Skip to main content
sharethis

เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา คนงานบริษัท E.F.D. (ประเทศไทย) จำกัด ย่านนิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือ จังหวัดลำพูน สามารถจัดตั้ง "สหภาพแรงงานอัญมณีและเครื่องประดับสัมพันธ์ (นิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือ จังหวัดลำพูน)" ได้เป็นผลสำเร็จ นับเป็นสหภาพแรงงานแห่งแรกของภาคเหนือ


 


ล่าสุด "ประชาไท" ได้สัมภาษณ์นายอนุชา มีทรัพย์ รองประธานสหภาพแรงงานฯ นิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือ จังหวัดลำพูน ถึงที่มาที่ไปของการจัดตั้งสหภาพแรงงานฯ รวมถึงสถานการณ์แรงงานที่เกิดขึ้นในโรงงานอุตสาหกรรมย่านดังกล่าว


 


ช่วยเล่าถึงที่มา กว่าจะมาเป็นสหภาพแรงงานฯ ของนิคมอุตสาหกรรมลำพูน ว่าสถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง?


ก่อนหน้าการตั้งสหภาพแรงงาน มีการอบรมแกนมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว และช่วงนั้นเป็นช่วงที่เราเจรจาไกล่เกลี่ยข้อพิพาทกับนายจ้าง เรื่องเปลี่ยนสภาพการจ้างงานของลูกจ้างกับนายจ้าง เรามีกระบวนการในการเตรียมการในขั้นตอนกฎหมายมาตั้งแต่ปลายปี ซึ่งเราเพิ่งมีการนัดประชุมใหญ่สมาชิกสหภาพที่ อบต.บ้านกลาง ในวันที่ 1 มิถุนายน ที่ผ่านมา


 


สหภาพแรงงานของเราเพิ่งตั้งได้ประมาณ 2 เดือน และหลังจากการตั้งสหภาพแรงงาน บริษัทจึงออกมาตรการปิดงาน คือโรงงานปิดงานตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม และเพิ่งเปิดงานวันที่ 30 พฤษภาคม เพื่อนคนงานประมาณ 400-500 คนจึงชุมนุมหน้าบริษัทให้กระทรวงแรงงานเข้ามาไกล่เกลี่ย เพื่อจะเรียกผู้บริหารเข้ามาคุยว่าจะปิดงานถึงเมื่อไหร่และจะจ่ายให้เท่าไหร่ ขอให้มาคุยกันให้รู้เรื่อง


 


เขาประกาศไว้หน้าโรงงานว่าจะปิดเพื่อให้การเจรจาเป็นไปได้ด้วยดี โดยไม่มีองค์กรอื่นเข้ามาแทรกแซง จนกว่าการเจรจาจะสิ้นสุด ผมนัดเจรจาครั้งที่ 2 วันที่ 30 พฤษภาคม เขาว่าถ้าถึงวันที่ 30 พฤษภาคม เจรจาไม่เสร็จก็หยุดต่อไป พนักงานเดือดร้อนมาก แม้ว่าจะมีการจ่ายเต็มวันละ 160 บาท


 


ผู้บริหารจ้างหัวหน้าแผนกหลายคนหลายพันให้ไปตามบ้านคนงานพื้นฐาน ให้เอารายชื่อออกให้ได้ คือสหภาพแรงงานจะยื่นข้อเรียกร้องต้องใช้คนงาน 1 ใน 5 คนถึงจะยื่นข้อเรียกร้องได้ ผมยื่นไป 408 คนโดยล่ารายชื่อ 2 วัน จากคนงาน 826 คน คือบริษัทจะทำอย่างไรก็ได้ทุกวิถีทางให้ถอนรายชื่อออกให้ได้ คือสหภาพแรงงานยื่น 3 ฉบับ คือกระทรวง บริษัท และกรมแรงงาน เพราะกระทรวงผมต้องไปยื่นขอจดทะเบียนสหภาพเป็นรายชื่อเปิด ไม่เหมือนรายชื่อสมาชิกสหภาพที่สหภาพแรงงานและกระทรวงเท่านั้นที่รู้ บริษัทไม่รู้ ทีนี้ถ้าคนงานถอนข้อเรียกร้องจนมีคนไม่ถึง 1 ใน 5 ข้อเรียกร้องจะตก การเจรจาจะไม่เกิดขึ้น


