Skip to main content
sharethis

โครงการถนนสาย 1117 คลองลาน-อุ้มผาง อยู่ในกระแสการถกเถียงอีกครั้ง หลังจากกลุ่มนักการเมืองท้องถิ่นใน อ.อุ้มผาง จ.ตาก และอ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร เสนอโครงการบูรณะถนนเพิ่มเติมแก่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีระหว่าง "การทัวร์นกขมิ้น" เยือนภาคกลางและภาคเหนือ เมื่อวันที่ 17-22 กรกฎาคมที่ผ่านมา

ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีได้เห็นชอบในหลักการของโครงการดังกล่าว วงเงินบูรณะ 573 ล้านบาท และมอบหมายให้กรมทางหลวงและทางหลวงชนบท กระทรวงคมนาคมพิจารณาสร้างเพิ่มเติม

เมื่อ 18 ปีที่แล้ว กรมทางหลวงสร้างถนนดังกล่าว เพื่อประโยชน์ด้านความมั่นคง ในการส่งกำลังบำรุงเจ้าหน้าที่ทหาร - ตำรวจ เข้าปราบปรามผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ที่หลบซ่อนอยู่ในเขตป่าเขา

หลังจากสงครามสงบลง กองทัพภาค 3 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 กรมป่าไม้ และจังหวัดกำแพงเพชรมีความเห็นร่วมกันว่า การก่อสร้างถนนจะกระทบกระเทือนความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าบริเวณนี้

ในปี 2529 จึงได้ร่วมกันอพยพชาวเขากว่า 5,000 คนออกจากพื้นที่ต้นน้ำ และคณะรัฐมนตรีได้มีคำสั่งระงับการก่อสร้างเส้นทางดังกล่าวในปี 2530 ทำให้ถนนสายนี้สุดทางแค่กม.ที่ 115 เหลือเพียง 28 กม.ก็จะทะลุถึงบ้านอุ้มผางคี ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง จ.ตาก

ถนนสายนี้อยู่ในความรับผิดชอบของจังหวัดกำแพงเพชรถึง กม.ที่94.5 โดย กม.ที่ 57-94.5 อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ และอุทยานแห่งชาติคลองลานบางส่วน ส่วน กม.94.5 - 115 อยู่ในพื้นที่ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง จังหวัดตาก

ปัจจุบันอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ก็ได้ตั้งด่านที่กม.57 และอนุญาตให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปตามเวลาที่อุทยานฯ กำหนดเท่านั้น โดยเส้นทางจะไปสิ้นสุดที่กม.93 หรือบริเวณที่เรียกกันว่า "ช่องเย็น" ปล่อยให้เส้นทางที่เหลือราว 22 กม. ถูกทิ้งรกร้าง ด้วยเหตุผลเพื่อการอนุรักษ์ผืนป่า

อย่างไรก็ตาม โครงการนี้ถูกรื้อฟื้นโดยนักการเมืองและกลุ่มธุรกิจในพื้นที่ในปี 2532 และ 2540 แต่กองทัพภาค 3 และกรมป่าไม้ยืนยันความเห็นให้ชะลอโครงการ โดยในปี 2540 กรมป่าไม้ได้ลงสำรวจพื้นที่แล้วระบุในรายงานว่า

"...การบูรณะซ่อมแซมถนนเดิมหรือการสร้างถนนไปออกที่บ้านอุ้มผางคีจะเป็นการส่งผลกระทบโดยตรงกับทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า สภาพพื้นที่เหมาะที่จะทำเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติมากกว่าการสร้างถนนในพื้นที่..." (www.serb.org.th/)

กระทั่งการเรียกร้องให้สร้างถนนได้รับการตอบรับจากรัฐบาลในครั้งล่าสุดนี้ ด้วยเหตุผลว่าถนนนี้จะย่นระยะทางการเดินทางไปอ.อุ้มผางราว 200 กม. ช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทาง ทำให้ชาวอุ้มผางเข้าถึงบริการต่างๆ ได้ดีขึ้น ลดค่าขนส่ง ตลอดจนส่งเสริมการท่องเที่ยวได้อย่างดียิ่ง

พร้อมกันกับที่ฝ่ายอนุรักษ์อย่างมูลนิธิสืบนาคะเสถียร คณะกรรมการอนุรักษ์ผืนป่าตะวันตก (กอต.) 6 จังหวัด และอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ออกมาระบุว่า เส้นทางตั้งแต่กม. 93 ขึ้นไป ถูกปิดมากว่า 17 ปีทำให้ป่าบริเวณนั้นฟื้นตัวและเส้นทางดังกล่าวก็ไม่เหลือสภาพที่ใช้การได้อีกต่อไป

ฉะนั้นจึงไม่ใช่การบูรณะแต่เป็นการสร้างใหม่ทั้งหมดตั้งแต่กม.93 ซึ่งหากดำเนินการแล้วจะเป็นการตัดผืนป่าตะวันตกซึ่งเป็นผืนเดียวกับป่ามรดกโลกที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คือ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร-ห้วยขาแข็ง ออกเป็น 2 ส่วน กระทบต่อระบบนิเวศ การกระจายพันธุ์ของสัตว์ป่า และแหล่งต้นน้ำสำคัญของประเทศ

รายงานโดย : ศูนย์ข่าวประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net