ในงานดังกล่าว นายอานันท์ได้แสดงความเห็นต่อความเป็นกลางไว้ว่า

"สังเกตว่าสังคมไทย บางครั้งบางคราวเวลาพูดถึงเรื่องหลักการ ทุกคนใช้หลักการหมด แต่หลายครั้งหลายคราวเป็นการไม่เข้าใจหลักการที่แท้จริง ค่อนข้างจะเป็นห่วง ถ้าเผื่อในสังคมเราใช้คำว่าเป็นกลางมากขึ้น เพราะสิ่งที่คล้ายคลึงกันระหว่างสิทธิมนุษยชนกับสื่อก็คือ ทั้งสองหน่วยงานต้องการหาความจริง ต้องการหาความถูกต้อง เพราะฉะนั้น ถ้าสื่อมีหน้าที่ที่ต้องหาความจริง เสนอข่าวที่เป็นจริง และเป็นที่สนใจต่อประชาชน สื่อต้องเชื่อมั่นในความเป็นจริงของข่าวที่ตนเองให้นั้น

ไม่ใช่เรื่องของเวลาเขียนอะไรต้องเป็นกลาง มันเป็นไปไม่ได้ระหว่างความจริงกับความเท็จแล้วให้เลือกสายกลาง พระพุทธศาสนาก็ไม่ได้สอนอย่างนั้น ความถูกต้องกับความไม่ถูกต้องก็อย่าเลือกสายกลาง

ถ้าเผื่อเลือกสายกลางก็ขอเสียทีอย่าทำพุทธศาสนาเสียหายไปด้วย อย่าไปอ้างว่าสายกลางมันเป็นพุทธศาสนา เพราะเรื่องของความจริงกับเท็จ เรื่องของหลักการกับความไม่เป็นหลักการ เรื่องของความถูกต้องกับความไม่ชอบ เราไม่มีหน้าที่บอกต้องเป็นกลาง ถ้าใครเป็นกลาง ศัพท์สมัยใหม่เขาเรียก "กลางตกขอบ"

เพราะฉะนั้นมันต้องเลือก ในบริบทใดก็ตาม เรื่องความเป็นกลางคือการเอาตัวรอด ถ้าสื่อรู้แน่ๆ ว่า เรากำลังเสนอความจริงของด้านหนึ่งจะเป็นด้านใดก็แล้วแต่ แต่อีกด้านเสนอความเท็จ ผมก็ไม่อยากเห็นสื่อบอกต้องลงทั้งสองด้าน เพราะหน้าที่ของสื่อคือการค้นหาความจริง ค้นหาข่าวสารที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ ถ้าเอาความเท็จมาบอกเล่าต่อเพราะหวังว่าต้องเป็นกลาง ฉันใดฉันนั้นเรื่องสิทธิก็เหมือนกัน

สิทธิมนุษยชนไม่มีสายกลาง สิทธิคือสิทธิ ละเมิดสิทธิคือละเมิดสิทธิ ต้องระวัง อดีตเลขาธิการสหประชาชาติ เคยบอกเลย ที่นั่งอยู่ตรงนั้นเป็นกลางไม่ได้ ระหว่างความถูกต้องกับความไม่ถูกต้อง ทุกครั้งที่ต้องเลือก และต้องเลือกความถูกต้อง