ประชาไท - 1 พ.ค. 50 เมื่อวันที่ 29 เมษายน ที่ผ่านมา ที่พิพิธภัณฑ์แรงงานไทย กรุงเทพมหานคร องค์กรพัฒนาเอกชนและเครือข่ายแรงงานนำโดย น.ส.
โดยเครือข่ายดังกล่าว เห็นว่าเป็นนโยบายเลือกปฏิบัติต่อกลุ่มแรงงานข้ามชาติ และจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของแรงงานข้ามชาติ และจะเป็นช่องทางทำให้เจ้าหน้าที่รัฐสามารถเข้าไปหาผลประโยชน์โดยมิชอบได้
โดยทางเครือข่ายเสนอให้มีการยกเลิกประกาศจังหวัดและนโยบายที่มีการละเมิดสิทธิและการเลือกปฏิบัติต่อแรงงานข้ามชาติทั้งหมด และต้องบังคับใช้กฎหมายในการคุ้มครองแรงงานอย่างจริงจัง รวมทั้งกำหนดแนวปฏิบัติที่เอื้อต่อการเข้าถึงการคุ้มครองสิทธิของแรงงานข้ามชาติ โดยรายละเอียดของข้อเรียกร้องปรากฏในแถลงการณ์ท้ายข่าว
พิพิธภัณฑ์แรงงานไทย
วันที่ 29 เมษายน 2550
กรณีที่มีประกาศของจังหวัดระนอง เรื่อง "กำหนดมาตรการจัดระเบียบคนต่างด้าวบางจำพวก" และประกาศจังหวัดภูเก็ต เรื่อง "การจัดระบบในการควบคุมแรงงานต่างด้าว" เช่น ห้ามแรงงานข้ามชาติใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ ห้ามมิให้แรงงานข้ามชาติออกนอกที่พักอาศัยหลังเวลา 20.00 น. ห้ามชุมนุมตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป เป็นต้น
พวกเราในฐานะกลุ่ม องค์กรของแรงงานข้ามชาติ และองค์กรพัฒนาเอกชนที่ทำงานร่วมกับแรงงานข้ามชาติ มีความเห็นว่าประกาศจังหวัดดังกล่าวนั้น ขัดแย้งกับหลักการสิทธิมนุษยชน สิทธิแรงงานและอนุสัญญาต่าง ๆ ที่ประเทศไทยได้ให้การรับรองและเป็นสมาชิก เป็นนโยบายเลือกปฏิบัติต่อกลุ่มแรงงานข้ามชาติ หรือคนต่างชาติเพียงกลุ่มเดียว คือ พม่า ลาวและกัมพูชา เป็นแนวคิดในการป้องกันสังคม โดยไม่คำนึงถึงสิทธิของแรงงานไม่ได้อยู่บนฐานของความเป็นจริงที่สามารถพิสูจน์ได้เรื่องความมั่นคง เป็นการแยกแรงงานข้ามชาติออกจากการอยู่ร่วมในสังคม โดดเดี่ยวจากสังคม ไม่สามารถติดต่อกับครอบครัว ชุมชนของตนเองได้ ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการดำเนินชีวิต การทำงานของแรงงานข้ามชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบางประเภทกิจการที่ต้องทำงานในเวลากลางคืน ทำให้แรงงานข้ามชาติ เสี่ยงต่อการถูกบังคับใช้แรงงาน แรงงานไม่สามารถที่จะรวมตัวเพื่อเรียกร้องสิทธิแรงงานที่ตนพึงได้รับตามกฎหมาย ทั้งยังส่งผลต่อการเข้าถึงการบริการสุขภาพ การควบคุมป้องกันโรค และเป็นอุปสรรคในการทำกิจกรรมเรื่องสุขภาพ ความร่วมมือของนายจ้างจะลดลง อุปสรรคในการเข้าถึงการศึกษาและการจัดการศึกษาของชุมชนแรงงานข้ามชาติ รวมถึงไม่สามารถประกอบพิธีกรรมทางศาสนาหรือประเพณีตามวิถีปฏิบัติของแรงงานข้ามชาติได้
นอกจากนั้นยังทำให้เกิดแนวโน้มในการจะหาผลประโยชน์โดยมิชอบ และมีการทุจริตจากเจ้าหน้าที่รัฐมากขึ้น เนื่องจากเจ้าหน้าที่รัฐสามารถที่จะใช้ช่องทางของระเบียบเข้าไปแสวงหาประโยชน์จากแรงงานที่ต้องอยู่ในความหวาดกลัวต่อระเบียบนี้ ขณะเดียวกันระเบียบและวิธีคิดดังกล่าวจะสร้างทัศนคติในแง่ลบและความหวาดกลัวต่อแรงงานข้ามชาติในสังคมไทยมากขึ้น เรามีความห่วงใยว่าการออกประกาศจังหวัดดังที่กล่าวมาข้างต้นจะทำให้ประเทศไทยไม่สามารถที่จะเป็นประชาธิปไตยและได้รับการยอมรับจากชุมชนระหว่างประเทศ
พวกเราได้ตระหนักถึงประเด็นดังกล่าว และมีความกังวลใจอย่างยิ่ง ต่อสถานการณ์และแนวนโยบายที่เกิดขึ้น จึงขอเรียกร้องให้ รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดดำเนินการ ดังต่อไปนี้
ผู้ร่วมแถลงข่าว
หมายเหตุ
คำว่า "แรงงานต่างด้าว" เป็นคำที่รัฐใช้ในทางกฎหมาย แต่เครือข่าย ฯ ใช้คำว่า "แรงงานข้ามชาติ "เพราะคำว่า แรงงานต่างด้าว เป็นคำที่แสดงถึงทัศนคติในทางลบ
|