อธิการบดี มธ. เบรคใช้มาตรา 7 - อ.จุฬาฯแนะ "แม้ว" เว้นวรรค

ประชาไท - 28 ก.พ. 49 ภายหลังจากที่กลุ่ม ส.ว.อิสระเพื่อการปฏิรูปการเมือง ออกมาเสนอให้ใช้รัฐธรรมนูญมาตรา 7 เพื่อขอนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลพระทาน วันนี้นายสุรพล นิติไกรพจน์ อธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ให้สัมภาษณ์ว่า สถานการณ์การเมืองในปัจจุบัน ยังไม่มีเหตุอะไรที่จะนำมาตรา 7 มาใช้ เพราะยังไม่เกิดอะไรที่เป็นปัญหาในทางกฎหมายหรือรัฐธรรมนูญเลย

 

นายสุรพล กล่าวว่า "ถึงแม้จะมีพรรคการเมืองที่ประกาศเจตนารมณ์จะไม่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ก็ถือว่าเป็นสิทธิของแต่ละพรรค ซึ่งแนวทางการเมืองของแต่ละพรรคไม่ทำให้กระทบต่อสิทธิของพรรคการเมืองอื่นๆ หรือกระทบต่อสิทธิของประชาชน แต่หลังจากนี้จะต้องดูพัฒนาการทางการเมืองว่าจะมีพัฒนาการอย่างไร หากมีเสียงเรียกร้อง มีการชุมนุมแสดงความคิดเห็นต่างๆ ในระยะต่อไปก็อาจจะมีเหตุให้ต้องดำเนินการตามมาตรา 7 ก็ได้ แต่จนถึงวันนี้ยังไม่มีเหตุที่จะต้องไปใช้มาตรา 7 เพราะทุกอย่างก็ได้เดินตามกรอบของรัฐธรรมนูญอยู่"

 

นายสุรพล กล่าวต่อไปว่า ในอดีตเคยมีเคยมีตัวอย่างที่ปฏิบัติในทำนองนี้คือ หลังเหตุการณ์ 14 ต.ค. 2516 เมื่อมีการแต่งตั้งนายสัญญา ธรรมศักดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งเข้าใจว่าขณะที่มีการแต่งตั้งนั้น ไม่มีผู้สนองพระบรมราชโองการ คือมีการแต่งตั้งก่อนและรับสนองพระราชโองการภายหลัง ซึ่งตรงนี้เห็นได้ชัดว่าประเทศมีวิกฤตอย่างร้ายแรง เกิดจราจลในกรุงเทพฯ ทำให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวใช้พระราชอำนาจแต่งตั้งนายกฯ และเข้าใจว่าภายหลังได้มีการลงนามรับสนองพระบรมราชโองการถูกต้อง ซึ่งเป็นตัวอย่างหนึ่งที่ปฏิบัติตามประเพณีปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข

 

"หลายคนมองเห็นผลเสียผลกระทบจากความตึงเครียดในทางการเมืองทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม แต่ผมเห็นว่า มีข้อดีในตัวของมันอยู่บ้าง เพราะทำให้แนวคิดของการปฏิรูปการเมืองรอบสองชัดเจน แต่ไม่ใช่ปฏิรูปทั้งระบบหรือทุกเรื่อง เราเคยคิดว่าเมื่อ 10 ปีที่แล้วรัฐธรรมนูญฉบับนี้ดีที่สุด แต่เมื่อเวลาผ่านไปเกิดปัญหาจากการใช้รัฐธรรมนูญ ก็มีความจำเป็นต้องปรับแก้ไข หรือมีบทบัญญัติเพิ่มเติม คิดว่าเป็นพัฒนาการในทางการเมืองที่สำคัญของสังคมไทย" นายสุรพล กล่าว

 

ด้าน นายไชยันต์ ไชยพร หัวหน้าภาควิชาปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงมติคว่ำบาตรของ 3  พรรคฝ่ายค้านว่า การตัดสินใจของ 3 พรรคฝ่ายค้านถือว่าเหมาะสมแล้ว ที่ฝ่ายรัฐบาลอ้างว่าเป็นการไม่เคารพกติกานั้น ขอยืนยันว่าการถอนตัวจากการเลือกตั้งเป็นการแสดงออกถึงการมีส่วนร่วมทางการเมืองอย่างหนึ่ง เพราะถ้าขืนปล่อยให้เลือกตั้งท่ามกลางสภาวะแบบนี้ก็เท่ากับพรรคฝ่ายค้านไปสร้างความชอบธรรมให้กับเผด็จการทุน ขณะที่ฝ่ายประชาชนต้องรักษาเจตจำนงประชาธิปไตยไว้ด้วยการออกไปใช้สิทธิแต่กาช่องไม่ออกเสียงลงคะแนน

 

นายไชยันต์ กล่าวว่า สถานการณ์ขณะนี้ยังไม่ถึงทางตัน แม้ว่านายกรัฐมนตรีจะประกาศลาออกจากตำแหน่ง รัฐก็ไม่อยู่ในภาวะสูญญากาศทางการเมือง ไม่มีช่องว่างทางอำนาจ โดยอาจให้รองนายกรัฐมนตรีคนใดคนหนึ่งขึ้นมารักษาการแทนได้ ไม่ใช่ว่าหากนายกรัฐมนตรีลาออกแล้วต้องออกทั้งคณะเหมือนคณะรัฐมนตรีในยามปกติ

 

อย่างไรก็ตามหากวุฒิสภาจะตีความว่าสถานการณ์นี้ติดล็อก ถึงทางตันแล้ว โดยอ้างเหตุว่ามีประชาชนจำนวนมากเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่ง ขณะที่พรรคฝ่ายค้านประกาศคว่ำบาตรไม่เข้าร่วมการเลือกตั้ง แต่นายกรัฐมนตรียืนยันที่จะไม่ลาออกจากตำแหน่ง และวุฒิสมาชิกเล็งเห็นแล้วว่าสถานการณ์เช่นนี้อาจจะนำไปสู่ความรุนแรง ประธานวุฒิสภาก็สามารถใช้มาตรา 7 ตามรัฐธรรมนูญ ยื่นถวายฎีกาถวายต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวขอให้ทรงพระราชทานลงมาก็ได้

 

"นายกฯคนนี้ชอบตัดสินใจอะไรที่สร้างความมึนงงให้กับผู้คน อย่างตอนยุบสภาท่านบอกว่าจะยุบสภาชาติหน้าตอนบ่ายๆ พอพูดเสร็จท่านก็ทำเลย ถ้าท่านตัดสินใจให้ของขวัญประชาชน ด้วยการไม่ส่งตัวเองลงเลือกตั้ง แล้วปล่อยให้คนอื่นขึ้นมาแทนชั่วคราวโดยท่านอยู่เบื้องหลัง ข้อเสนอนี้จะทำให้ทุกคนงง ถึงกับมึนชากันหมด ทำอย่างนี้ท่านก็ไม่เสียหน้าเพราะไม่ได้ลาออกตามข้อเรียกร้องของประชาชน รับรองฝ่ายค้านหน้ามืดเลย เพราะถ้าไม่ได้เตรียมพร้อมส่งคนลงสมัครอาจจะวืดการเลือกตั้งเมื่อ 3 พรรคใหญ่หายไปก็เหลือแต่พรรคไทยรักไทยเข้ามาพรรคเดียว ขณะที่นายกฯกลายเป็นฮีโร่ เพราะเหมือนแสดงสปิริตไม่ต้องการให้สังคมเกิดทางตัน" นักวิชาการรัฐศาสตร์จุฬาฯ กล่าว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท