Skip to main content
sharethis


 


ประชาไท - 3 ก.พ. 2550 ตามที่เมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา นักศึกษากลุ่มชาติพันธุ์จำนวน 15 คน โปรแกรมวิชาชาติพันธุ์ศึกษาอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงของมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงรายได้ร้องเรียนถึงกรณี นายสมบัติ บุญคำเยือง ผอ.ศูนย์ชาติพันธุ์ศึกษาและสันติศึกษา มรภ.เชียงราย ได้หลอกให้เข้ามาเรียน โดยบอกว่า หากใครมาเรียนก็จะได้เรียนฟรีทุกอย่างและจะมีทุนการศึกษาให้ด้วยปีละ 2 แสนบาท แต่เมื่อเข้ามาเรียนแล้ว กลับไม่เป็นไปตามที่ อ.สมบัติเคยบอกไว้ นักศึกษาก็ไม่สามารถถอยหลังได้ เนื่องจากได้เข้าเรียนมา 2 เทอมแล้ว ทำให้นักศึกษากลุ่มดังกล่าว จำต้องกู้เงินจากกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษาที่ผูกกับรายได้ในอนาคต(กรอ.) ที่ให้เทอมละ 9,700 บาท ขณะที่บางคนก็ต้องกู้เพื่อเป็นค่าครองชีพที่ กรอ.ให้เทอมละ 2,000 บาทด้วย ทำให้นักศึกษาทุกคนต้องแบกภาระกลายเป็นหนี้ตั้งแต่เริ่มเข้ามาเรียนนั้น


ล่าสุด นายสุรพจน์ มงคลเจริญสกุล ตัวแทนนักศึกษากลุ่มชาติพันธุ์ชั้นปีที่ 1ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อ นางสุนี ไชยรส กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.) เพื่อขอความเป็นธรรมและทำการตรวจสอบพฤติกรรมของนายสมบัติ คำบุญเยือง ผู้อำนวยการสถาบันชาติพันธุ์และสันติศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย


โดยในหนังสือร้องเรียน ระบุว่า เนื่องด้วย นักศึกษากลุ่มชาติพันธุ์ ซึ่งมีฐานะยากจน และศึกษาอยู่ในชั้นปีที่ 1 ของหลักสูตรชาติพันธุ์ศึกษาอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง สถาบันชาติพันธุ์และสันติศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย ขอเรียกร้อง ผอ.สถาบันชาติพันธ์และสันติศึกษา ซึ่งมีพฤติกรรมล่อลวงและใช้อำนาจต่อนักศึกษาอย่างต่อเนื่อง จนทำให้นักศึกษาได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ และรู้สึกอึดอัดต่อการพฤติกรรมจนทนไม่ได้ จึงขอยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยแห่งชาติให้ดำเนินการตรวจสอบ และช่วยเหลือนักศึกษา ซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ลัวะ ปกาเกอญอ ลีซู ลาหู่ และดาราอั้ง จำนวน 15 ราย อย่างเร่งด่วน 


นางสุนี ไชยรส คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวภายหลังรับหนังสือร้องเรียน ว่า จะได้นำปัญหานี้ไปมอบให้อนุกรรมการสิทธิมนุษยชนที่รับผิดชอบในด้านเด็ก เยาวชนและครอบครัวได้เข้าไปตรวจสอบต่อไป


ทั้งนี้ หนังสือร้องเรียนถึง กสม.ยังได้แนบข้อมูลพฤติกรรมและการบริหารงานของนายสมบัติ บุญคำเยือง ผู้อำนวยการสถาบันฯ ว่ามีพฤติกรรมล่อลวง นักศึกษาชาติพันธุ์ที่มีฐานะทางบ้านยากจนให้เข้ามาเรียนในหลักสูตรนี้โดยอ้างว่า ทางสถาบันฯ จะมีทุนการศึกษาตลอดหลักสูตร มีที่พัก พาหนะ การได้ฝึกงานต่างประเทศ การเรียนต่อในระดับสูง และมีอาชีพการงานแน่นอนในอนาคต


ซึ่งในการล่อลวงแบ่งออกเป็น 4 แนวทาง คือ แนวทางแรก ผอ.สถาบันชาติพันธุ์ฯ ติดต่อด้วยตนเอง โดยเข้าไปแนะแนวชักชวนกลุ่มนักศึกษาชาวลัวะ จังหวัดน่านให้เข้ามาเรียน แนวทางที่สอง โดยการให้ข่าวผ่านเครือข่ายผู้รู้ชาติพันธุ์ แนวทางที่สาม มีการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่สถาบันชาติพันธุ์ และแนวทางที่สี่ คือ โดยใช้วิธีการให้ข่าวผ่านนักศึกษาในหลักสูตรฯ กระทั่งชวนเพื่อนเข้ามาร่วมเรียน


