คุณแม่วัย 30 จากเมนิโซต้า, สหรัฐอเมริกา กลายเป็นไก่ตัวแรกที่บรรษัทอุตสาหกรรมเพลงเชือดให้นักท่องเน็ตทั้งหลายดูเป็นเยี่ยงอย่าง เมื่อเธอแพ้คดีและต้องจ่ายเงินมหาศาลถึง 220,000 ดอลลาร์

แจมมี่ โทมัส คุณแม่วัย 30 จากเมนิโซต้า, สหรัฐอเมริกา เป็นเหยื่อรายแรกที่ถูกดำเนินคดี จากจำนวนกว่า 26,000 คน ที่ถูกบรรษัทยักษ์ใหญ่จากอุตสาหกรรมเพลงยื่นฟ้อง โดยเธอปฏิเสธจะชำระความ หลังจากที่ถูกตั้งข้อหาโดย สมาคมอุตสาหกรรมดนตรีของสหรัฐอเมริกา (RIAA) และค่ายเพลงยักษ์ใหญ่

RIAA ได้ออกมาแถลงถึงการตัดสินใจของคณะลูกขุนที่ยืนยันว่า "กฎหมายนั้นระบุไว้ชัดเจน รวมถึงผลลัพธ์จากการละเมิดมันด้วย ... เราจะยังคงดำเนินการโดยใช้มาตรการทางกฎหมายแก่บุคคลที่กระทำผิดกฎต่อไป"

สมาคม RIAA อ้างว่ากลุ่มสมาชิกของพวกเขาสูญเสียรายได้กว่าพันล้านดอลลาร์จากที่มีการละเมิดลิขสิทธิ์ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แล้วยังได้กล่าวอีกว่า การควบคุมแนวทางปฏิบัตินั้นเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อที่จะ "ทำให้แน่ใจว่าบริษัทค่ายเพลงจะสามารถลงทุนกับวงดนตรีใหม่ๆ ได้อนาคต"

ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 RIAA ได้ใช้มาตรการทางกฎหมายกับจำเลยถึง 26,000 คนแล้ว ในสหรัฐอเมริกา และโดยส่วนใหญ่จะยอมเสียค่าชดเชยระหว่าง 3,000 และ 5,000 ดอลลาร์

มีกรณีของ โทมัส ซึ่งปฏิเสธข้อตกลงโดยที่จะจ่ายเงินไม่กี่พันดอลลาร์ และตัดสินใจที่จะให้คดีนี้ไปสู่ชั้นศาลแทน

กรณีตัวอย่างนี้ ทำให้เกิดปฏิกิริยาโต้ตอบอย่างรุนแรงจากนักวิเคราะห์และนักรณรงค์ผู้ทำงานเรื่องของลิขสิทธิ์ และทรัพย์สินทางปัญญา

มาร์ค มูลลิแกน นักวิเคราะห์จากสถาบันวิจัยจูปิเตอร์ (Jupiter Research) บอกว่า ทาง RIAA "ต้องการที่จะสร้างอุปสรรคสำหรับจำเลยอื่นๆ ผู้หวังจะท้าทายบทลงโทษโดยการไม่จ่ายปรับ"

"แต่บทลงโทษมันเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ แล้ว RIAA ก็ยังเลือกใช้ท่าทีรุนแรงตามแบบฉบับของพวกเขา และพูดอย่างอวดดีว่า "นี่ไงล่ะ สิ่งที่เกิดขึ้นกับคนที่ไม่จ่ายค่าปรับ"

ความคิดเห็นอื่นๆ เกรี้ยวกราดกว่านั้น

จอน นิวตั้น บรรณาธิการ P2PNet ของ ประเทศแคนาดา ผู้ติดตามเรื่องเกี่ยวกับการแชร์ไฟล์ทางอินเตอร์เน็ต ได้กล่าวว่า "บริษัทค่ายเพลงจอมละโมภทั้งสี่ ทำให้คนๆ หนึ่ง ซึ่งเป็นแม่ลูกสองสิ้นเนื้อประดาตัว เพียงแค่บริษัทพวกนี้กระหายเงินเท่านั้นเอง"

ขณะที่หลายคนยังคงยืนยันในสิทธิของการที่จะแชร์ไฟล์ทางอินเตอร์เน็ต โทมัสกลับพูดในอีกประเด็นว่า เธอกลายเป็นเป้าหมายที่ผิดพลาดของ Safenet ซึ่ง Safenet คือผู้ทำสัญญากับทางอุตสาหกรรมเพลงเพื่อทำหน้าที่ตรวจตราการเผยแพร่ไฟล์ที่มีลิขสิทธิ์ในอินเตอร์เน็ต

