กรรมการสิทธิฯ ขยับแล้ว ตั้งคณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยด่วน

ประชาไท - 26 ก.ค.2550 ภายหลังจากที่ศาลอาญาได้มีคำสั่งให้ผู้ต้องหาทั้ง 9 คน ประกอบด้วย นายวีระ มุสิกพงศ์, นายจตุพร พรหมพันธุ์, นายจักรภพ เพ็ญแข, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, นพ.เหวง โตจิราการ, นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย, นายมานิตย์ จิตต์จันทร์กลับ, พ.อ.ดร.อภิวันท์ วิริยะชัย และนายจรัล ดิษฐาอภิชัย มารับทราบข้อกล่าวหา ภายในห้องประชุมชั้น 12 ศาลอาญา รัชดา และพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหามั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป กระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง และข้อหาสั่งการหรือยั่วยุปลุกระดมให้กลุ่มบุคคลกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด ให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองและขัดขืนคำสั่งเจ้าพนักงาน

 

จากนั้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งการจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 9 คน พร้อมสอบคำให้การ ผู้ต้องหาทั้ง 9 ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา พนักงานสอบสวนจึงควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมยื่นคำร้องขออนุญาตฝากขังต่อศาลทันที ก่อนจะพาตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปที่ สน.สามเสน

 

ต่อกรณีดังกล่าว นางสุนีย์ ไชยรส กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้แสดงความคิดเห็นทางสถานีโทรทัศน์เนชั่นแชนเนลว่า โดยหลักการแล้ว คนเราไม่ควรจะถูกขัง และในกรณีนี้ ผู้ที่ถูกกล่าวหาทุกคนก็ไม่ได้หลบหนีไปไหน เพราะฉะนั้นก็ควรจะมีสิทธิที่จะได้รับการประกันตัวโดยเร็ว

 

"วันนี้ดิฉันได้ไปเยี่ยมทั้งหมดที่ สน.สามเสน ก็คิดว่ามี 2 ส่วน คือบางท่านก็อาจไม่เต็มใจที่จะประกันตัว และบางส่วน อย่างเช่นคุณจรัล ก็เตรียมที่จะประกันตัวพรุ่งนี้ โดยหลักการแล้ว เราก็ถือว่าควรจะต้องให้มีการประกันตัว แต่เจ้าหน้าที่อาจจะยังตั้งกระบวนการของเขาไม่ได้ครบถ้วน เพราะฉะนั้น จึงใช้มาตราอีกมาตราหนึ่ง คือการขังไว้ก่อน"

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการสอบถามถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่เปลี่ยนการรับทราบข้อกล่าวหาเป็นการขอหมายศาลเพื่อจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 9 นั้น นางสุนีย์กล่าวว่า ในเบื้องต้น กรรมการสิทธิฯ เองก็คาดไม่ถึงเหมือนกัน เพราะการที่ผู้ถูกกล่าวหาไม่ได้หลบหนีไปไหน ก็เหมือนกับว่ามาเพื่อจะรับทราบข้อกล่าวหา หรือมีความสมใจร่วมกันอยู่แล้ว แต่พอเปลี่ยนเป็นการตั้งข้อหาหลายข้อหา ถึงขนาดขังและไม่ให้ประกันตัว ก็ต้องยอมรับว่าทำให้เรื่องของสิทธิเสรีภาพเป็นที่น่าหวั่นวิตกอยู่เหมือนกัน เพราะไม่ทราบว่าเจ้าหน้าที่จะใช้เหตุผลอะไรต่อการที่ต้องขังเอาไว้ ในเมื่อข้อหาทั้งหมดไม่ได้ร้ายแรงชนิดที่จะทำให้ไม่สามารถประกันตัวได้

 

"โดยหลักการแล้ว ดิฉันไม่เห็นด้วย เหมือนอย่างที่เราพูดถึงสิทธิเสรีภาพในกระบวนการยุติธรรมโดยปกติ ไม่ว่าใครก็ตาม เขาควรจะได้รับโอกาสที่จะได้เข้าเยี่ยม ได้รับการดูแลตามสิทธิขั้นพื้นฐาน ซึ่งอันนี้ก็พูดกันมายาวนานแล้ว และคนไทยก็มีประเพณีที่จะต้องปฏิบัติ แล้วข้อหานี้ก็สืบเนื่องมาจากการชุมนุม ถ้าจะตั้งข้อหาก็ต้องตั้งให้ชัดเจน ว่าเรื่องอะไร และควรจะให้โอกาสประกันตัว"

 

นอกจากนี้ สุนีย์ ไชยรส ได้กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่านายจรัล ดิษฐาอภิชัย ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการสิทธิฯ และเป็นหนึ่งในผู้ต้องหาในกรณีดังกล่าว ไม่น่าจะถูกปลดออกจากการเป็นกรรมการสิทธิฯ เพราะเป็นเพียงการถูกกล่าวหา และผู้ที่ถูกกล่าวหา ถือว่ายังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ จนกว่าศาลจะมีคำสั่งตัดสินออกมาชัดเจน

 

"ในกรณีของคุณจรัล ถือว่าเป็นการแสดงสิทธิเสรีภาพเป็นการส่วนตัว และคณะกรรมการสิทธิก็มีการตั้งอนุกรรมการเฉพาะกิจเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจากกระบวนการที่นำมาสู่เหตุการณ์ในวันที่ 22 กรกฎาคม ซึ่งไม่ใช่เรื่องของการถูกจับ แต่เป็นการตรวจสอบความเป็นมาเบื้องต้น จนกระทั่งถึงเหตุการณ์ที่มีการกล่าวหาซึ่งกันและกันว่า ตำรวจหรือฝ่ายผู้ชุมนุมกันแน่ที่ก่อความรุนแรง เราจะตั้งอนุกรรมการในส่วนนั้น"

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท