Skip to main content
sharethis

จากกรณีการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้เข้ามาทำการประชาสัมพันธ์การก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินทับสะแกกับนักเรียนระดับประถมของโรงเรียนในพื้นที่ก่อสร้างโรงไฟฟ้าดังกล่าว โดยยังได้บริจาคเงินให้กับทางโรงเรียนและแจกของให้นักเรียนนั้น


 


วันที่ 27 ก.พ.เวลาประมาณ 11.00น กลุ่มอนุรักษ์ทับสะแกซึ่งต่อต้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินทับสะแก กำลังการผลิต 4,000 เมกกะวัตต์ ร่วมกับตัวแทนผู้ปกครองนักเรียน ทำกิจกรรมคืนของที่ กฟผ.แจกนักเรียนในการประชาสัมพันธ์โครงการโรงไฟฟ้าที่หน้าป้ายโรงเรียนอนุบาลทับสะแก และยื่นหนังสือฉบับนี้กับ ผอ.โรงเรียนและนายอำเภอทับสะแก โดยหนังสือระบุรายละเอียดดังนี้


 


 


 


กลุ่มอนุรักษ์ทับสะแก


68/12 ถ.เพชรเกษม อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์


 


27 กุมภาพันธ์ 2552


 


เรื่อง ขอให้ยุติการให้ความร่วมมือกับ กฟผ.ในการทำการประชาสัมพันธ์ในโรงเรียน


 


เรียน ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลทับสะแก นายอำเภอทับสะแกและผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์


 


ตามที่กลุ่มอนุรักษ์ได้ทราบว่า โรงเรียนอนุบาลทับสะแก ได้อนุญาตให้ กฟผ.เข้ามาทำการประชาสัมพันธ์การก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินทับสะแก กับนักเรียนระดับประถมโดยแลกเปลี่ยนกับที่ กฟผ.บริจาคเงินให้โรงเรียน 6,000 บาทนั้น


 


กลุ่มอนุรักษ์ใคร่ขอทำความเข้าใจกับคณะผู้บริหารโรงเรียนว่า


 


1.กลุ่มอนุรักษ์ได้เคยแจ้งให้ทราบผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์และผู้อำนวยการเขตการศึกษาที่ 1 และ 2 แล้วว่า ไม่อนุญาตให้ กฟผ.และโรงเรียนใช้เด็กนักเรียนเป็นเครื่องมือในการประชาสัมพันธ์โครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินทับสะแก เพราะจะนำความขัดแย้งเข้าสู่โรงเรียนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้


 


2.เงินที่ กฟผ.นำมาให้โรงเรียน 6,000 บาท และของที่นำมาแจก โรงเรียนไม่จำเป็นต้องรู้สึกซาบซึ้งหรือสำนึกในบุญคุณของ กฟผ.เพราะจริงๆ แล้ว นั่นเป็นเงินของชาวบ้านที่ถูก กฟผ.ล้วงกระเป๋ามาในรูปค่าไฟฟ้า


 


3.ผู้บริหารโรงเรียนต้องสอนให้นักเรียนเท่าทัน กฟผ.ในประเด็นที่สำคัญคือ..เมื่อหมาบินได้ เมื่อนั้นจึงมีถ่านหินสะอาด และถ่านหินคือเชื้อเพลิงที่สกปรกที่สุดในการผลิตไฟฟ้า ทำลายสิ่งแวดล้อม ทำลายสุขภาพของประชาชนรอบโรงไฟฟ้ามากที่สุด เป็นสาเหตุสำคัญของการปล่อยคาร์บอนไดอ๊อกไซด์สร้างสภาวะโลกร้อน และปล่อยสารปรอทเข้าสู่แหล่งอาหารอย่างไม่มีทางแก้ไข ระบบการเรียนการสอนที่ดีควรสอนให้นักเรียนเรียนรู้ข้อเท็จจริง คิดเป็น มากกว่าจะสร้างกระบวนการเรียนรู้แบบมอมเมา เช่นที่ กฟผ.กำลังทำ


 


4.กฟผ.กำลังใช้โรงเรียนและคณะครูเป็นเหยื่อของความขัดแย้ง เพื่อสร้างความเข้าใจที่ผิดๆ และสร้างความเกลียดชังระหว่างครูกับกลุ่มอนุรักษ์ทับสะแก เพราะถ้าชุมชนแตกแยกก็จะง่ายต่อการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน นี่คือเล่ห์เหลี่ยมของ กฟผ.ที่โรงเรียนต้องเท่าทัน อย่าหลงกลลวงของ กฟผ.และต้องคิดอยู่เสมอว่า...


 


ไม่มีพื้นที่ไหนยอมให้สร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินข้างบ้านตัวเองแล้ว เพราะเขาเข้าใจและเท่าทันว่า การสร้างความเจริญของบ้านเมืองด้วยมลพิษเป็นแนวคิดของคนจัญไร


 


ดังนั้นเราขอเรียกร้องให้ กฟผ.และคณะผู้บริหารโรงเรียนยุติการใช้เด็กนักเรียนเป็นเครื่องมือในการประชาสัมพันธ์โครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินโดยสิ้นเชิงก่อนสถานการณ์ความขัดแย้งจะบานปลายมากกว่านี้


 


ขอแสดงความนับถือ


กลุ่มอนุรักษ์ทับสะแก


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net