Skip to main content
sharethis

โดย  BioLawCom


 


ในขณะที่คนไทยในประเทศไทยกำลังตื่นเต้น และออกจะตื่นตัวกับวันลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2550 ทั้งฉบับ ในวันที่ 19 สิงหาคม 2550 ที่จะถึงนี้ ท่านทราบหรือไม่ว่า คนไทยในต่างประเทศจำนวนไม่น้อยไม่ทราบรายละเอียดในเรื่องเหล่านี้เลย และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้น "พวกเราไม่ได้สิทธิในการร่วมมหกรรมการลงประชามติ ฯ ในครั้งนี้ !" แม้เราจะมีสัญชาติไทย และเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งตามกฎหมายไทยแล้วก็ตาม

เมื่อรัฐบาล, คมช. และ สสร. ต่างก็รณรงค์โฆษณากันอย่างเอิกเกริก ว่าการออกเสียงลงประชามติในครั้งนี้ ถือเป็นการเปิดโอกาสให้ปวงชนชาวไทยได้แสดงความคิดเห็นโดยตรงต่อธรรมนูญการปกครองสูงสุดของประเทศ ซึ่งย่อมมีผลต่อประชาชนเอง เป็นครั้งแรก เช่นนี้แล้วกระบวนการทางการเมืองนี้ จึงควรนับให้เป็นประวัติศาสตร์ไทยอีกหน้าหนึ่ง ซึ่งผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นประชาชนไทยทุกคนไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ควรได้มีส่วนร่วม มิใช่ดอกหรือ ???

ลำพังแต่เพียง  ประเด็นความขัดแย้งต่างๆ อันเกี่ยวกับกระบวนการร่างและลงมติร่างรัฐธรรมนูญ ทั้งในเรื่อง ที่มาของสภาร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งออกจะหมกเม็ด และไม่ได้มาจากตัวแทนประชาชนจริงๆ, ความไม่โปร่งใส ไม่เป็นกลาง เอียงกระเท่เร่ ในการรณรงค์ลงประชามติ, การบิดเบือนความจริงในทำนองว่า หากไม่รับร่างฯ การเลือกตั้งก็จะไม่เกิด (ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้ว ต้องเกิดขึ้น ตามข้อกำหนดในรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวที่พวกตนเป็นผู้เขียนเองกับมือ) จนสร้างความกังวลต่อสถานการณ์การเมืองหลังจากนี้ และส่งผลต่อการตัดสินใจของคนไทยจำนวนมาก

ลำพังแต่เพียง การพยายามปิดกั้นเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของกลุ่มที่เห็นแตกต่างไปจากพวกตน, การข่มขู่ ใส้ร้ายป้ายสี ยัดเยียดข้อหานานาพันธุ์ รวมทั้งลงมือละเมิดสิทธิด้วยการจับกุมแบบไร้ข้อหากับกลุ่มที่รณรงค์ไม่ให้รับร่างฯ, การยังคงไว้ซึ่งกฎอัยการศึกในหลายพื้นที่ เพื่อไม่ให้ประชาชนชุมนุมกันเพื่อแสดงความคิดเห็น หรือวิพากษ์วิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญ ในขณะที่ฝ่ายรัฐเองกลับระดมทั้งกำลังคน กำลังทรัพย์ ภาษีประชาชนจำนวนมหาศาล เพียงเพื่อโฆษณาแต่ข้อดีของรัฐธรรมนูญอัปลักษณ์ฉบับนี้

ลำพังแต่เพียงการ "มัดมือชก" กรณีที่ประชาชนไม่มีทางจะรู้ได้เลยว่า หากไม่รับรัฐธรรมนูญฉบับนี้ รัฐบาลและคมช.จะหยิบฉบับไหนมาใช้บังคับ ประชาชนไม่สามารถเปรียบเทียบเพื่อการตัดสินใจได้เลยว่า ตนควรจะเลือกเนื้อหาของฉบับใดที่ดีกว่ากัน กลายเป็น "การลงประชามติแบบไร้ทางเลือก" และ

ลำพังแต่เพียง เนื้อหาต่าง ๆ ที่ถูกบรรจุไว้ในร่างรัฐธรรมนูญปี 2550 ที่บรรดาคนร่าง ทั้งผลัก ทั้งดันให้ประเทศกลับไปสู่ระบอบอำมาตยธิปไตย ชูอภิสิทธิ์ชน และชนชั้นศักดินา

เหล่านี้ ก็ทำให้ใครหลายต่อหลายคน ไม่อาจทนกระเดือกรัฐธรรมนูญฉบับนี้ลงคอ ได้อยู่แล้ว !!

