Skip to main content
sharethis


ภาพจาก www.manager.co.th


 


อังคาร กัลยาณพงศ์  กวีคนสำคัญของแผ่นดินสยาม แม้ความเจ็บป่วยเยี่ยมเยือนจนไม่อาจร่วมแถลงข่าวในวันก่อนการชุมนุมใหญ่ 5 มีนาคมได้ แต่บทกลอนของเขายังคงทรงพลังผ่านริมฝีปากของบุตรสาวที่ช่วยถ่ายทอดแทน



 


อโห ใครหนอปล้นชาติไทย


 


 


  อโห ใครหนอปล้นชาติไทย                     ให้สิงคโปร์ใหญ่เหนือขวัญสยาม


            ตั้งฐานทัพมหันต์ปัญญาทราม                       ณ สนามบินอุดรฯ เป็นราชธานี ฯ


 


  ซอกซากเอกราชมีเห็บหมา                     กิเลสตัณหาจะเป็นราชสีห์


            มาพักตัวตั้งฐานกาญจนบุรี                           ข่มขี่เอกราชของชาติไทย ฯ


 


  หรือสิงคโปร์อยากเป็นจักรวรรดิ                จัดเมืองไทยเป็นชาติร่วมสมัย


            ถามเจ้าตากดูก่อนเป็นไร                             พม่าใหม่ สิงคโปร์ ใครดีกว่ากัน ฯ


 


  ซุกหุ้นซุกหวยรวยบัดซบ                        ไม่รู้จบอัปยศอดสูมหันต์


             เกิดเป็นมนุษย์เมากิเลสมัน                         ตัณหานั้นจะอุดตันหัวใจ ฯ


 


  จะอยู่ค้ำฟ้าเหมือนไม้เสียบผี                   เป็นซากมัมมี่ผีดิบหรือไฉน


            อยู่ยืนหมื่นปีอัปรีย์จัญไร                             จะหลอกใครหลอกโคตรตนเอง ฯ


 


  ไม่รู้ค่าสยามดินน้ำลมไฟ                        หลงอเมริกาเป็นใหญ่โขมงโฉงเฉง


            หรือจะรอสยามให้อลเวง                             ตามเพลงยถากรรมนำไทยไป ฯ


 


  อย่างนี้ก้มเงยดูโลกมนุษย์                      สุดอัปยศอดสูทุกสมัย


            จักรวาลนี้จะดูหน้าใคร                                เพ่งไปก็เห็นแต่โคตรตนตาย ฯ


 


  คงจะอยู่คู่ดินน้ำฟ้า                                คิดไปคิดมาก็น่าใจหาย


            สติปัญญามากเหมือนเม็ดทราย                    บ่ เห็นได้แต่สักเม็ดเดียว ฯ


 


  จะเหลืออยู่แต่น้ำกับฟ้า                          ชะเลภูผาป่าชัฏไพรเขียว


            กับวัดดอนวัดเดียวเจียว                              หวาดเสียววิญญาณสะท้านเอย ฯ


 


 


อังคาร กัลยาณพงศ์


ตี ๑ ครึ่งล่วงเข้าเช้าวันพุธที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๔๙


 


 


 



นาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ กวีนามอุโฆษ เปรียบเทียบฟางเส้นสุดท้าย ในกรณีการขายหุ้นชินคอร์ปของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อันหมายถึงการโอนวงโคจรและกิจการโทรคมนาคมสำคัญของไทยให้สิงคโปร์ว่า เหมือน "สมภารเซ้งโบสถ์"


 


"สมภารท่านฉันข้าวเย็นบ้างก็ไม่เป็นไร ไล่เด็กวัดออกไปบ้างก็ไม่ว่า เห็นอะไรหลายอย่างที่ซุกอยู่ในจีวรท่านก็ไม่ว่าอะไรอีก แต่ที่ทนไม่ได้คือท่านเซ้งโบสถ์ซึ่งเป็นที่รวมแห่งศรัทธา ขนาดประเทศจีนจะไปซื้อบริษัทน้ำมันยูโนแคลของอเมริกา อเมริกายังไม่ยอมเลย อ้างว่าเป็นทรัพยากรที่เป็นความมั่นคงของชาติ"


 


พร้อมกันนั้นกวีใหญ่ยังฝากคำถามถึงประชาชนด้วยว่า ผู้ที่ถูกกล่าวหาในการใช้อำนาจโดยกระบวนการไม่ชอบธรรม เรายังจะให้โอกาสเขาเข้ามาสร้างกระบวนการใช้อำนาจซึ่งเขาถูกกล่าวหาว่าไม่ชอบธรรมนั้นอีกหรือ ?