ในหนังสือยังระบุอีกว่า การเข้าชักชวนกลุ่มเด็กนักเรียนชนเผ่า ซึ่งอยู่ชั้นมัธยมปลายที่ใกล้จะจบการศึกษา ในเขต จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ น่าน และเชียงราย มีการอ้างว่าเมื่อเข้ามาเป็นนักศึกษาของศูนย์ชาติพันธุ์ศึกษาฯ ของ มรภ.เชียงรายแล้ว จะให้ทุนการศึกษา ปีละ10,000-20,000 บาท ตลอดหลักสูตร และยังบอกด้วยว่าถ้าเรียนดีจะส่งต่อถึงระดับปริญญาเอก โดยได้โน้มน้าวว่า เมื่อเรียนจบแล้วจะมีงานทำอย่างแน่นอน ทุกคนจะได้เป็นนักการฑูต กระทรวงการต่างประเทศ นักวิชาการ หรือด้อยที่สุดจะได้ทำงานที่สถาบันชาติพันธุ์


นอกจากนั้น ยังบอกอีกว่า จะจัดหาที่พักให้ฟรี และถ้าหากเป็นชาวลัวะจะสร้าง "บ้านพักลัวะ" ให้อยู่โดยเฉพาะ พร้อมจะจัดให้มีจักรยานได้ใช้กันคนละคัน แต่ในความเป็นจริงแล้ว ตลอด 2 ภาคเรียนที่ผ่านมามีเพียง "รถจักรยาน" ที่ได้รับการบริจาคจากอาจารย์ท่านหนึ่งเท่านั้น


ส่วนเรื่อง "ที่พัก" ก็ให้นักศึกษาชายทั้งหมดไปอาศัยอยู่รวมกันใน "บ้านเมี่ยน" (พิพิธภัณฑ์และห้องเรียนที่เครือข่ายผู้รู้ชนเผ่าเมี่ยนได้สร้างไว้) โดยไม่สนใจและแสดงความรับผิดชอบใดๆ ต่อนักศึกษาชายบางคนที่จ่ายค่าเช่าหอพักและค่ามัดจำไปก่อนหน้านั้นแล้ว หรือ บางคนต้องทำงานกับญาติเพื่อเลี้ยงชีพตนเอง เมื่อผู้อำนวยการสถาบันฯ มีปัญหากับผู้ดูแลบ้านเมี่ยนก็มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่เอาถ้วยจานช้อนทั้งหมดออกมา กระทั่งนักศึกษาชายทั้งหมดต้องย้ายออกจากบ้านเมี่ยนไปหาที่พักทั้งใน และนอกมหาวิทยาลัยเอง ขณะที่นักศึกษาหญิงต้องออกค่าใช้จ่ายด้านที่พักด้วยตนเองตั้งแต่แรกเข้า


สำหรับ "ทุนการศึกษา" หลังจากเปิดภาคเรียนที่ 1 ได้ราว 24 วัน (วันที่ 29 มิถุนายน 2549) ผอ.สถาบันฯ ได้จัดประชุมนักศึกษา อาจารย์และเจ้าหน้าที่ ณ ห้องเรียนสถาบันชาติพันธุ์ศึกษา โดยแจ้งว่า ทุนที่ขอไปจะเป็นของธนาคารออมสิน โดยมีเพียง 15 ทุนเท่านั้น นักศึกษาจะต้องทำเกรดเฉลี่ยได้ไม่ต่ำกว่า 3.00 จากนั้นเรื่องก็เงียบหายไป เมื่อมีการทวงถาม ผู้อำนวยการสถาบันฯ ก็ตอบว่า ส่งเรื่องไปแล้ว ทางนั้นยังไม่ตอบมา ทั้งที่ปลายภาคเรียนที่ 1 สื่อมวลชนได้รายงานข่าวการให้ทุนออมสินไปแล้ว โดยไม่มีนักศึกษาในหลักสูตรนี้แต่อย่างใด เมื่อไม่ได้ทุนออมสิน ผู้อำนวยการสถาบันฯ ก็ไม่ได้แจ้งให้นักศึกษาทราบอย่างเป็นทางการ


 


อีกทั้งยังมาว่ากล่าวซ้ำเติมผ่านนักศึกษาบางคนอีกว่า ที่ขอทุนไม่ได้ เพราะไม่สามารถรับรองได้ว่า นักศึกษาจะมีความสามารถพอ ดังนั้น นักศึกษาทั้งหมดจึงต้องดิ้นรนกู้ยืมทุนเพื่อการศึกษา และเพื่อการดำรงชีพของตัวเองจนแต่ละคนตกอยู่ในภาวะติดหนี้สินในที่สุด


