Skip to main content
sharethis

ประชาไท - 4 มี.ค.49        ก่อนจะถึงวันชุมชนใหญ่กดดันให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีรักษาการในวันพรุ่งนี้ (5 มี.ค.) กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้จัดเวทีเสวนา "10 เหตุผล ระบอบทักษิณสิ้นความชอบธรรม"


 


เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ส.ว.กทม. ได้นำเสนอประเด็นสำคัญเกี่ยวกับการแทรกแซงฝ่ายนิติบัญญัติตลอดจนองค์กรอิสระจนล้มเหลวไม่เป็นท่าว่า เริ่มต้นจากรัฐธรรมนูญฉบับนี้ได้กำหนดให้มีผู้นำรัฐบาลที่เข้มแข็งมีเสถียรภาพ และลดอำนาจสภาผู้แทนราษฎรด้วยการกำหนดเกณฑ์สูงในการเปิดอภิปราย อีกทั้งยังเพิ่มอำนาจให้วุฒิสภาใน 3 ส่วนใหญ่ คือ อำนาจตรวจสอบรัฐบาลที่ ส.ว.เปิดอภิปรายได้, อำนาจในการตั้งองค์กรอิสระ, อำนาจในการถอดถอน


 


เจิมศักดิ์ กล่าวว่า เราเพิ่มอำนาจให้วุฒิสภา โดยเชื่อว่าวุฒิสภาเป็นอิสระ แต่แล้วก็มีการแทรกแซงวุฒิสภาอีก โดยปีแรกมีส.ว.ที่มีผลประโยชน์ทับซ้อนราว 20 คน ต่อมาก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งพวกที่มีแผลเก่ากลัวถูกขุดคุ้ยจึงไม่กล้าออกเสียงค้าน พวกที่มีญาติเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ก็กลัวถูกย้าย ถูกปลด จนปีท้ายๆ เริ่มมีการแจกเงินอย่างเป็นรูปธรรม โดยมีส.ว.3-4 คนเป็นนายหน้า ทั้งเงินรายเดือน และรายครั้ง นอกจากนี้ยังมีพวกที่ไม่รู้ว่าหมดสมัยส.ว.แล้วจะทำอะไรดีก็ต้องเกาะพรรคไทยรักไทยไว้ก่อนอีก


 


"ตอนนี้เลยเหลือที่กล้าชนอยู่ 20 กว่าคน และเมื่อส.ว.ไม่เป็นอิสระจึงส่งผลให้กระบวนการสรรหาองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญมีปัญหาทุกองค์กร โดยเฉพาะกกต." เจิมศักดิ์กล่าว


 


ไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ ส.ว.นครราชสีมา กล่าวถึงประเด็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนว่า ตั้งแต่พ.ต.ท.ทักษิณ เข้ามาบริหารประเทศในเวลา 5 ปี มีปัญหาทั้งการหายตัวไปของนายสมชาย นีละไพจิตร ทนายมุสลิมผู้ที่กล้าหาญและต่อสู้คดีเพื่อคนทุกยากทุกศาสนา, ปัญหาความรุนแรงในภาคใต้, ปัญหาการฆ่าตัดตอนในสงครามปราบปรามยาเสพติด


 


"ในการปราบปรามยาเสพติดมีคนตายเกือบ 3,000 คน มันไม่ใช่การแก้ปัญหา แต่เป็นการทำผิดกฎหมายอย่างร้ายแรงที่สุด แต่ที่น่าเศร้าที่สุดคือ คนไทยส่วนใหญ่ที่เรียกร้องสิทธิ เสรีภาพของตัวเอง เรียกน้องให้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองมีความเป็นธรรม เรียกร้องมาตรฐานของกฎหมาย พอเกิดเหตุการณ์นี้กลับชอบ และนายกฯ ก็ยิ่งทำ นี่เป็นประวัติศาสตร์ที่ดำมืดที่สุดของประเทศนี้ และนายกคนนี้ การตัดสินใจฆ่าคนเพื่อให้เป็นประชานิยม ใครจะทนได้" ไกรศักดิ์กล่าว


 


ในกรณีของภาคใต้ นายไกรศักดิ์กล่าวว่า มีการทรมานผู้ต้องหาอย่างรุนแรงเพื่อให้รับสารภาพว่าเป็นผู้มีส่วนในการปล้นปืน ในกรณีกรือเซะ สื่อมวลชนก็บิดเบือนข้อมูล เพราะจากการตรวจสอบของกรรมาธิการต่างประเทศ พบว่าเกิดเหตุ 20 จุด มีเพียงที่มัสยิดกรือเซะที่ยิงกันแล้วเจ้าหน้าที่เสียชีวิต 2 นาย ที่เหลือนั้นไม่มีสักจุดเดียวที่มีการต่อสู้ แต่คนร้ายเสียชีวิตทั้งหมด โดยเฉพาะที่อำเภอสะบ้าย้อยนั้นเยาวชน 19 คนถูกยิงที่หัวเกือบทั้งสิ้น


 


"ทุกคนเฉยทั้งประเทศ มิหนำซ้ำยังนิยมพอกรณีตากใบเกิดขึ้น ผมได้ข้อมูลมาว่าคนกำกับเหตุการณ์การจับกุมคือทักษิณเอง ไปตั้งแต่ 9 โมงเช้าจนบ่าย 3 โมง" ไกรศักดิ์กล่าว


 


วิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ ผอ.ไบโอไทย กล่าวถึงการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจในเรื่องเอฟทีเอว่า รัฐบาลทักษิณได้ทำเอฟทีเอกับหลายประเทศที่เป็นประโยชน์กับอุตสาหกรรมรถยนต์ การส่งออกอาหารทะเล ไก่สดแช่แข็ง ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นพวกพ้องคนในรัฐบาล แต่กลับส่งผลลบต่อเกษตรกรยากจนทั่วประเทศอย่างร้ายแรง


