Skip to main content
sharethis


 


ทีวีไทยแพร่ภาพอ้างเป็นกลุ่มใต้ดินภาคใต้ประกาศหยุดยิง


เมื่อเวลา 12.00 น. วันนี้ สถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 และสถานีโทรทัศน์ช่องอื่นในประเทศไทยแพร่ภาพการประกาศยุติก่อเหตุรุนแรงของผู้บังคับบัญชาสูงสุดของกลุ่มใต้ดินรวมภาคใต้ของประเทศไทย โดยกลุ่มนี้อ้างว่าเป็นกลุ่มที่ก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่สามจังหวัดภาคใต้ โดยแถลงเป็นภาษามลายูและภาษาไทยเป็นเวลาประมาณ 5 นาที โดยพวกเขาให้เหตุผลว่าเนื่องจากมีการต่อสู้มาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 2452 ผ่านมาแล้วเกือบร้อยปี แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ จึงน่าจะอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข


 


แกนนำกลุ่มดังกล่าวประกาศว่าการหยุดยิงมีผลตั้งแต่วันที่ 14 ก.ค. เวลา 12.00 น. หากบุคคลหรือกลุ่มใดก็ตามที่ไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มใต้ดินรวมของเราได้กระทำการใดๆ ขัดขืนต่อคำสั่ง ประกาศการหยุดยิงของเรา ไม่ว่าจะเป็นการก่อความไม่สงบต่างๆ การลักพาตัว หรือการปะทะต่อสู้ต่างๆ พวกเราถือว่าพวกนี้เป็นพวกอาชญากรที่จะถูกตามจับและหากจำเป็นก็จะถูกกำจัด


 


 


การหยุดยิงถือเป็นพรจากพระเจ้า และเพื่อแสดงความกตัญญูต่อประเทศ


พวกเขายังแถลงว่าควรตระหนักว่าการหยุดยิงนี้ว่าเป็นการประทานพรจากพระเจ้าสำหรับประชาชนทางภาคใต้และประชาชนชาวไทยทั่วประเทศ เพื่อที่แสดงออกถึงความกตัญญูและความผูกพันที่มีต่อประเทศที่เรารัก ผู้นำทางศาสนา และผู้นำทางด้านการเมืองของเราในทุกระดับ จะจัดการชุมนุมและการเฉลิมฉลอง เพื่อให้พี่น้องเห็นถึงผลดีของการหยุดยิงนี้


 


พวกเราสนับสนุนให้ประชาชนทุกศาสนาในภาคใต้ โดยเฉพาะชาวพุทธและชาวมุสลิมได้อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข พวกเราปรารถนา ให้ประเทศเพื่อนบ้านได้เข้ามาร่วมในการให้คำปรึกษาการแก้ไขปัญหาการขัดแย้งนี้ด้วย


 


พี่น้องประชาชนชาวไทยที่รัก ความต้องการสูงสุดของข้าพเจ้าและกลุ่มคือการยุติการนองเลือดและการสูญเสียชีวิตของประชาชนในภาคใต้ของประเทศไทยตลอดไป เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้กลับมาอยู่ร่วมกันอย่างมีสันติสุข


 


ข้าพเจ้าขอย้ำให้ประชาชนชาวไทยทราบอีกครั้งว่า หน่วยกำลังของกลุ่มใต้ดินทุกหน่วยจะหยุดปฏิบัติการ ก่อความไม่สงบทุกชนิดนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป


 


พี่น้องประชาชนชาวไทยที่รัก พวกเราทุกคนมีพระเจ้าองค์เดียวที่พวกเราต่างเชื่อถือ และพวกเราทุกคนต่างรักและเคารพต่อพระเจ้าอยู่หัวองค์เดียวกัน ขอให้พระเจ้าคุ้มครองพระเจ้าอยู่หัวของเรา และประชาชนของเรา พวกเราปรารถนาให้มีความสงบสุขและสันติภาพ เกิดขึ้นนับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปและตลอดไป" คำแถลงของกลุ่มดังกล่าวระบุ


 


 


พล.อ.เชษฐาเผยพยายามมาหลายครั้งแล้ว


ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร อดีตผู้บัญชาการทหารบก และปัจจุบันเป็นหัวหน้าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ให้สัมภาษณ์ก่อนการบันทึกรายการสดเกี่ยวกับผลการเจรจากับกลุ่มผู้ก่อการร้ายในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งผู้ก่อการร้ายระบุว่า จะยุติการก่อความไม่สงบในพื้นที่ว่า เรื่องนี้เกิดมานานแล้ว ตนในฐานะที่มีความรับผิดชอบมาตั้งแต่รับราชการ และตั้งแต่เป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ตนมีความสนใจเรื่องนี้ เพราะเป็นเรื่องที่มีความสำคัญ และมีเหตุการณ์เกิดมาโดยต่อเนื่อง ตนเคยเป็น รมว.กลาโหม และผบ.ทบ. เคยลงพื้นที่หลายครั้ง พยายามแก้ปัญหาหลายครั้งแต่ก็ยังไม่ลุล่วง