 


เขาจ้างหัวหน้าแผนกหลายพันเลยละ หัวเป็นพัน ขี่รถ 30-40 กิโลไปบ้านพนักงานหลังเดียว เพื่อให้ถอนรายชื่อ ถอนได้อยู่ประมาณ 200 คน แต่มันก็ยังมากกว่า 1 ใน 5 ข้อเรียกร้องจึงยังไม่ตก ดังนั้นในการเจรจาวันที่ 30 พฤษภาคม บริษัทจะขอเปิดงานแต่สหภาพแรงงานไม่ยอมเพราะจะปิดก็ปิดตอนนั้น จะเปิดก็เปิดตอนนั้น เราขอบริษัทว่าคนที่ไม่มาวันที่ 30 ก็ต้องจ่ายรายวันให้ด้วย เพราะเขาไล่โทรศัพท์บอกเวลา 16.00 น. ของวันที่ 29 บ้าน แต่บางคนไม่มีคลื่นก็มี และตอนนี้เขาไม่ตีหว่านแล้ว จะไล่ตีเป็นจุดๆ


 


อย่างตอนนี้ จะมีการขอค่าเสียหาย 2 ปีย้อนหลัง เพราะมักมีการปิดงานโดยบริษัทโดยไม่บอก บางแผนชอบหยุด หยุด 3 วัน แล้ว 1 วันทำงาน หยุด 2 วันแล้ว 1 วันทำงาน คนก็อยากออก ตอนนี้เราจะเรียกร้องเรื่องนี้ เพราะการหยุดการผลิตต้องแจ้งล่วงหน้า 24 ชั่วโมง กฎหมายระบุไว้และต้องแจ้งกรมแรงงานถึงสาเหตุของการหยุดงาน แต่นี่ไม่บอก อยากหยุดก็หยุดเฉยเลย


 


ข้อเรียกร้องของสหภาพในปัจจุบันเป็นอย่างไรบ้าง?


สำหรับช่วงนี้เป็นการแก้ไขและติดตามปัญหาของเพื่อนคนงานมากกว่า โดยตอนนี้เรายื่นข้อเรียกร้อง 11 ข้อ ได้มา 5 ข้อ โดยได้ค่าสวัสดิการเพิ่มต่ำสุดอีก 9 บาท สูงสุดเกือบ 20 บาทต่อวัน เพราะว่าทุกวันนี้เฉพาะค่าแรงขั้นต่ำได้ 145 บาทต่อวัน คนอยู่ 10 ปี ปีเดียว หรือเข้ามาใหม่ก็ 145 บาท มันไม่เกินเพดานเลย แต่บริษัทได้กำไรมหาศาล


 


ถ้าเป็นพนักงานใหม่เราขอค่าแรงขั้นต่ำ 148 บาท ถ้าเป็นพนักงานประจำขอ 160 บาท และถ้ารัฐบาลปรับค่าแรงขั้นต่ำก็ต้องปรับส่วนต่างให้เพิ่มขึ้น และจะมีการประชุมกับคณะกรรมการสวัสดิการลูกจ้างซึ่ง 3 เดือนมีการประชุมครั้งหนึ่ง ตอนนี้เป็นการแก้ปัญหาให้สหภาพเราอยู่ตัวมากกว่า


 


ภาครัฐ และองค์กรต่างๆ ได้เข้ามาช่วยเหลือแก้ไขเรื่องปัญหาแรงงานบ้างหรือไม่?


ข้าราชการกระทรวงแรงงานฯ จังหวัดลำพูน เขาไม่ค่อยให้ความช่วยเหลือ ให้คำปรึกษาเท่าไหร่กับเรา เราต้องเข้าหาอย่างเดียว ซึ่งจริงๆ ต่างฝ่ายน่าจะเข้าหากัน ทุกวันนี้มีเพียงมูลนิธิเพื่อนหญิงเข้ามาช่วยเหลือเรื่องวิชาการ เรื่องเทคนิคทางกฎหมายแรงงานต่างๆ กับเรา ดังนั้นผมจึงอยากให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือ เพราะเราเองก็เป็นแค่คนงานที่เพิ่งเริ่มต้นศึกษาเรื่องปัญหาแรงงาน