แต่ท่านทราบหรือไม่ว่า รัฐบาล คมช. สสร. สนช. กกต. และอื่น ๆ อีกมากมาย อันเป็นองค์กรที่ถูกสร้างขึ้นภายใต้การรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ยังจงใจที่จะละเลย หลงลืมสิทธิของคนไทยอีกเป็นจำนวนมากที่อยู่ในต่างประเทศด้วย

ความจริง ก็คือ ทั้งในร่างรัฐธรรมนูญปี ๒๕๕๐ เอง, รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ๒๕๔๙, พระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ (ที่เพิ่งประกาศในราชกิจจนุเบกษาวันนี้) รวมทั้ง ประกาศสภาร่างรัฐธรรมนูญ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการว่าด้วยการเผยแพร่ร่างรัฐธรรมนูญ และการออกเสียงประชามติ พ.ศ. ๒๕๕๐ ล้วนแล้วแต่มิได้กล่าวถึง หรือประกาศให้สิทธิในการลงประชามติครั้งนี้ แก่คนไทยที่พำนักอยู่ในต่างประเทศเลย

ความจริง ก็คือ จนถึงวันนี้ หน่วยงานไทยต่าง ๆ ที่ตั้งอยู่ในต่างประเทศ ไม่ได้ตื่นตัว ไม่ได้มีการประสาน ไม่ได้ดำเนินการ และไม่ได้เตรียมการอย่างใดๆ เลย เพื่อให้ข้อมูล ทำความเข้าใจ และจัดการให้คนไทยอีกจำนวนมากมายในต่างประเทศได้ "มีส่วนร่วม" ในการตัดสินใจครั้งสำคัญในครั้งนี้

ความจริง ก็คือ เจ้าหน้าที่หน่วยงานไทยในต่างประเทศเหล่านั้นเอง หลายคน ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า เค้าจะมีการลงอะไรกันหรือ ?!

คำถาม ก็คือ พวกเรา และ คนไทยอีกจำนวนมากในต่างประเทศ ยังเป็นบุคคลผู้มีสัญชาติไทย เป็นผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งตามกฎหมาย และยังต้องตกอยู่ภายใต้บังคับแห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย รวมทั้งบทบัญญัติทั้งปวงของประเทศไทย อยู่อีกหรือเปล่า ?

คำถาม ก็คือ คำโฆษณาประชาสัมพันธ์ของรัฐบาล, คมช. และสภาร่างรัฐธรรมนูญเอง ที่ว่า ประสงค์ให้ประชาชนไทยทุกคนได้มีส่วนร่วมอย่างกว้างขวางกับรัฐธรรมนูญฉบับนี้ มันเป็นจริง หรือว่าเสแสร้ง ?

คำถาม ก็คือ ท่านคิดว่า การทำประชามติครั้งนี้ ครั้งที่เขาว่ากันว่า มันเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทย มันเป็นประชาธิปไตย และจะนำพวกท่านไปสู่ระบอบประชาธิปไตย กันจริง ๆ ล่ะหรือ ?

สุดท้าย โปรดอย่าตั้งคำถามสตึๆ กับเราเลยครับว่า พวกเราจะรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ? ก็ในเมื่อ เพียงแค่สิทธิในการแสดงเจตจำนง ณ วันนี้ เรายังไม่มีมันอยู่ในมือเลยด้วยซ้ำ

จะโดยตั้งใจหรือไม่ก็ตาม แต่เพียงการละเลย หรือหลงลืมสิทธิในการแสดงความคิดเห็นต่อธรรมนูญการปกครองสูงสุด รวมทั้งอนาคตความเป็นไปของบ้านเมืองของพี่น้องประชาชนซึ่งได้ชื่อว่าเป็นคนไทยเช่นเดียวกับท่าน แม้จะอยู่ในต่างประเทศ สิทธิเสรีภาพของประชาชน และระบอบประชาธิปไตยที่โฆษณาไว้เสียสวยหรู ก็ขาดวิ่นและแหว่งเว้าเสียแล้ว

ปล. การประท้วงนี้ คาดหมายได้อยู่แล้วครับว่า ไม่มีทาง ที่รัฐจะดำเนินการอะไรให้ได้ (หรือถ้าได้ก็คงขี้เกียจจะคิดแล้วกระมัง) เราเพียงแต่ต้องการเปิดประเด็น ความไม่จริงใจ และความไม่เป็นประชาธิปไตยของขบวนการปาหี่ประชามติในครั้งนี้ เพิ่มอีกประเด็นหนึ่งเท่านั้น ...


 


เมื่อเป็นเช่นนี้ ถึงจุดนี้แล้ว เราคงทำอะไรไม่ได้ นอกจากต้อง ไม่ร่วม ไม่ร่าง ไม่รับ รัฐธรรมนูญฉบับรัฐประหาร (แม้เสียงเราจะดูเลื่อนลอยกว่าเสียงของคนไทยคนอื่น ๆ ก็ตาม)


 


 


 


 


-----------------


หมายเหตุ - อ่านรายละเอียดโครงการ iReport ได้ใน รับ "นักข่าวพเนจร" จรข่าวผ่านประชาไท สู่มือใครอีกหลายๆ คน


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net