่ายและพัฒนาเศรษฐกิจของตนได้ด้วยการขายพันธบัตรสกุลดอลลาร์ที่มีสหรัฐเท่านั้นเป็นผู้ผูกขาดการผลิต ให้กับบรรดาประเทศต่างๆที่ปราศจากทางเลือก ทั้งนี้ด้วยราคาที่สูงเกินจริง และโดยไม่ต้องมีการแยแสกับภาวการณ์ขาดดุลการค้าระหว่างประทศ หรือภาระหนี้สินต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล

เพราะเมื่อถึงเวลาครบกำหนดชำระเงิน สหรัฐก็เพียงแต่ขายพันธบัตรดอลลาร์ที่ผู้ซื้อจำเป็นต้องซื้อเพิ่มเติมอีกเช่นนี้ไม่มีวันสิ้นสุด หรืออีกนัยหนึ่งอำนาจของสหรัฐอยู่ที่ความสามารถในการหมุนหนี้นั่นเอง

ดังที่กล่าวมาแล้วว่า น้ำมันคือปัจจัยที่สำคัญสูงสุดสำหรับทุกประเทศ แต่ยิ่งไปกว่านั้น น้ำมันมีความสำคัญอย่างยิ่งยวดต่อสหรัฐอเมริกา ทั้งนี้ด้วยเหตุผล 2 ประการ

ประการแรก คือ ตราบใดที่น้ำมันยังคงซื้อขายเป็นดอลลาร์ การค้าขายแทบทั้งหมดของโลกก็ยังต้องเป็นดอลลาร์ อำนาจผูกชาดสหรัฐเหนือเศรษฐกิจโลกก็จะคงดำรงอยู่ต่อไป

ประการที่สอง สหรัฐเป็นประเทศที่บริโภคน้ำมันเป็นอันดับหนึ่งของโลก ด้วยประชากรเพียง 5 % ของโลก สหรัฐบริโภคน้ำมันถึง25 % ของการบริโภครวมของโลก และเพราะสหรัฐเป็นเจ้าของแหล่งน้ำมันเพียง 3% ของโลก สหรัฐจึงต้องพึ่งพาการนำเข้าน้ำมันถึง 60%ของการบริโภคในประเทศ10

ยูโร: ผู้ท้าชิงที่สหรัฐเกรงกลัว
การริเริ่มสกุลเงินยูโรในปี 2542 เงินสกุลใหม่ที่เกิดขึ้นจากการรวมตัวของสหภาพยุโรปเพื่อเป็นทางเลือกนอกเหนือจากสกุลเงินดอลลาร์ เหตุการณ์นี้ มิเพียงแต่จะเป็นการท้าทายอำนาจทางเศรษฐกิจของสหรัฐเท่านั้น ยังอาจจะนำไปสู่จุดจบของการเป็นมหาอำนาจสายเดี่ยวทั้งทางเศรษฐกิจและทางทหารของสหรัฐอีกด้วย

เพราะเมื่อใดที่ประชาคมโลกปรับเปลี่ยนไปใช้เงินสกุลยูโรในการซื้อขายสินค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง น้ำมันแล้ว ประเทศต่างๆก็ไม่จำเป็นต้องสำรองเงินตราต่างประเทศเป็นเงินดอลลาร์อีกต่อไป ที่น่าวิตกที่สุดคือไม่จำเป็นต้องซื้อพันธบัตรหรือลงทุนในสกุลดอลลาร์อีกต่อไป

หากสหรัฐไม่สามารถจะขายพันธบัตรหรือดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศได้อย่างต่ำวันละ 56,000 ล้านบาทต่อวัน เพื่อมาแก้ไขภาวะขาดดุลบัญชีเดินสะพัดจำนวน 20 ล้านล้านบาทต่อปีได้ ดังเช่นที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เมื่อนั้นสหรัฐก็จะกลายเป็นลูกหนี้เอนพีแอลรายใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์โลก ด้วยภาระหนี้ต่างประเทศมูลค่ากว่า 150 ล้านล้านบาท11 และต้องเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจฟองสบู่แตก เช่นเดียวกับที่เกิดกับอาร์เจนตินาในปี 2544 ดังเช่นที่นายพอล ครุกแมน นักเศรษฐศาสตร์ชั้นนำของโลกได้ทำนายไว้

