Skip to main content
sharethis


ประชาไท - 14 พ.ย.2549  เมื่อเวลา 9.00 น. ตัวแทนกลุ่มศึกษาข้อตกลงเขตการค้าเสรีภาคประชาชน (เอฟทีเอ ว็อทช์) ประมาณ 50 คนได้รวมตัวกันหน้าทำเนียบรัฐบาล ฝั่งตรงข้ามสำนักงานก.. เพื่อยื่นหนังสือต่อ พล..สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีเพื่อขอให้หยุดการลงนามและการเจรจาข้อตกลงเขตการค้าเสรี (FTA) ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยมีป้ายผ้าขนาดใหญ่สีเหลือง ข้อความว่า "เซ็นเอฟทีเอ ฉิบหายทั้งชาติ"


 



นายนิมิตร์ เทียนอุดม สมาชิกเอฟทีเอ ว็อทช์ ระบุว่า รัฐบาลชุดปัจจุบันมีความพยายามลงนามความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย- ญี่ปุ่น (JTEPA) โดยที่จนถึงขณะนี้ยังไม่กล้าเปิดเผยเนื้อหาต่อสาธารณชน แต่มีความพยายามที่จะใช้การประชาพิจารณ์และสภานิติบัญญัติแห่งชาติในการรองรับความชอบธรรม แต่ความตกลงฉบับนี้ยังมีประเด็นความห่วงใยมากมาย เพราะไม่มีการมีส่วนร่วมของประชาชนตั้งแต่ต้น และยังเป็นความตกลงที่มีผลประโยชน์ทับซ้อนของระบอบทักษิณ


 


"ประเด็นที่น่าห่วงใยคือ การเปิดโอกาสให้ชาวญี่ปุ่นมารับบริการสุขภาพในประเทศ โดยสามารถกลับไปเบิกเงินประกันสังคมที่ประเทศญี่ปุ่นได้สูงถึงร้อยละ 70 ซึ่งจะเร่งภาวะสมองไหลของอาจารย์ในโรงเรียนแพทย์ไปสู่โรงพยาบาลเอกชน และซ้ำเติมปัญหาความขาดแคลนแพทย์ทั้งในชนบทและเมืองในการดูแลรักษาคนไทย และทำลายระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ"


 


เขากล่าวต่อว่า จากความตกลงดังกล่าวฯ บังคับให้ไทยเป็นภาคีสนธิสัญญาที่ให้สิทธิบัตรพันธุ์พืช -พันธุ์สัตว์ และรับรองสิทธิเฉพาะนักปรับปรุงพันธุ์ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อทรัพยากรชีวภาพของไทย และเปิดโอกาสให้นักวิจัยญี่ปุ่นสามารถเป็นโจรสลัดชีวภาพได้อย่างชอบธรรม


 


ส่วนการคุ้มครองสิทธินักลงทุนต่างชาตินั้น ทำให้นักลงทุนสามารถฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายต่อรัฐ หากมีการยึดทรัพย์หรือมีนโยบายสาธารณะที่จะส่งผลเสมือนว่าจะยึดทรัพย์ โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการยุติธรรมในประเทศ แต่ใช้กลไกอนุญาโตตุลาการนอกประเทศ ทั้งนี้ ยังระบุให้รัฐไทยต้องรับผิดชอบชดเชยค่าเสียหายในปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น การจลาจล และ ภัยธรรมชาติ เป็นต้น


 


นิมิตร์ระบุด้วยว่า นอกจากนี้ยังน่าสงสัยว่า มีบทว่าด้วยการลดภาษีขยะนำเข้าจากญี่ปุ่นทุกประเภท ลงเหลือ 0% เพื่อเปิดโอกาสให้ญี่ปุ่นนำขยะสารพิษมาทิ้งในประเทศไทย ดังที่กำลังทำกับฟิลิปปินส์ในขณะนี้หรือไม่ ซึ่งจะส่งผลต่อสภาพแวดล้อม สุขภาวะของประชาชนอย่างรุนแรง


 


ในส่วนของข้อเรียกร้องนั้น กลุ่มเอฟทีเอ ว็อทช์ ได้เรียกร้องให้รัฐบาลริเริ่มและวางนโยบาย กฎหมาย และกรอบกติกาที่ดี เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนได้ตัดสินใจและกำหนดทิศทางในการพัฒนาของตนเองอย่างแท้จริง โดยดำเนินการดังต่อไปนี้


 


1. หยุดการเจรจา หรือลงนามในข้อตกลงเขตการค้าเสรีกับประเทศต่าง ๆ จนกว่าจะได้มีการออกกฎหมายที่เกี่ยวข้องและกำหนดกระบวนการที่ดีในการทำข้อตกลงระหว่างประเทศ


 


2. ให้ดำเนินการออกกฎหมายว่าด้วยการทำความตกลงระหว่างประเทศ ที่เป็นการกำหนดกรอบการเจรจา ขั้นตอนการพิจารณาที่เปิดโอกาสการมีส่วนร่วมจากทุกฝ่าย การมีคณะกรรมการอิสระพหุภาคีขึ้นมาศึกษาวิเคราะห์ผลประโยชน์และผลกระทบอย่างรอบด้าน ฯลฯ


 


"หากรัฐบาลของ ฯพณฯ ยังคงยืนกรานที่จะลงนามความตกลง โดยใช้กระบวนการประชาพิจารณ์และการผ่านสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป จะไม่ส่งผลแก้ไขปัญหาความไม่โปร่งใสของการเจรจาและการขาดการมีส่วนร่วมจากประชาชน แต่จะกลายเป็นการสร้างความชอบธรรมให้กับการเจรจาความตกลงฯที่ไม่ชอบธรรมเท่านั้น นั่นหมายความว่า รัฐบาลของ ฯพณฯ กำลังสนับสนุนการให้ผลประโยชน์กับคนบางกลุ่ม ยอมรับในความไม่โปร่งใสและความไม่เป็นธรรม และรู้เห็นเป็นใจในการทำร้ายประชาชนทั้งประเทศ"

เอกสารประกอบ

จดหมายจากเอฟทีเอว็อทช์ถึง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net