 


หนังสือร้องเรียน ยังระบุอีกว่า นายสมบัติ คำบุญเยือง ผอ.สถาบันชาติพันธุ์ฯ มีพฤติกรรมใช้อำนาจตามอำเภอใจ โดยในระหว่างที่นักศึกษาเรียนอยู่ ผู้อำนวยการสถาบันฯ นึกจะเรียนตอนไหน เรียนกี่เวลากี่โมง เช่นเรียนตั้งแต่หัวค่ำถึงเที่ยงคืน นักศึกษาก็ต้องมาเรียน ทั้งที่นักศึกษาหญิงไม่มีพาหนะเดินทาง สถานที่เรียนกับหอพักก็อยู่ไกลกัน หรือจะเรียกใช้งานตอนไหน นักศึกษาก็ต้องปฏิบัติตาม


 


เช่น คืนหนึ่งในช่วงปลายภาคเรียนที่ 1 เวลาประมาณตี 2 ฝนกำลังตกก็ไปปลุกนักศึกษาชายทั้งหมดมาช่วยเข็นรถของตน บางคนถูกเรียกไปนวดตอนดึก เพื่อนนักศึกษาจีนถูกเรียกไปแปลงาน แปลเอกสารเพื่อให้ผู้อำนวยการสถาบันฯ เอาไปใช้ในการนำเสนองานต่างๆ หรือให้จัดหาข้าวปลาอาหารให้กินโดยไม่ออกเงินช่วยหรือออกก็เพียงน้อยนิด ถ้านักศึกษาคนใดไม่ปฏิบัติตามหรือไม่ช่วยงานก็ถูกว่ากล่าว ถูกขู่ว่า จะไม่ออกเกรดให้ เป็นต้น


 


ในตอนท้ายของหนังสือร้องเรียน ระบุว่า จากพฤติกรรมของผู้อำนวยการสถาบันฯ ดังที่กล่าวข้างต้นได้ส่งผลกระทบต่อนักศึกษา รวมถึงครอบครัวของพวกเราในหลายๆ ด้าน ดังนั้น นักศึกษาดังรายนามข้างล่างนี้จึงขอร้องเรียนต่อมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย คณาจารย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ร่วมกันหาแนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุด
 






รายชื่อนักศึกษาชั้นปีที่ 1 หลักสูตรชาติพันธุ์ศึกษาอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง


สถาบันชาติพันธุ์และสันติศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย 


 ชื่อ-นามสกุล                             กลุ่มชาติพันธุ์                ภูมิลำเนาเดิม


1.น.ส.อรวรรณ ไพรคีรี พฤกษา        ปกาเกอญอ                     เชียงใหม่


2.นายจีรศักดิ์ วังชัย                       ลัวะ                               น่าน


3.น.ส.เบญจพร หอมดอก               ลัวะ                               น่าน


4.น.ส.ศิริพร รัตนคีรีกุล                  ปกาเกอญอ                     เชียงใหม่


5.นายสรวิชญ์ เปรมวชิระนนท์          ลีซู                                แม่ฮ่องสอน


6.นายสุริยัน สินลี้                         ลีซู                                แม่ฮ่องสอน


7.นายประสิทธิ์ ศรีใส                     ลัวะ(ปลัง)                       เชียงราย


8.น.ส.ศิริพรรณ อัสนีวิจิตร              ลาหู่                               แม่ฮ่องสอน


9.นายรอด อาจารย์                       ดาราอ้าง                         เชียงใหม่


10.นายกิตติพงษ์ ขัตติ                   ลัวะ                               น่าน


11.น.ส.พัชรินทร์ พฤกษาฉิมพลี       ปกาเกอญอ                     เชียงใหม่


12.น.ส. สนทนา มณีรัตนชัยยง        ปกาเกอญอ                     เชียงใหม่


13.น.ส.นิภา แซ่ลิ้ม                       ลัวะ                               น่าน


14.นายสุรพจน์ มงคลเจริญสกุล       ปกาเกอญอ                     เชียงใหม่


15.นายจะอือ ปะป่า                       ลาหู่                               เชียงราย


 


 


อ่านข่าวประกอบ


นศ.มรภ.เชียงรายโวยถูก ผอ.ศูนย์ชาติพันธุ์หลอกให้เรียนฟรี แต่กลับต้องกู้เงินจนเป็นหนี้ทั้งชั้น

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net