แถลงการณ์สมาพันธ์ประชาธิปไตย
สี่เดือนภายใต้คณะรัฐประหาร ประเทศไทยดีขึ้นหรือเลวลง?
คณะรัฐประหารซึ่งปัจจุบันใช้ชื่อว่าคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ได้บริหารประเทศภายใต้ปากกระบอกปืนหรือกฎอัยการศึกมาครบสี่เดือนแล้ว ควรมาพิจารณากันดูว่าคมช.ได้ทำอะไรให้กับประเทศชาติบ้านเมืองบ้างโดยขอแบ่งออกเป็นห้าด้านด้วยกัน
1.ด้านเศรษฐกิจ
ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อสภาวการณ์ของตลาดหุ้น ในวันที่ 19 ธันวาคม 2549 เพียงวันเดียว ดัชนีตกต่ำกว่า 140 จุดหรือกว่า 20% มูลค่าการตลาดหายไปทันทีกว่าแปดแสนล้านบาท จากการใช้นโยบายผิดพลาดในเรื่องกักเงินทุน 30% อย่างไม่มีการจำแนกเพื่อแก้ไขปัญหาค่าเงินแข็งเกินจริง ทั้งๆ ที่หลายฝ่ายได้เสนอให้ลดดอกเบี้ยลงเพื่อลดแรงจูงใจเงินตราต่างประเทศที่จะมาหากำไรและเก็งกำไรค่าเงินบาท แต่คณะรัฐประหารก็ไม่รับฟัง
การผันผวนอย่างรุนแรงในดัชนีตลาดหลักทรัพย์ในวันเดียวกันดังกล่าวยังมีข้อกล่าวหาว่า มีกลุ่มบุคคลที่รู้ทิศทางล่วงหน้าได้ประโยชน์นับหมื่นล้าน
นอกจากนี้การแก้กฎหมายประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ทำให้บริษัทต่างชาติที่ประกอบกิจการในประเทศไทยมาหลายสิบปีอีกหลายพันบริษัทต้องเดือดร้อน และกำลังพิจารณาเพื่อถอนการลงทุนออกไป ส่วนบริษัทใหม่ที่จะนำเงินมาลงทุนก็รอไว้โดยไม่มีกำหนด
ความไว้วางใจทางเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ ทั่วโลกที่มีต่อไทยเลวร้ายลงเป็นลำดับ
ประชาชนที่ได้รับภัยน้ำท่วม จากการกระทำของรัฐบาลที่ผันน้ำไปท่วมชาวไร่ชาวนาเพื่อป้องกันกรุงเทพฯมาเป็นเวลาหลายเดือน ก็ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือตามสมควรและกำลังประสบกับความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส
เกษตรกรชาวไร่ชาวนาจำนวนไม่น้อย กำลังจะเดินทางมาชุมนุมใน กทม.เพราะความยากจน แต่ทาง คมช.กลับไปสกัดกั้นการชุนนุมเรียกร้องของพวกเขา
2.ด้านการเมือง
คณะรัฐประหารยังไม่ได้ยกเลิกกฎอัยการศึกตามที่ประกาศต่อสาธารณชนคงถ่วงเวลาไปเรื่อยๆ นอกจากนี้ยังข่มขู่บังคับสื่อทุกชนิดไม่ให้ทำข่าวเรื่องของคุณ
สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)และสภาร่างรัฐธรรมนูญล้วนเป็นสภาภายใต้ปากกระบอกปืนไม่ใช่เป็นตัวแทนของประชาชน
สถานการณ์ในสามจังหวัดภาคใต้แทนที่จะดีขึ้นกลับเลวร้ายยิ่งขึ้นทุกที
3.ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
แม้ประเทศสิงคโปร์จะต้อนรับคุณ
เพียงเพื่อปิดช่องทางของคุณทักษิณ ชินวัตรเพียงคนเดียวคณะรัฐประหารถึงกับเอาผลประโยชน์ของประเทศไปสังเวย หากคุณทักษิณ ชินวัตรไปพบเพื่อนเก่าที่ดำรงตำแหน่งในประเทศอื่นๆ ประเทศไทยมิต้องไปทะเลาะกับทุกประเทศทั่วโลกหรือ