 


ตอนนี้มีการจ้างคนงานออกไปเลยชุดแรก 20 คน โดนจ้างออก 8 คน มีคณะกรรมการสหภาพหนึ่งคน อีก 7 คนอยากออกอยู่แล้วเพราะอายุงานเยอะและมีข้อแม้ว่าถ้าหากว่าไม่ออกจะย้ายงาน คือมันมีช่องว่างทางกฎหมายที่บริษัทสามารถย้ายงานได้ในการผลิตงานชิ้นเดียวกัน แต่การตัด การเจียระไน การเช็ค หรือการฝังเพชรการทำงานมันไม่เหมือนกัน อย่างงานตัดเพชรใช้เวลา 3 ปีหรือ 5 ปีถึงจะออกมาระดับดีมาก การเจียระไนบางคนฝึกเป็นปีก็ไม่เป็น บางคนทำ 3-4 วันก็โอเคละ เพราะมีทักษะ


 


ดังนั้นตอนนี้จึงมีปัญหาเรื่องการย้ายงานโดยมีเป้าหมายกับคณะกรรมการก่อตั้งสหภาพและงานแบบ "ร่วมด้วยช่วยกัน" คือถือโอกาสที่ไม่ชอบหน้าพนักงานคนไหนก็จะย้ายรวมด้วย เพราะบริษัทจะไม่รู้ว่าใครเป็นสมาชิกสหภาพ ปิดเป็นความลับ แต่ตอนนี้หว่านแหใครเป็นไม่เป็นสมาชิกสหภาพก็โดนหมด


 


บริษัทจะไม่รู้ว่าใครเป็นหรือไม่เป็นสมาชิกสหภาพ แต่คณะกรรมการสหภาพบริษัทจะรู้เพราะเรายื่นหนังสือขอเป็นคณะกรรมการสวัสดิการลูกจ้าง แต่มันยังไม่หมดวาระ เชื่อไหมคณะกรรมการสวัสดิการลูกจ้างมีมา 3 ปี แต่ว่าคนงานในโรงงานไม่เคยรู้เลย แม้แต่คณะกรรมการความปลอดภัยในโรงงาน ยังกลัวไฟดูดเลย คือมันยังไม่มีการแก้ไขปัญหาอะไรเลย


 


รู้สึกชีวิตและการงานดีขึ้นไหม เมื่อมีการจัดตั้งสหภาพแรงงาน?


ตอนนี้เราอยากให้มีแผ่นพับแจก มีการเสวนาให้ความรู้ภายในบริษัท โดยเฉพาะเรื่องการมีสหภาพแรงงาน คือแนวคิดนี้มันเริ่มต้นมาจากแนวคิดสังคมนิยม ที่เราด่าว่าเป็นคอมมิวนิสต์ๆ นี่แหละ แต่ถามกลับไปว่าทำไมต้องเกิดสหภาพขึ้นมาเพราะถ้าบริษัทดี พนักงานพอใจ จะไม่เกิดสหภาพแรงงานขึ้น ถ้าที่ไหนมีสหภาพต้องมาดูที่บริษัทก่อนไม่ใช่พนักงานอยากก่อตัว อย่างพวกผมทำงาน 6-7 เดือนไม่ได้เงินก็มีต้องมาออกกันคนร้อย-สองร้อยช่วยเหลือกัน ออกค่ารถกัน เพื่อให้คุณภาพชีวิตมันดีขึ้น ไม่ใช่แค่ตัวเราคนเดียว แต่เพื่อเพื่อนร่วมงานทุกคน


 


ตอนนี้มีสมาชิกสหภาพแรงงานเกือบ 500 คน แต่ถ้ามีการเรียกร้องทีหนึ่ง ก็รวมกันทั้งบริษัท ตั้งแต่ระดับแม่บ้านถูพื้น ทุกคนได้หมด พนักงานใน Office ก็ได้ เพียงแต่ฝ่ายบริหารไม่ได้แค่นั้นเอง เมื่อก่อนตอนตั้งใหม่ๆ หัวหน้าแผนก (Supervisor) ก็คัดค้าน แต่ก็เปลี่ยนมาชี้นำ เมื่อก่อนนี้หัวหน้าแผนกด่าเลยนะ ว่าง่าว (โง่) ควาย หมาเนรคุณเจ้าของ เดี๋ยวนี้หัวหน้าแผนกต้องพูดจาไพเพราะกับพนักงาน