 


ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการไปเจรจากับกลุ่มก่อการร้ายเมื่อไร พล.อ.เชษฐา กล่าวว่า คงใช้คำว่าเจรจาไม่ได้ เพราะถือว่าการพูดคุยครั้งนี้ไม่ได้เป็นทางการ หรือยกระดับ แต่เป็นการพูดคุยธรรมดา เพื่อหาข้อตกลงหรือหาข้อยุติให้ได้ และต้องยืนยันให้ได้ว่า ต้องเป็นข้อยุติที่แท้จริง ซึ่งตนทำมาโดยต่อเนื่อง


 


เมื่อถามว่า ผู้ก่อการร้ายติดต่อมาอย่างไร พล.อ.เชษฐา กล่าวว่า ในทางลับเรามีสายติดต่อกันอยู่แล้ว ตั้งแต่สมัยโบราณ ส่วนจะเป็นผู้ก่อการร้ายจริงหรือไม่นั้น เป็นเรื่องในรายละเอียด และเป็นเรื่องที่ลึกลับ การที่จะแยกแยะและชี้ให้ชัดออกไปยังไม่แน่นอน


 


ต่อข้อถามว่า หลังการเจรจาทุกอย่างจะยุติใช่หรือไม่ พล.อ.เชษฐา กล่าวว่า ใช่ แต่ยังไม่มีการประกาศที่ชัดเจน เราแค่ติดตามเพื่อพิสูจน์ทราบให้ชัดเจน ซึ่งกลุ่มนี้เป็นการรวมกันอย่างน้อย 11 กลุ่ม ที่ก่อการร้ายในพื้นที่ การพูดคุยครั้งนี้ ผู้ก่อการร้ายไม่มีเงื่อนไข เพราะหากมีเงื่อนไขเราคงรับไม่ได้ และทั้งหมดนี้ต้องแสดงความปรารถนาดี และความจริงใจว่า ต้องการเห็นความสงบจริง จึงจะมาพูดกันต่อไป


 


เมื่อถามว่า เหตุใดผู้ก่อความไม่สงบจึงยอมเจรจาด้วย พล.อ.เชษฐา กล่าวว่า วันเวลาทำให้เปลี่ยนไป และเป็นความพยายามของหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งการดำเนินการในส่วนนี้ กอ.รมน. และกระทรวงกลาโหม ไม่ได้เกี่ยวข้อง ตนจะทำทุกอย่างให้เรียบร้อยเสียก่อน จึงจะเรียนให้รัฐบาลทราบ โดยผ่านทาง ผบ.ทบ. ซึ่งนายกฯและ ผบ.ทบ. รู้ว่าตนทำอะไรอยู่ เพราะตนทำมานานแล้ว ตั้งแต่ พล.อ.อนุพงษ์ยังไม่เป็น ผบ.ทบ. และท่านก็รู้ว่า ตนทำอะไรอยู่


 


 


เจ้าตัวลั่นไม่ได้ทำเพื่อตำแหน่ง รมว.กลาโหม


ผู้สื่อข่าวถามว่า การออกมาเปิดเผยครั้งนี้ จะส่งผลต่อการปรับตำแหน่งเป็น รมว.กลาโหม หรือไม่ พล.อ.เชษฐา กล่าวว่า ขอประกาศเลยว่าไม่ยอมรับ เพราะเราทำงานไม่ได้หวังสิ่งนั้น เพียงแต่ประจวบเหมาะกับตรงนี้พอดี และที่เราทำมาโดยตลอด ผลจะออกมาตรงไหนตนก็ไม่ทราบ


 


เมื่อถามว่า หากมีการแถลงยุติบทบาทในตอนนี้ และภายหลังมีการระเบิดขึ้นมา จะทำอย่างไร พล.อ.เชษฐา กล่าวว่า เราต้องแยกแยะให้ออก หากเป็นการกระทำของฝ่ายนั้น เราต้องถามไปทางเขาว่า ไหนว่าตกลงกันแล้ว แต่คิดว่าทางนี้เป็นทางดีที่สุดนี้ แต่คงยังรับประกันไม่ได้ว่าจะไม่มีการก่อเหตุ แต่เขายืนยันว่า เขาจะไม่ก่อเหตุอีก


 


ต่อข้อถามว่า จากการพูดคุยกับผู้ก่อการร้าย ได้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ พล.อ.เชษฐา กล่าวว่า จะต้องมีการพูดกันต่อไป แต่เขายืนยัน และทุกอย่างจะกระจ่างหมด ทั้งนี้เชื่อว่าไม่น่าจะมีนัยยะแอบแฝง แต่หมายความว่า จะเกิดขึ้นเมื่อไรก็เมื่อนั้น แต่เมื่อเขาพร้อมตอนนี้เราก็เอาตอนนี้