 


เช่น เอฟทีไทย-ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ทำให้เกษตรกรเลี้ยงโคนม โคเนื้อสูญเสียอาชีพไปแล้ว 1 ใน 3


เอฟทีเอไทย-จีน ทำให้เกษตกรปลูกหอม-กระเทียม สูญเสียอาชีพไปแล้ว 1 ใน 3 เช่นกัน


และหากทำเอฟทีเอไทย-สหรัฐ จะส่งผลกระทบต่อเกษตรปลูกถั่วเหลืองที่มีราว 600,000 คน และเกษตรกรปลูกข้าวโพดราว 1,200,000 คน รวมทั้งปัญหายาแพงที่จะเกิดขึ้นจะส่งผลให้ผู้ติดเชื้อเอชไอวี ต้องใช้ยาจากเดิมราคา 1,000 กว่าบาท เป็น 15,000-20,000 บาท


 


รสนา โตสิตระกูล ประธานเครือข่าย 30 องค์กรพัฒนาเอกชนต่อต้านคอร์รัปชั่น กล่าวว่า รัฐบาลเป็นผู้ที่กำหนดนโยบายและรู้ข้อมูลทั้งหมด ถ้าขาดจริยธรรมเสียแล้วก็จะเป็นอันตรายกับประเทศ เราจึงไม่อาจพูดได้ว่าจริยธรรมนั้นเล็กว่าเรื่องเศรษฐกิจ ดังเช่น กรณีของการแปรรูป ปตท. หุ้นไปกระจุกอยู่ที่คนไม่กี่ตระกูล และราคาหุ้นพุ่งขึ้นไปสูงมากในช่วงหลัง ยังไม่นับรวมกรณีกฟผ. หากมีการนำเข้าตลาดหุ้นจำนวน 8 พันล้านหุ้น ขายราคาต่ำหุ้นละ 25 บาทก็จะได้เงินเพียง 2 แสนล้านบาท ทั้งที่นักวิชาการประเมินกันไว้ 3.8 ล้านล้านบาท นับเป็นการยึดทรัพย์ประชาชนมาขายทอดราคาถูก


 


ประภาส ปิ่นตบแต่ง อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวถึงโครงการประชานิยมของรัฐบาลทักษิณว่า เป็นเพียงมายาภาพที่ทำให้คนหลงเชื่อว่ามีการแก้ปัญหาจริง แต่ปรากฏว่าหนี้สินเฉลี่ยของประชาชนเพิ่มมากขึ้น กองทุนฟื้นฟูก็ช่วยเหลือเกษตรกรน้อยมาก และหลายโครงการที่มีตัวเลขสวยหรูนั้นก็มีแต่ความกลวง โดยทั้งหมดไม่ได้แก้ปัญหาเชิงโครงสร้างที่ทำให้คนยากจนในโอกาส และการเข้าถึงทรัพยากร


 


"ประชานิยมไม่ได้กระทบด้านลบกับชาวบ้านตรงไปตรงมา แต่มันทำให้เสียโอกาส เพราะรัฐบาลเอาตัวเลขไปโฆษณาว่าแก้ไขปัญหาได้แล้ว ทำให้ไปลดทอนสาเหตุของความยากจนอื่นๆ เช่น เรื่องป่าชุมชน การจัดการน้ำ ว่าไม่ใช่ปัญหาของคนจน" ประภาสกล่าว


 


ด้านตัวแทนศิลปินก็ได้เปิดแถลงข่าว เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออกเพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหา และระงับข้อขัดแย้งที่อาจนำไปสู่ความรุนแรง


 


สุชาติ สวัสดิ์ศรี ตัวแทนกลุ่มนักเขียนและศิลปินกล่าวแสดงความเป็นห่วงเรื่องความรุนแรง แม้ว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะแสดงออกอย่างสันติ แต่เหตุการณ์ก็ส่อเค้าว่าความรุนแรงอาจเกิดขึ้นได้ เพราะต่างก็มีพฤติการณ์แสดงอารมณ์เข้าหากันมากขึ้น ประชาชนก็เกิดการแบ่งแยกฝักฝ่ายมากขึ้น


 


"พวกเรามีความรู้สึกในความยุติธรรม และเรามองเห็นความไม่ยุติธรรมเลยตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ตอนนี้เราจึงแสดงออกในเบื้องต้นโดยการเลิกใช้เอไอเอส เพราะหากใช้ต่อไปก็เท่ากับสนับสนุนคนไม่ดี" สุเทพ วงศ์กำแหง ศิลปินแห่งชาติกล่าว


 


นอกจากนี้กลุ่มศิลปินทุกแขนงยังประกาศเข้าร่วมการชุมนุมใหญ่วันพรุ่งนี้ (5 มี.ค.) โดยจะมีการตั้งเต็นท์วาดภาพ ประติมากรรม แสดงศิลปะทุกสาขา เพื่อเป็นสีสันให้กับขบวน


 


อนึ่ง อ่านแถลงการณ์เครือข่ายนักเขียนได้ในhttp://www.prachatai.com/05web/th/home/page2.php?mod=mod_ptcms&ContentID=2815&SystemModuleKey=HilightNews&System_Session_Language=Thai  โดยเพิ่มเติมชื่อศิลปินแห่งชาติดังนี้ สุเทพ วงศ์กำแหง  ชาลี อินทรวิจิตร  สวลี ผกาพันธุ์   ธานินทร์ อินทรเทพ 


 


 


................................................


 


โปรดอ่านรายละเอียด*** 10 ข้อระบอบทักษิณสิ้นความชอบธรรม และ ร่างข้อเสนอการปฏิรูปการเมือง

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net