ทั้งหมดทั้งสิ้นนี้ สหรัฐจึงจำเป็นต้องทำสงครามเพื่อบังคับให้ประเทศผู้ผลิตน้ำมันทั่วโลกยังคงต้องพึ่งพาดอลลาร์เป็นสกุลเงินหลักต่อไปให้จงได้

ผู้ก่อการร้ายกับการสร้างความชอบธรรมให้กับสงคราม

สงครามที่สหรัฐจำเป็นต้องก่อจะต้องเป็นสงครามที่ "ชอบธรรม" ในสายตาประชาชนทั่วโลก ไม่แต่เพียงต่อประชาชนชาวอเมริกันเท่านั้น เนื่องจากต้นทุนในการทำสงครามที่สูงลิ่วเกินกว่าที่สังคมจะยอมรับได้ในภาวะปกติ

แต่หากสหรัฐสามารถทำให้ผู้คนทั้งโลกตกอยู่ในสภาพหวาดกลัวภัยพิบัติจากการก่อการร้ายได้ ไม่เพียงแต่ทางการสหรัฐจะได้รับฉันทามติอย่างท่วมท้นจากประชาชนของตนในการทำสงครามเท่านั้น แต่ยังทำให้สหรัฐสามารถเรียกร้องแกมบังคับกับชาติพันธมิตรให้ช่วยเหลือเพื่อลดต้นทุนในการทำสงครามของสหรัฐให้ถูกลงได้ พร้อมทั้งเปิดทางให้สหรัฐเข้าแทรกแซงการเมืองภายในของแต่ละประเทศได้

กลุ่ม ผู้ก่อการร้ายที่พร้อมบูรณ์ไปด้วยความสามารถ ทรัพยากร และเครือข่าย เพียงพอที่จะสร้างความหวาดกลัวด้วยการก่อการร้ายไปทั่วโลกได้ สมดังที่สหรัฐต้องการ มีอยู่กลุ่มเดียวนั้นก็คือ ขบวนการก่อการร้ายมุสลิมที่สหรัฐเป็นผู้สนับสนุนเท่านั้น

เบื้องหลังสงครามอิรัก: ดอลลาร์หรือยูโร

สาเหตุที่แท้จริงของสหรัฐในการรุกรานอิรัก เป็นเพราะต้องการหยุดยั้งกระแสการเปลี่ยนไปใช้เงินสกุลยูโร ในการซื้อขายน้ำมันของประเทศกลุ่มประทศผู้ผลิตน้ำมันหรือโอเปก ซึ่งเริ่มต้นขึ้นโดยอิรักในปี 2543 ภายใต้โครงการแลกเปลี่ยนน้ำมันเพื่ออาหารขององค์การสหประชาชาติที่ใช้เงินยูโรเป็นมาตรฐานในการแลกเปลี่ยน12

กระแสการแลกเปลี่ยนไปใช้ยูโรนี้ ได้รับการตอบรับจากบรรดาประเทศผู้ผลิตน้ำมันต่างๆทั่วโลก ดังเช่น สหภาพโซเวียตรัสเซีย อิหร่าน อินโดนีเซีย และเวเนซูเอลา เป็นต้น จนต่อมาในเดือนเมษายนปี 2545 นายจาวัด ยาจานี ตัวแทนกลุ่มโอเปก ได้กล่าวแก่ที่ประชุมสหภาพยุโรปว่า โอเปกจะหันมาขายน้ำมันกับสหภาพยุโรปเป็นเงินสกุลยูโรในอนาคตอย่างแน่นอน13