 


เราพิจารณาโดยรวมแล้วพนักงานทำงานได้ดีขึ้น เพราะการเจียระไนเพชร คนทำงานไม่ใช่เครื่องจักร การทำงานมันต้องมีอารมณ์ ความรู้สึกลงไปในนั้น ถ้าเราทำด้วยใจทุกอย่างจะออกมาดี ถ้าเครียดทุกอย่างจบ


 


สหภาพแรงงาน ถือเป็นตัวกลางระหว่างบริษัทและพนักงาน ทุกทีเวลาพนักงานมีปัญหาไม่กล้าขึ้นไปบอกผู้บริหาร ต้องบอกหัวหน้าแผนก แต่ถ้ามีปัญหากับหัวหน้าแผนกล่ะ พนักงานจะมีทางออกที่ไหน มันเหมือนน้ำที่เต็มแก้ว ถ้าล้นแก้วก็ไม่ดี สหภาพแรงงานเหมือนการเจาะรูน้ำให้มีที่ระบาย เราช่วยให้สมาชิกได้มีที่ระบาย


 


เหมือนกับว่าการมีสหภาพแรงงานนั้นช่วยยกระดับคุณภาพการทำงาน?


นอกจากนี้สหภาพแรงงานยังเข้ามาช่วยเรื่องการปฏิบัติตัวของสมาชิก แต่ก่อนมีการเล่นบอล เล่นหวยในโรงงาน สหภาพแรงงานบอกให้สมาชิกหยุด พอไม่มีเล่นหวย เล่นบอลมันก็ดีขึ้น คนงานกินเหล้าก่อนเข้ามาทำงานเราก็ห้าม ขอให้เชื่อเรา เพื่อนพูดกับเพื่อนมันง่ายกว่าหัวหน้างานลงมาพูด สหภาพแรงงานมันเป็นแรงจูงใจทางบวกมากกว่า ทุกวันนี้ฝ่ายการผลิตผมบอกตามตรงผมคุมอยู่กลุ่ม 3 ทั้งโรงงานมี 20 กลุ่ม ตอนนี้กลุ่ม 7 กลุ่ม 8 มีพนักงาน 70 คน แต่ก่อนประสิทธิภาพการผลิตจัดเป็นอันดับต่ำเลยโดนด่าตลอด ผลิตไม่เคยได้เปอร์เซ็นต์เพชรเสีย แต่เดี๋ยวนี้มาดูเลยกลุ่ม 3 ทำงานได้เป็นอันดับ 2 รักษาเปอร์เซ็นต์เพชรของโรงงาน


 


และตอนนี้เราอยากให้ย้ายการทำงานสตรีตั้งครรภ์ ที่อยู่แผนกต้มเพชรในน้ำกรด เพื่อความปลอดภัยในการทำงาน ก็เป็นการทำงานเชิงบวก อยากให้บริษัทเห็นว่าเพราะมีสหภาพจึงทำให้การทำงานของพนักงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น พนักงานมีชีวิตที่ดีขึ้น เรื่องเล่นหวยเล่นบอลเราก็ขอ เพราะแต่ละกลุ่มแต่ละโซนการทำงานเรามีคณะกรรมการสหภาพแรงงานมันเลยคุมกันง่าย คุยกันง่าย เวลาบริษัทมีปัญหาสามารถบอกประธานสหภาพแรงงานได้เลย แล้วประธานจะเรียกประชุมกรรมการ และกรรมการจะกระจายให้กับสมาชิก


 


เราต้องดูผลดีของสหภาพว่าเป็นตัวทำงานเชิงร่วม พวกผมไม่ใช่คอมมิวนิสต์ ไม่ใช่พวกหัวรุนแรง พวกผมไม่เคยประท้วง แต่วันนั้น วันที่เพื่อนคนงานไปรวมกันหน้าโรงงานเป็นเพราะบริษัทปิดงานเอง

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net