Skip to main content
sharethis

เครือข่ายปฏิบัติการเพื่อแรงงานข้ามชาติ ออกแถลงการณ์กรณีแรงงานข้ามชาติที่ได้รับบาดเจ็บจากกรณีเหตุระเบิดที่อำเภอแม่สอด ถูกควบคุมตัวและจะถูกผลักดันส่งกลับ มีเนื้อหาระบุว่า จากกรณีที่สื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวเกิดเหตุระเบิดขึ้นบริเวณสถานที่กำจัดขยะมูลฝอย เทศบาลเมืองแม่สอด ซึ่งตั้งอยู่หมู่ที่ 10 ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2551 โดยเหตุเกิดขึ้นหลังจากรถเก็บขยะ หมายเลขทะเบียน บ 7742 ตาก มีนายสมชาย ชมใจ อายุ 40 ปี เป็นผู้ขับ ได้เก็บขยะมาจากตลาดบ้านเหนือ ในเขตเทศบาลเมืองแม่สอด มาทิ้งที่บริเวณดังกล่าว แล้วมีแรงงานต่างด้าวชาวพม่ากว่า 30 คน ได้เข้าไปคุ้ยเก็บขยะ ระหว่างนั้นได้มีนายปูตา อายุ 30 ปี ใช้ตะขอที่เก็บขยะ ไปเกี่ยวเข้ากับห่วงของวัตถุระเบิด ที่มีผู้ลักลอบแอบนำไปทิ้งรวมไว้กับขยะ ทำให้เกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่น แรงงานต่างด้าวชาวพม่าได้รับบาดเจ็บทันที 14 ราย ในจำนวนนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่ อปพร.แม่สอด ได้นำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลแม่สอด


 


จากการได้รับแจ้งจากญาติของผู้ได้รับบาดเจ็บได้ทราบว่า ผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 14 รายได้แก่ นายซอป่าตี่ อายุ 60 ปี, นายซอเมทุน อายุ 25 ปี,นางด่อมี อายุ 58 ปี, ส่ออู อายุ 31 ปี, พอซี (ชาวกะเหรี่ยง ) อายุ 20 ปี, น.ส.ขิ่นตานด่าอู อายุ 16 ปี, ด.ช.อ่องโปโป อายุ 8 ปี ( บาดเจ็บบริเวณตาสาหัส ), นายปูดา อายุ 30 ปี ( บาดเจ็บสาหัส ), นางโชว่เปียว อายุ 28 ปี, อูตานเหว่ย อายุ 45 ปี, ชิดแต่ อายุ 12 ปี, นางต่อนวย อายุ 50 ปี, เวงโก่ อายุ 39 ปี ส่วนอีก 3 คนไม่ทราบชื่อ เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. ตำรวจได้เข้าจับกุมแรงงานกลุ่มนี้ที่โรงพยาบาล ข้อหาหลบหนีเข้าเมือง จับกุมไปทั้งหมด 12 คน คุมตัวไว้ที่ห้องขังของสถานีตำรวจ อ.แม่สอด ในครั้งแรกนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่าจะสอบถามข้อมูลก่อน แต่พอไปถึงโรงพักควบคุมเข้าห้องขังทันที


 


จากข้อมูลที่ญาติของแรงงานข้ามชาติซึ่งได้เดินทางไปเยี่ยมที่สถานีตำรวจ ได้บอกเล่าสถานการณ์ ในสถานีตำรวจว่ามีคนได้รับบาดเจ็บ บริเวณตาอาการค่อนข้างสาหัส รวมถึงมีผู้หญิง และ เด็กอยู่ในกลุ่มนี้ด้วย ซึ่งในเวลาประมาณ 17.50 น. ทางเจ้าหน้าที่องค์กรพัฒนาเอกชนในพื้นที่ได้โทรศัพท์ไปสอบถามข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ได้ให้คำตอบว่า มีแรงงานกลุ่มนี้อยู่จริง และ จะมีการขึ้นศาลพรุ่งนี้ ข้อหาหลบหนีเข้าเมือง และ จะมีการส่งกลับต่อไป ในช่วงแรกเจ้าหน้าที่แจ้งว่าไม่มีคนที่ได้รับบาดเจ็บ ต่อมาได้บอกว่ามีคนที่ได้รับบาดเจ็บแต่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. เจ้าหน้าที่จากองค์กรพัฒนาเอกชนได้โทรกลับไปสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากสถานีตำรวจอีกครั้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าเวรได้แจ้งว่าไม่มีแรงงานข้ามชาติอยู่ ไม่มีการจับกุมแรงงาน และข่าวที่เกี่ยวกับเรื่องระเบิดนั้นเป็นเพียงข่าวลือเท่านั้น


 


ทางเครือข่ายปฏิบัติเพื่อแรงงานข้ามชาติ ซึ่งเป็นเครือข่ายขององค์กรพัฒนาเอกชนด้านแรงงานข้ามชาติ และติดตามกับกรณีดังกล่าวอย่างใกล้ชิด มีความกังวลใจต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อสุขภาพของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ระเบิด รวมทั้งต่อแนวปฏิบัติของเจ้าหน้าที่รัฐต่อการดำเนินการในครั้งนี้ ดังนี้