ถัดจากนั้น 5 เดือนก็เกิดเหตุการณ์วินาศกรรมตึกเวิร์ลเทรด สหรัฐกล่าวหาว่า ผู้ก่อการร้ายมุสลิมหัวรุนแรงกลุ่มอัลไคดาว่าเป็นผู้กระทำ และจากนั้นไม่นานในต้นปี 2546 สหรัฐก็เข้าโจมตีอิรักโดยอ้างว่าอิรักเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ 11 กันยาและกลุ่มอัลไคดา รวมถึงสะสมอาวุธสงครามที่มีอานุภาพร้ายแรง

ผลของสงครามก็คือ อิรักภายใต้การดูแลของสหรัฐกลับไปใช้เงินสกุลดอลลาร์ในการขายน้ำมัน และส่งสัญญาณที่ชัดเจนแก่ประชาคมโลกว่า ใครก็ตามที่บังอาจท้าทายสกุลเงินดอลลาร์ จะต้องได้รับผลดังเช่นประทศอิรัก

สรุป

ในสงครามการปกป้องสกุลเงินดอลลาร์ที่ใช้ภาพของสงครามการปราบปรามผู้ก่อการร้ายเป็นตัวอำพรางนี้ ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นเช่นไร ไม่ว่าผ่ายใดจะเป็นผ่ายกำชัยชนะ หรือแม้แต่อาจจะตกลงประนีประนอมกันได้ในอนาคต ประชาชนผู้บริสุทธิ์ทั้งโลกไม่จำกัดเชื้อชาติและศาสนาไม่รู้อีกจำนวนเท่าใด จะต้องตกเป็นเหยื่อจากการฆ่าฟันกันเองด้วยความเข้าใจผิด และความหวาดระแวงซึ่งกันและกัน อันเนื่องจากการโกหกหลอกลวงและปิดบังข้อเท็จจริงและเบี่ยงเบนความสนใจโดยบรรดาผู้นำสูงสุดและพันธมิตรเพียงเพื่อปกป้องผลประโยชน์อันแท้จริงของพวกเขาไว้ให้จงได้

ในภาวะเช่นนี้ การเร่งค้นหาข้อเท็จจริงผ่านการแลกเปลี่ยนและกลั่นกรองข้อมูลข่าวสารร่วมกันในหมู่ประชาชนจึงเป็นทางออกเดียวที่จะหยุดยั้งการฆ่าฟันกันเองระหว่างเพื่อนมนุษย์ผู้จำต้องตกเป็นเหยื่อของสงครามเงินตรานี้ได้ และทางออกในระยะยาวสำหรับประชาคมโลกทั้งปวงก็ไม่ได้อยู่ที่ว่าบรรดาผู้นำจะตกลงผลประโยชน์กันอย่างไร แต่อยู่ที่การร่วมกันค้นหาทางออกใหม่ที่ตอบสนองความต้องการของพวกเรา มิใช่ของพวกเขา

เชิงอรรถ

1." New World Disorder" โดย Brian Awehali, วันที่ 11/11/02, www.lipmagazine.org
2.เพิ่งอ้าง
3." Victory- TheReagan Administration" s Secret Strategy That Hastened The Collapse Of The Soviet Union" นิตยสาร Atlantic Monthly Press [New York,1994]
4." Bush Administration Knew The Whereabouts Of Osama" โดย Michel Chossudorsky , 16 Nov. 2003, www.globalresearch.ca
5.เพิ่งอ้าง
6.เพิ่งอ้าง
7.เพิ่งอ้าง
8." The Role of Pakistan" s Military Intelligence [ISI] In The September 11 Attacks" โดย Michel Chossudovsky, 2 Nov. 2001,www.globalresearch.ca
9." Saudi Islamic Fundamentalists Endorse US Occupation of Iraq" โดย Michel Chossudorsky, 16 พ.ย. 2004, www.globalresearch.ca
10." How Oil Interests Play Out In US Bombing of Afghanistan" โดย Drillbits And Tailings, ก.พ. 2002. www.globalreasearch.ca
11." A New American Century?" Iraq and the hidden Euro-Dollar wars โดย F.William Engdahl, มิ.ย. 2003, www.currentconcern:ch
12.เพิ่งอ้าง
13.เพิ่งอ้าง

วิลาศ เตชะไพบูลย์

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net