แม้ในการประชุมอาเซียนเองก็เริ่มมีกฎบัตรอาเซียนที่ได้เตรียมร่างกันไว้ ระบุชัดว่าอาเซียนรังเกียจรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ท่านไม่รู้สึกขายหน้าเขาบ้างหรือไร
4.ด้านสังคม
พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ยอมรับต่อสาธารณชนว่าที่ดินบนเขายายเที่ยงต้องเสีย ภบท.ทุกปีและตนก็ไม่ได้บุกเบิกที่ดังกล่าวก่อนหน้าที่ทางราชการจะประกาศเป็นป่าสงวนหรือป่าเสื่อมโทรมซึ่งเท่ากันยอมรับโดยปริยายว่าตนไม่มีสิทธิครอบครองที่ดังกล่าวโดยถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ท่านจะเรียกร้องให้ประชาชนไทยทุกคนปฏิบัติตามกฎหมายได้อย่างไร
พลเอกสนธิ บุณยรัตกลินจดทะเบียนสมรสซ้อนซึ่งเป็นการยืนยันอย่างชัดเจนว่าได้ทำผิดกฎหมาย แต่ก็พยายามกลบเกลื่อนว่าเป็นเรื่องส่วนตัว สำหรับบุคคลสาธารณะแล้วการประพฤติปฏิบัติที่เป็นแบบอย่างไม่ดีจะถือเป็นเรื่องส่วนตัวไม่กระทบส่วนรวมย่อมไม่ได้ และในกรณีที่ผิดกฎหมายด้วยแล้ว ควรจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเข้มงวดเพื่อให้ประเทศไทยยังคงเป็น "นิติรัฐ"
5.ทางด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
ต้องถือว่าเสียหายอย่างร้ายแรง เพราะพลเอกสุรยุทธ์แถลงสาธารณะว่ารู้เรื่องระเบิดในคืนส่งท้ายปีเก่าก่อนหน้าเกิดเหตุกว่าสัปดาห์แต่ไม่อาจจะป้องกันได้ และแม้จะยกเลิกงานเคานต์ดาวน์แล้ว ก็ยังมีระเบิดอีกสองลูกที่สี่แยกราชดำริแสดงให้เห็นความไร้ประสิทธิภาพของคณะรัฐประหารในการดูแลสวัสดิภาพความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนโดยสิ้นเชิง
สรุปแล้วสถานการณ์ในประเทศไทยเสื่อมทรุดเกือบทุกด้าน อันเนื่องมาจากการบริหารของ คมช. สมาพันธ์ประชาธิปไตยยังยืนยันให้ คมช.ยกเลิกกฎอัยการศึกในทันที คืนอำนาจอธิปไตยที่ปล้นไปจากประชาชนโดยพลัน จัดให้มีการเลือกตั้งทั่วประเทศโดยใช้ กกต.ชุดปัจจุบัน แล้วให้รัฐสภาชุดใหม่เป็นผู้ประสานงานให้ประชาชนร่างรัฐธรรมนูญโดยตรง ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขจะได้สืบเนื่องต่อไปไม่ถอยหลังเข้าคลองดังที่เป็นมาและจะเป็นไป
อนึ่งในปี 2550 นี้จะครบวาระ 15 ปีเหตุการณ์พฤษภา35 ซึ่งเป็นการผนึกกำลังของประชาชนทั้งประเทศต่อสู้กับเผด็จการ รสช. ดังนั้นสมาพันธ์ประชาธิปไตยจะเป็นผู้ประสานงานเชื่อมโยงองค์กรต่างๆ ที่ต่อต้านเผด็จการและรักระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขอย่างแท้จริงมาประชุมปรึกษาหารือกันเพื่อจัดงานรำลึกและสืบทอดเจตนารมณ์ในการต่อต้านเผด็จการและสร้างสานประชาธิปไตยโดยจะแจ้งรายละเอียดให้ทราบเป็นระยะต่อไป
สมาพันธ์ประชาธิปไตย
20 มกราคม 2550
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)