ทนายความของเธอได้บอกในสัปดาห์ก่อนหน้านี้ว่า เธอถูกขูดรีดประมาณ 60,000 ดอลลาร์ เป็นค่าธรรมเนียมทางกฎหมาย เพียงเพราะเธอไม่อยากถูกรังแก

ขณะเดียวกัน โทมัส ยืนยันว่าเธอไม่เคยแม้แต่จะดาวน์โหลดหรืออัพโหลดเพลง ทนายความของเธอก็พยายามทำให้ลูกขุนเชื่อว่า มันไม่มีทางพิสูจน์ได้เลย ว่าใครเป็นคนอัพโหลดเพลงขึ้นในเครือข่ายแชร์ไฟล์ของ Kazaa

โทมัส เป็นพนักงานที่ทำงานเกี่ยวกับชนเผ่าอินเดียนแดงชื่อ Mille Lacs Band of Ojibwe ถูกบังคับให้ต้องชำระค่าปรับเป็นเงิน 9,250 ดอลลาร์ต่อ 24 เพลงที่แชร์ออกไปตามที่อ้างในคดี รวมถึงเพลง "Spiral" ของวง Godsmack "Bills, Bills, Bills" ของวง Destiny"s Child และ "Building a Mystery" ของ Sarah McLachlan

การที่เธอถูกกล่าวหาจากบริษัทค้าเพลงว่ามีเพลงถึง 1,702 เพลงในโฟลเดอร์ออนไลน์ นั้น ทำให้เธอถูกสั่งปรับได้ถึงหลักล้านเลยทีเดียว

นักวิเคราะห์บอกว่า การดาวน์โหลดเพลงอย่างผิดกฎหมายและการแชร์ไฟล์จะยังคงเป็นที่แพร่หลาย ถึงแม้จะมีการให้ความสนใจเว็บไซต์เพลงถูกกฎหมายอย่าง Apple"s iTunes มากขึ้นก็ตาม

การรายงานจากการวิจัยของบริษัทวิจัยตลาดการค้าโลก (NPD) กล่าวว่า เป็นครั้งแรกในปี 2007 ที่พบว่าจำนวนครัวเรือนในประเทศสหรัฐฯ ที่อาศัยการดาวน์โหลดอย่างถูกกฎหมายนั้นดูจะมีมากกว่า ผู้ที่ใช้การแชร์ไฟล์อย่างผิดกฎหมาย กระนั้น ปริมาณของผู้ใช้การดาวน์โหลดอย่างผิดกฎหมายยังคงขึ้นๆ ลง ๆ

NPD ประเมินว่า มากกว่า 5 พันล้านไฟล์ถูกดาวน์โหลดโดยผู้ใช้ของสหรัฐฯ ในปี ค.ศ. 2006 ซึ่งมากขึ้นกว่าปีก่อนหน้านี้ร้อยละ 47

เว็บไซต์ BigChampagne ผู้ตามแกะรอยการดาวน์โหลด ยืนยันว่า คน 9 ล้านคนทั่วโลกกำลังแลกเปลี่ยนหรือดาวน์โหลดเพลงโดยไม่ได้รับอนุญาต ไม่ว่าจะในเวลาใด

อิริค การ์แลนด์ จาก BigChampagne บอกว่า คำตัดสินของคณะลูกขุนอาจจะส่งผลบวกต่อ RIAA ในด้านการที่จะแสดงให้เห็นว่า ผู้ดาวน์โหลดนั้นจะต้องพบกับการดำเนินคดี แต่มันไม่อาจจะทำให้การดาวน์โหลดอย่างผิดกฎหมายลดลงเลย

 "นักวิจารณ์มากมายที่นี่ยังคงโต้ตอบว่า RIAA กำลัง "แพ้ทั้งๆ ที่ชนะ" เพราะสิ่งที่พวกเขาเน้นคือการทำสงครามกับลูกค้าที่มีศักยภาพ และไม่ได้แตะต้องธุรกิจใหม่ที่กำลังประสบความสำเร็จเลย" อิริค การ์แลนด์ กล่าว

ที่มา:

Music industry wins key victory in illegal US download trial (AFP 5 ตุลาคม 2550)