Skip to main content
sharethis



7 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา 09.00น. บริเวณหน้าที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลลำนางรอง อำเภอโนนดินแดง จังหวัดบุรีรัมย์ ชาวบ้านกลุ่มผู้เดือดร้อนจากปัญหาที่ดินทำกินอำเภอโนนดินแดง จังหวัดบุรีรัมย์ จำนวนกว่า 800 คน ได้ชุมนุมเพื่อคัดค้านการต่อสัญญาเช่าพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติดงใหญ่ ในการปลูกยูคาลิปตัสของบริษัทเอกชนจากองค์การบริหารส่วนตำบลลำนางรอง


 


โดยการชุมนุมในวันนี้เป็นผลมาจากการที่บริษัทปลูกสร้างสวนป่านางรอง จำกัด บริษัทนางรองอุตสาหกรรม จำกัด และบริษัทวนเกษตร จำกัด ได้ยื่นหนังสือขอความเห็นชอบในการต่ออายุสัญญาพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติดงใหญ่ ที่จะหมดลงในปี 2552 ซึ่งองค์กรบริหารส่วนตำบลลำนางรองนัดประชุมพิจารณาเรื่องดังกล่าวในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2551


 


ในขณะเดียว กลุ่มผู้เดือดร้อนจากปัญหาที่ดินทำกิน ก็ได้ชุมนุมและยื่นข้อเรียกร้องต่อองค์การบริหารส่วนตำบลลำนางรอง 3 ข้อ คือ 1.คัดค้านการต่อสัญญาเช่าพื้นป่าสงวนแห่งชาติดงใหญ่ของบริษัทเอกชน 2.ขอมติเห็นชอบในการนำพื้นที่ที่หมดสัญญาเช่า มาจัดสรรให้กับประชาชนในอำเภอโนนดินแดง 3.ขอมติเห็นชอบให้กรมป่าไม้ส่งมอบพื้นที่ที่หมดสัญญาเช่า ให้สำนักงานปฏิรูปที่ดินนำมาจัดสรรให้ประชาชนโนนดินแดง


 


สมาชิกองค์กรบริหารส่วนตำบลลำนางรองได้เริ่มประชุมเวลา 10.30 น. โดยมีส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุม ในวาระการพิจารณาขอความเห็นการต่อสัญญาเช่าพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติดงใหญ่ ได้มีการแสดงความคิดเห็นและอภิปรายแสดงความเห็นที่หลากหลาย


 


เจ้าหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ และหน่วยป้องกันรักษาป่าจังหวัดบุรีรัมย์ที่ 5 (บร.5 ลำนางรอง) มีความเห็นว่า "ไม่สมควรต่อสัญญาเช่า และให้นำพื้นที่มาฟื้นฟูเป็นพื้นที่ป่า"


 


ทั้งนี้ มีสมาชิกองค์กรบริหารส่วนตำบลลำนางรองบางส่วน เสนอให้มีการเลื่อนการพิจารณาเรื่องนี้ออกไปก่อน เนื่องจากตัวแทนบริษัทส่วนป่าไม่ได้เข้ามาร่วมชี้แจง ขณะที่ สมาชิก อบต. ลำนางรองบางส่วนอภิปรายว่า "ได้มีการส่งหนังสือแจ้งไปยังบริษัทเป็นที่เรียบร้อย แต่บริษัทไม่ได้เข้าร่วม จึงขอความเห็นให้พิจารณาต่อ


 


อย่างไรก็ตาม ได้มีความพยายามขอมติจากที่ประชุม โดยที่ประชุมมีมติให้เลื่อนการพิจารณาเรื่องดังกล่าวไปในการประชุมครั้งต่อไป ด้วยมติ 16 ต่อ 12 เสียง


 


จากมติดังกล่าวได้สร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มชาวบ้านที่ไปชุมนุม จึงมีการตะโกน ด่าทอ สมาชิก อบต. จนไม่สามารถดำเนินการประชุมต่อในวาระอื่นได้ และสมาชิก อบต. ต่างเดินออกจากห้องประชุม ส่วนสมาชิก อบต. ผู้เสนอเลื่อนการพิจารณา ต้องติดอยู่ในห้องประชุม และรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจคุ้มกันออกจากห้องประชุมในเวลาต่อมา


 


นายมวล เทียนพิมาย แกนนำกลุ่มผู้เดือนร้อนจากปัญหาที่ดินทำกินบ้านลำนางรองกล่าวว่า จากมติ อบต.ลำนางรอง ทำให้กระแสข่าวที่ได้ยินมาว่า "มีสมาชิก อบต. กว่า 10 คน รับเงินรายละ 100,000 บาท จากบริษัทเอกชนที่ขอเช่าพื้นที่เพื่อให้ยกมือเห็นชอบ" ซึ่งการกระทำของสมาชิก อบต. หลายคนในวันนี้ได้เป็นการตอกย้ำในข่าวลือดังกล่าว


 


นายสมนึก ปัดชา เลขานุการศูนย์ประสานงานกลุ่มผู้เดือนร้อนจากปัญหาที่ดินตำบลลำนางรองกล่าวว่า จากการที่กรมป่าไม้ได้อนุญาตให้บริษัทเอกชนเช่าพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติดงใหญ่เพื่อปลูกสร้างสวนป่ายูคาลิปตัส จำนวน 9 แปลง 7 บริษัท เนื้อที่ 23,746 ไร่ ซึ่งมีพื้นที่บางส่วนหมดอายุสัญญาเช่าไปเมื่อปี 2546 จำนวน 2 แปลง เนื้อที่ 6,732 ไร่ ส่วนพื้นที่ที่หมดสัญญาในปี 2552 จำนวน 7 แปลง เนื้อที่ 16,045 ไร่


 


เมื่อปี 2546 องค์การบริหารส่วนตำบลลำนางรองเคยมีมติเห็นชอบให้กับบริษัทเอกชนไปแล้ว แต่เราก็ยังยืนยันในเจตนารมณ์การแก้ไขปัญหาปากท้องของเรา สำหรับมติ อบต.ลำนางรองรองวันนี้ทำให้ชาวบ้านที่มาร่วมรับฟังได้เห็นแล้วว่า คนที่เขาเลือกมาได้สนใจพวกเขาหรือไม่ ซึ่งในการประชุมครั้งต่อไปเราจะมาร่วมรับฟังกับ อบต. ลำนางรองอีก และคิดว่าสมาชิกของเราจะมามากกว่าวันนี้


 


"คงต้องรอดูการพิสูจน์ตัวเองว่า สมาชิก อบต. ที่ได้รับการเลือกตั้งมาจากประชาชน จะยืนอยู่ข้างประชาชนหรืออยู่ข้างนายทุน" นายสมนึก กล่าวทิ้งท้าย


 


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net