Skip to main content
sharethis

ศูนย์ข่าวภาคเหนือ- 6 ต.ค.47 ชาวบ้านแม่ข้อน ม.4 ต.เมืองงาย อ.เชียงดาว กว่า 80 คน ชุมนุม หน้า สภ.อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ หลังจากที่ตำรวจมีหมายเรียกตัวชาวบ้าน 57 ราย ว่า กระทำความผิด บุกรุกยึดถือครอบครองพื้นที่ป่าสงวนฯ

นายสมบูรณ์ คำวัน คณะกรรมการแก้ไขปัญหาที่ดินบ้านแม่ข้อน กล่าวว่า ชาวบ้านทำกินบนพื้นที่ดังกล่าว มาก่อนกรมป่าไม้ประกาศเป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติ จนกระทั่งปี 2523 กองพันทหารราบที่ 11 ร. 7 พัน 2 ค่ายพิชิตปรีชากร ขอใช้พื้นที่ดังกล่าวจากกรมป่าไม้เพื่อเป็นสนามซ้อมรบจำนวน 2,893.75 ไร่

"แม้ว่าพื้นที่ดังกล่าว จะมีขอใช้เพื่อเป็นสถานที่ซ้อมรบก็ตาม แต่ชาวบ้านในพื้นที่ยังมีความจำเป็นที่จะต้องใช้ประโยชน์เพื่อการยังชีพและเป็นที่อยู่อาศัย จึงได้ทำกินต่อเนื่องมาทุกปี จนกระทั่งกองพันทหาร ร.7 พัน 2 ค่ายพิชิตปรีชากร ได้แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้าจับกุมชาวบ้านจำนวน 57 ราย โดยตั้งข้อกล่าวหาว่า บุกรุกป่าและเขตพื้นที่ทหาร ทั้งที่พื้นที่ตรงนั้น ชาวบ้านได้ใช้เป็นที่ทำกินและอยู่อาศัยมานาน ก่อนที่จะมีการประกาศเป็นป่าสงวนแห่งชาติภายหลัง" นายสมบูรณ์ กล่าว

นายบุญธรรม เขื่อนเพชร หนึ่งในผู้ถูกกล่าวหา กล่าวว่า หลังจากตำรวจได้ออกหมายเรียกให้ชาวบ้านจำนวน 57 รายให้ไปให้ปากคำและรับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งสร้างความหวาดวิตกต่อชาวบ้านมาก จนส่งผลให้นางผัด คำยวง อายุ 60 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ถูกกล่าวหา เกิดความเครียดเพราะกลัวถูกขึ้นศาลและติดคุก เพราะเกิดมาไม่เคยถูกหมายเรียกมาก่อน จึงกินยาเพื่อฆ่าตัวตาย ซึ่งยังดีที่หมอได้ช่วยชีวิตไว้ทัน

น.ส.อรวรรณ ชมพู กล่าวกับว่า แม่ของตนก็เป็นหนึ่งในผู้ถูกกล่าวหา ซึ่งขณะนี้เป็นโรคเบาหวาน และถูกตัดขาที่เน่าเสีย ตนเองต้องมาเรียกร้องสิทธิแทน เพราะชาวบ้านส่วนใหญ่ ได้ใช้ประโยชน์จากพื้นที่นี้มานาน ก่อนแต่กรมป่าไม้เพิ่งจะมาประกาศเป็นเขตป่าสงวนฯ เมื่อปี พ.ศ.2516 และได้ให้กองพันทหาร ร.7 พัน 2 ค่ายพิชิตปรีชากร เข้ามาใช้พื้นที่เมื่อ วันที่ 9 ส.ค.2522 ในภายหลัง

นายบุญเรือง การหมั่น สมาชิกสภาจังหวัดเชียงใหม่ เขตอ.เชียงดาว กล่าวว่า ได้ขอเลื่อนการให้ปากคำและรับทราบข้อหาไปก่อน เพื่อให้ชาวบ้านได้ปรึกษาหารือกับทนายความ ในเรื่องการเตรียมพยานหลักฐานในการต่อสู้กับคดี หากมีการเร่งรัด อาจทำให้ชาวบ้านที่ไม่เข้าใจกระบวนการทางกฎหมายเกิดการเสียขวัญได้

นายสุชาติ สามสาย ทนายความประจำชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน อ.เชียงดาว กล่าวว่า กรมป่าไม้ได้อนุญาตให้ทหารมาเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ดังกล่าว โดยดูเอาจากแผนที่ทางทหาร ซึ่งได้ทับพื้นที่ของชาวบ้าน ที่เป็นที่อยู่อาศัย มีบ้านเรือนถาวร และที่ทำกิน ไม่ได้เข้ามาดูความจริง ถือว่าเป็นความไม่ชุ่ยของระบบราชการ พ.ต.ท.ธรรมรักษ์ ณ กาฬสินธุ์ พนักงานสอบสวน สภอ.เชียงดาว กล่าวว่า กรณีความขัดแย้งเรื่องที่ดินระหว่างกองทัพกับชาวบ้านเป็นคดีความที่มีมานานแล้ว แต่อยากให้ชาวบ้านที่ถูกกล่าวหา มาให้สอบปากคำและรับทราบข้อกล่าวหา และไปใช้สิทธิ์ในการพิสูจน์หลักฐานในชั้นศาลว่า ชาวบ้านอยู่ก่อนจริง หรือชาวบ้านเป็นผู้บุกรุกป่าจริง หากมีการชะลอเรื่องเอาไว้ ก็จะทำให้เกิดความล่าช้า และจะต้องกลับมาเริ่มต้นใหม่อีก

อย่างไรก็ตามมีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า ในหมายเรียกผู้ต้องหา ทั้ง 57 รายนั้น ไม่มีการลงลายมือชื่อ ผู้ออกหมายเรียกแต่อย่างใด

นอกจากนั้นชาวบ้านบอกว่า เมื่อวันที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมา ทางนายอำเภอและตำรวจได้ไปประชุมชี้แจงชาวบ้านแม่ข้อน และพยายามเกลี้ยกล่อมให้ผู้ถูกกล่าวหายอมรับการถูกกล่าวหา เพื่อเข้าสู่กระบวนทางศาลให้โดยเร็ว

ในขณะที่ชาวบ้านได้ทำหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ รวมทั้งนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้ชะลอการดำเนินคดี และให้มีการแต่งตั้งคณะทำงานการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐในพื้นที่ซับซ้อน โดยให้เป็นไปตามกระบวนการเน้นการมีส่วนร่วมของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งทางจังหวัดมีมติให้มีการชะลอการจับกุม แต่ก็ยังถูกหมายเรียกอีกครั้งหนึ่ง

องอาจ เดชา
ศูนย์ข่าวภาคเหนือรายงาน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net