 


เมื่อถามว่า เป็นการจัดฉากหรือไม่ พล.อ.เชษฐา กล่าวว่า ตนขอรับผิดชอบ เรื่องจัดฉากไม่มีอยู่ในความคิดของตนโดยเด็ดขาด และไม่มีนัยยะทางการเมืองโดยเด็ดขาด เพราะจะเกิดขึ้นเมื่อไรเราไปบังคับไม่ได้ ทั้งนี้เชื่อว่าถือเป็นนิมิตหมายที่ดี และมีความมั่นใจมากกว่าทุกครั้ง ส่วนการดำเนินการทางกฎหมายอย่างไรต่อไปนั้น เป็นเรื่องที่เราจะต้องพูดกันต่อไป แต่ที่ต้องคิดคือ เขามีความตั้งใจจริงหรือไม่ และมีความปรารถนาดีที่อยากเห็นความสงบสุขทางภาคใต้หรือไม่ ส่วนจะมีการนิรโทษกรรมหรือไม่นั้น ยังไม่มีการพูดเรื่องนี้ เพราะต้องให้รอจบเรื่องนี้ก่อน


 


 


ทัพภาค 4 ปัดไม่เคยทราบเรื่อง


ทั้งนี้หลังการออกแถลงการณ์ของกลุ่มดังกล่าว พล.อ.เชษฐา เชื่อมั่นว่าหลังออกแถลงการณ์สถานการณ์จะดีขึ้น และพร้อมรับผิดชอบหากเกิดความรุนแรงหลังการออกแถลงการณ์


 


อย่างไรก็ดี จากการสอบถามไปยัง พ.อ.อัคร ทิพโรจน์ โฆษกกองทัพบก และผู้อำนวยการกองปฏิบัติการข้อมูลข่าวสาร กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า) กลับได้รับการยืนยันว่า ไม่ทราบเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด และแม่ทัพภาคที่ 4 ก็ไม่รู้รายละเอียดเรื่องนี้เลย


 


"คิดว่าถ้ามีจริงก็เป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับหน่วยในพื้นที่" พ.อ.อัคร กล่าว


 


 


แต่ยังมี "บึ้ม" หน่วยราชการ 3 แห่งในยะลา


แม้ว่ากลุ่มดังกล่าวประกาศจะหยุดยิง โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 14 ก.ค. เวลา 12.00 น. แต่ด้านสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังมีเหตุรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดวานนี้ (16 ก.ค.) ได้เกิดระเบิดอีก 3 จุด ในตัวเมือง จ.ยะลา ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้นเพียง 1 วัน เพิ่งเกิดระเบิดที่ข้าง สภ.เมืองปัตตานี ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและประชาชนได้รับบาดเจ็บถึง 5 คน


 


โดยเมื่อเวลา 11.00 น. วานนี้ (16 ก.ค.) เกิดระเบิดขึ้นที่บริเวณริมรั้วด้านนอกใกล้ประตูทางออกของ สภ.เมืองยะลา ซึ่งตั้งอยู่ตรงกันข้ามกับที่ว่าการอำเภอเมืองยะลา ถนนสุขยางค์ เขตเทศบาลนครยะลา แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ


 


ต่อมาเวลา 11.40 น. เกิดระเบิดขึ้นอีกครั้งหนึ่งภายในห้องน้ำชั้น 2 ของสำนักงานขนส่งจังหวัดยะลา ตั้งอยู่ริมถนนวงเวียน 3 เขตเทศบาลนครยะลา แรงระเบิดทำให้สุขภัณฑ์ในห้องน้ำเสียหายเล็กน้อย


 


เมื่อเวลา 14.15 น. เกิดระเบิดขึ้นอีก 1 ครั้ง ภายในที่ว่าการอำเภอเมืองยะลา โดยจุดเกิดเหตุอยู่บริเวณกองขยะด้านหลังสำนักงานทะเบียนที่ว่าการอำเภอเมืองยะลา ซึ่งอยู่ติดกับรั้วด้านหลัง แรงระเบิดทำให้เอกสารและกองขยะได้รับความเสียหาย แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นสันนิษฐานว่าระเบิดที่คนร้ายใช้ทั้ง 3 จุด เป็นชนิดแสวงเครื่อง น้ำหนักไม่เกิน 3 กิโลกรัม และจุดชนวนด้วยการตั้งเวลา


 


พล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) และผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า (ผบ.ศปก.ตร.สน.)  กล่าวว่า คนร้ายมุ่งสร้างสถานการณ์ก่อกวน ไม่ได้มุ่งหวังต่อชีวิต ส่วนแนวทางการสอบสวนขณะนี้ทางชุดสืบสวนได้รับเบาะแสเกี่ยวกับตัวคนร้ายที่ก่อเหตุแล้ว


 


ที่มาของข่าวบางส่วน: เว็บไซต์คมชัดลึก และหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net