 


เนื่องจากแรงงานข้ามชาติที่ได้รับบาดเจ็บในครั้งนี้ย่อมมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้ออันเนื่องมาจากบาดแผลที่ได้รับจากการระเบิด อีกทั้งบริเวณนั้นเป็นพื้นที่สกปรก การเร่งควบคุมตัวแรงงานข้ามชาติที่ได้รับบาดเจ็บจากโรงพยาบาลอย่างรวดเร็วนั้นเป็นการเหมาะสมต่อการรักษาพยาบาลหรือไม่ หากจะพิจารณาตามหลักการโดยทั่วไปแล้ว มนุษย์ทุกคนย่อมควรต้องได้รับการรักษาพยาบาลอย่างเต็มที่เพื่อให้จะช่วยรักษาชีวิตของตนเองให้อยู่รอด การเร่งดำเนินการนำตัวแรงงานข้ามชาติมากักขังเพื่อรอการส่งกลับอย่างรวดเร็วนั้น จึงเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม และอาจจะเป็นอันตรายต่อผู้ได้รับบาดเจ็บได้


 


เพราะเหตุใดจึงมีการอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวผู้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเป็นผู้ประสบเหตุจากการระเบิดในครั้งนี้ ออกจากสถานพยาบาลอย่างรวดเร็วโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อสุขภาพและชีวิตของผู้ได้รับบาดเจ็บ แนวทางดังกล่าวถือเป็นหลักปฏิบัติต่อแรงงานข้ามชาติหรือไม่ เพราะเหตุใดหลักปฏิบัติดังกล่าวจึงมิได้คำนึงถึงความปลอดภัยของชีวิตมนุษย์ หากถือว่าการกระทำดังกล่าวเป็นหลักปฏิบัติแล้วย่อมถือได้ว่าหลักปฏิบัติดังกล่าวขัดแย้งกับจริยธรรมของเจ้าหน้าที่รัฐที่จะต้องปกป้องคุ้มครอง และดูแลรักษาชีวิตของมนุษย์ทุกคน และขัดกับหลักการสิทธิมนุษยชนสากล หลักการในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยที่ตระหนักถึงการคุ้มครองสิทธิของมนุษย์อย่างจริงจัง


 


ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอันตรายร้ายแรงต่อชีวิตตนเอง โดยสาเหตุที่มีผู้อื่นกระทำความผิดอย่างร้ายแรง พวกเขาย่อมจะต้องได้รับความเป็นธรรมและการเยียวยาจากกระบวนการยุติธรรม ซึ่งการเร่งรัดดำเนินการดังกล่าวย่อมขัดแย้งกับหลักการนี้ อาจจะถือได้ว่าเป็นการเลือกปฏิบัติต่อแรงงานข้ามชาติ ซึ่งไม่ควรเกิดขึ้นในกระบวนการยุติธรรมของไทยหรือไม่


 


ดังนั้นเครือข่ายปฏิบัติการเพื่อแรงงานข้ามชาติจึงขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ระงับกระบวนการผลักดันส่งกลับแรงงานข้ามชาติไว้ก่อน และดำเนินการจัดส่งให้ผู้ได้รับบาดเจ็บเข้าสู่การดูแลรักษาพยาบาลจนปลอดภัยต่อชีวิตและสุขภาพ ควบคู่ไปกับการเร่งดำเนินการสอบสวนต่อเหตุการณ์ระเบิดในครั้งนี้ พร้อมทั้งเยียวยา ชดเชยผู้ได้รับบาดเจ็บในฐานะที่เป็นผู้ได้รับผลกระทบจากคดีอาญาที่ตนเองไม่ได้เป็นผู้เกี่ยวข้องตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างจริงจัง และขอเรียกร้องต่อหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ได้เร่งทบทวนและแก้ไขแนวปฏิบัติต่อสถานการณ์ในลักษณะดังกล่าว โดยให้วางอยู่บนพื้นฐานของความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ของผู้ได้รับผลกระทบ และคำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชน และสิทธิของผู้ป่วยอย่างไม่เลือกปฏิบัติ


 


ด้านมูลนิธิผสานวัฒนธรรมได้เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจระงับการผลักดันแรงงานกลับประเทศต้นทางไว้ก่อน และเร่งสืบหาข้อเท็จจริงเพื่อนำผู้กระทำผิดสำหรับกรณีระเบิดดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมายเพื่อที่จะให้แรงงานผู้เสียหายได้รับการเยียวยาโดยเร็ว และเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องยึดถือหลักสิทธิมนุษยชนและสิทธิในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม เพื่อนำทางการปฏิบัติและให้ความคุ้มครองแรงงานทั้ง 16 คน อย่างเหมาะสม และให้ความช่วยเหลือแก่แรงงาน ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับหน้าที่ของหน่วยงานรัฐที่ต้องปฏิบัติงานโดยอาศัยหลักนิติธรรม และการเคารพสิทธิของบุคคลตามที่ได้บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 และพันธกรณีระหว่างประเทศที่ผูกพันประเทศไทย


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net