 


   หายนะ


 


ชูนิ้วแห่งชัยชนะ


แท้ หายนะกำลังเยือน


ดอกไม้ที่ได้เหมือน


ดอกไม้จันทน์บรรจงวาง


 


สิ้นแล้วซึ่งคำถาม


ถึงชอบธรรมอันอำพราง


นายบ่อนเป็นใหญ่กลาง


อยู่กลางบ่อนเป็นธรรมดา


 


สิ้นบุญที่โปรดสัตว์


ด้วยอาบัติสาหัสสา


อาบัติแห่งศรัทธา


ที่เซ้งโบสถ์ไปเป็นทุน


 


สิ้นศรีก็สิ้นศักดิ์


ทิ้งพวกพรรคล้วนแผลพรุน


หมกบาปและเมาบุญ


เบิกอบายมาบังตน


 


เดือนมืดแล้วขึ้นสว่าง


กระจ่างจ้าแจ่มตาคน


จากสว่างมามืดมน


โอ้ ใจหาย เสียดายเดือน


 


ชูนิ้วแห่งชัยชนะ


แท้ หายนะกำลังเยือน


ดอกไม้ที่ได้เหมือน


ดอกไม้จันทน์บรรจงวาง.


 


 


เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์


๔ มีนาคม ๒๕๔๙


 


 


 


 


วัฒน์ วรรลยางกูร  นักเขียนชื่อดังผู้ผ่านประสบการณ์ 14 ตุลา 6 ตุลา และใช้ชีวิตในป่าอยู่พักใหญ่ เขาออกมาเคลื่อนไหวในนามเครือข่ายคนเดือนตุลา แสดงความเป็นห่วงสถานการณ์ความขัดแย้งที่ล่อแหลมต่อการเกิดความรุนแรง ดังประวัติศาสตร์ที่เขาเคยร่วมและผ่านมันมาอย่างยากลำบาก


 


ในขณะที่แถลงข่าวใต้ต้นมะขามที่มีการแขวนคอนักศึกษาเมื่อเหตุการณ์ 6 ตุลา 2519 มีการใช้สัญลักษณ์ โดยการทา "สีชมพู" บนต้นไม้


 


 ------ "สีแดงคือสีของเลือดผู้ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย เราผ่านประวัติศาสตร์เลือดมาครั้งแล้วครั้งเล่า....เหตุการณ์เหล่านั้นเป็นเรื่องต้องจดจำไว้ แต่ต้องจำยอย่างคนที่เติบโตขึ้นจากประวัติศาสตร์ เมื่อความขัดแย้งทางการเมืองเกิดขึ้น ต้องพูดจากันด้วยความรัก รักแม้ว่าเขาจะอยู่คนละฝั่งกับเรา ช่วยกันหาทางแก้ไข ผมไม่อยากเห็นสีแดง แต่อยากเห็นสีชมพูแห่งความรัก....ถ้าประวัติศาสตร์ซ้ำรอย เท่ากับคนไทยไม่ได้เติบโตขึ้นเลย เราจะเป็นเหมือนเด็กที่พอทะเลาะกันแล้วก็เอาปืนมาไล่ยิงกัน"--------


 


 


                                                                                                กวีสีชมพู


ท่านคือผู้ชนะ


 


ชนะผู้อื่นหรือคือกร้าวแกร่ง


เพราะมีแรงมีอำนาจฉกาจกว่า


ชนะใจตนไซร้ไม่รอรา


เหนือโลกหล้า ในเมื่อเหนือใจตน


 


ประวัติศาสตร์มีไว้ให้เรียนเล่า


ซ้ำรอยเก่ารอยใหม่ในหลายหน


จำได้ไหมคราบน้ำตาและฝันร้ายของผู้คน


รอยเลือดบนถนนและไพรพนา


 


ประวัติศาสตร์มีไว้ให้เรียนเล่า


เถิดอย่าซ้ำรอยเก่าไม่เข้าท่า


นกสีเหลืองเสรีที่ลับลา


ย้ำเตือนจากฟากฟ้าอดีตกาล


 


สติตรอง สมองคิดมิตรภาพ


สู่รื่นราบร้อยรักสมัครสมาน


ธงชมพู ชูพร้อมย่อมเบิกบาน


อีกช่วงผ่านประชาธิปไตยไทยรุ่งเรือง


 


ชนะผู้อื่นหรือคือกร้าวแกร่ง


โดยมีแรงเชี่ยวกรากมากปมเขื่อง


ชนะใจตนสิมิเปล่าเปลือง


หยุดทุกเรื่องเลวร้ายในแผ่นดิน


 


 


วัฒน์ วรรลยางกูร


4 มีนาคม 2549


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net