Skip to main content
sharethis

 







บทความใน "มุมคิดจากนักเรียนน้อย" เป็นแบบฝึกหัดที่นักศึกษาทำเพื่อส่งผู้บรรยายในวิชาระดับปริญญาตรีของ คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์


 


 


นางสาวณัฐินี คงสนิท


คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน


มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์


 


 


จบลงไปแล้วสำหรับการเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ระหว่างไทยกับสหรัฐอเมริการอบที่ 6 แต่ผลการเจรจานั้นยังคงเป็นความลับอยู่ ประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศไทย ยังไม่มีใครรู้ถึงชะตากรรมที่จะต้องเผชิญในอนาคต คนที่รู้คงเป็นคนบางกลุ่มในรัฐบาลชุดนี้เสียมากกว่า แต่อย่างไรก็ตามท่านผู้นำได้ประกาศให้ความมั่นใจ ไทยไม่เสียเปรียบเขาแน่ ไม่ต้องตื่นตระหนก


 


การเจรจาครั้งนี้ประกอบไปด้วยเรื่องการเปิดเสรีการบริการและการลงทุน การเปิดตลาดสินค้าเกษตร การคุ้มครองพันธุ์พืชและภูมิปัญญาท้องถิ่น แต่ประเด็นที่น่าวิตก เห็นจะเป็นเรื่องทรัพย์สินทางปัญญาเกี่ยวกับสิทธิบัตรและการคุ้มครองข้อมูลการทดสอบยา โดยมีตัวอย่างจากกรณีที่สหรัฐอเมริกาเคยทำเอฟทีเอกับประเทศสิงคโปร์และออสเตรเลีย โดยสหรัฐอเมริกายื่นเรื่องขอยืดระยะเวลาถือครองสิทธิบัตรยาจาก 20 ปีเป็น 25 ปี


 


การยืดอายุการถือครองสิทธิบัตรนี้เท่ากับเป็นการผูกขาดสหรัฐอเมริกาในฐานะผู้ผลิตยา สามารถกำหนดราคาได้เอง อาจส่งผลให้ราคาเวชภัณฑ์และยาในประเทศไทยแพงขึ้น ผู้ป่วยก็เข้าถึงยาที่จำเป็นสำหรับพวกเขาได้ยากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นยาสามัญประจำบ้าน ยารักษาโรคเรื้อรัง หรือแม้แต่ยาต้านไวรัส ซึ่งใช้สำหรับรักษาผู้ติดเชื้อเอชไอวี จึงไม่น่าแปลกที่ผู้ติดเชื้อจำนวนมากไปชุมนุมรอฟังผลการเจรจาหน้าโรงแรมที่ประชุม เพราะมันเป็นเรื่องเกี่ยวข้องโดยตรงกับอนาคตของพวกเขา


 


ในปัจจุบัน องค์การเภสัชกรรมผลิตยาต้านไวรัสที่มีราคาไม่แพงได้เอง ประกอบกับรัฐบาลมีระบบประกันสุขภาพ  โครงการที่เรารู้จักกันดีคือโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ทำให้ผู้ติดเชื้อเอชไอวีสามารถเข้าถึงยาและได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม ต่อไปหากมีการเซ็นสัญญาเอฟทีเอ ห้ามองค์การเภสัชกรรมผลิตยาที่ติดสิทธิบัตร ต้องสั่งซื้อยาราคาแพงจากประเทศผู้ผลิตเท่านั้น จนกระทั่งรัฐบาลไม่มีเงินสนับสนุนเพียงพอเพื่อสั่งซื้อยาต้านไวรัสได้ แล้วผู้ติดเชื้อเอชไอวีเหล่านี้จะมีชีวิตรอดได้อย่างไร


 


ทางแก้ในตอนนี้ ก็ได้แต่ภาวนาให้คณะเจรจาเอฟทีเอของไทยถอนเรื่องทรัพย์สินทางปัญญาออกจากการเจรจาในครั้งนี้ เพื่อรักษาคุณภาพชีวิตของคนไทยด้วยกันเอง ไม่ใช่คิดเพียงแต่จะเปิดตลาดเสรีทางการค้า แต่ต้องเอาชีวิตของคนในประเทศเข้าแลก ก็คงไม่คุ้มกัน หรือว่าคณะเจรจาเอฟทีเอของไทยทำเป็นมองไม่เห็นผลเสียในระยะยาวที่จะตามมา เพราะมีคำสั่งตรงจากนายใหญ่ ให้เซ็นสัญญาสิทธิบัตรยา เพียงเพราะท่านต้องการล้มระบบสวัสดิการของรัฐ บีบให้ผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยต้องเข้ารักษาในโรงพยาบาลเอกชนที่ท่านเป็นเจ้าของเท่านั้น


 


 










บทความทั้งหมด

 มุมคิดจากนักเรียนน้อย : แห่นางแมว: ฝนไม่ตก ก็สุขได้
 มุมคิดจากนักเขียนน้อย: อยู่ได้อย่างเป็นสุข (ในใจ)
 มุมคิดจากนักเรียนน้อย : กฎอัยการศึกฉบับป่าชุมชน

 มุมคิดจากนักเรียนน้อย:น้อมรับพระราชดำรัส พูดง่ายแต่ทำยาก

 มุมคิดจากนักเรียนน้อย : แก้มลิง
 มุมคิดจากนักเรียนน้อย : Children of Heaven เรื่องเล็กๆ ที่ยิ่งใหญ่
 
มุมคิดจากนักเรียนน้อย : ชนะเลิศ...ได้ "ที่สาม"


 


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net