เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา กลุ่มประสานงานกรรมกรและคนงานจ้างเหมาบริษัทโรยัล ปอร์ซเลน 60 คน จากสระบุรีพร้อมกับสมาชิกสหภาพแรงงานโยโรซึจำนวน 50 คนจากระยองได้เดินทางมาชุมนุมกันบริเวณหน้ากระทรวงศึกษาธิการ หลังจากนั้นคนงานทั้งหมดได้เดินขบวนรณรงค์ไปยังทำเนียบรัฐบาลเพื่อเรียกร้องให้รัฐแก้ปัญหาการจ้างงานชั่วคราว และปัญหาการเลิกจ้าง

การเดินขบวนของกลุ่มประสานงานกรรมกร มีคนงานหญิงตั้งครรภ์ใกล้คลอดร่วมอยู่ด้วย เธอบอกว่าเป็นคนงานจ้างเหมาของบริษัทโรยัล ปอร์ซเลน ทำงานในฝ่ายการผลิตของโรงงานซึ่งผลิตเซรามิค ถ้วยชามส่งต่างประเทศ มาถึง 4 ปีแล้ว โดยบริษัทโรยัล ปอร์ซเลนได้มีการจ้างงานเธอและเพื่อนๆ ประมาณ 300 คน ผ่านบริษัทรับเหมาค่าแรง

"บริษัทมีแผนการเลิกจ้างแต่หลีกเลี่ยงการจ่ายค่าชดเชยตามกฎหมายแรงงานด้วยการบอกให้พนักงานหยุดงาน พวกเรามาคุยกันจึงรู้ว่ากำลังถูกหลอก วันนี้จึงมาเรียกร้องความเป็นธรรม เพราะบริษัทได้ละเมิดกฎหมายมาโดยตลอด ก่อนหน้านี้พวกเราไม่รู้กฎหมายและไม่รู้สิทธิของตัวเอง อยู่กับความหวาดกลัว "

นายฉัตรชัย ไพยเสน ผู้ประสานงานกลุ่มประสานงานกรรมกรกล่าวว่า ครั้งนี้เป็นการเคลื่อนไหวครั้งที่ 2 ของกลุ่มประสานงานกรรมกร การรณรงค์เคลื่อนไหวของกลุ่มฯ มีเป้าหมายเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาการจ้างงานชั่วคราวที่สร้างปัญหาความไม่มั่นคงในการทำงานให้กับลูกจ้าง เนื่องจากขณะนี้ลูกจ้างจำนวนมากถูกเลิกจ้าง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกจ้างเหมาค่าแรงหรือลูกจ้างซับคอนแทรค "ลูกจ้างที่มาในวันนี้ ส่วนใหญ่ทำงานมาเป็นระยะเวลายาวนานถึง4 ปี บางคน 6 ปี หรือมากกว่านั้น แต่วันนี้พวกเขาถูกเลิกจ้างและถูกโกงค่าชดเชยที่ควรจะได้รับ และก่อนหน้านี้พวกเขาก็ไม่ได้รับสิทธิตามกฎหมาย ถูกบังคับให้ทำงานจนถึงวันคลอด และไม่มีแม้แต่สิทธิลาป่วย ถ้าลาป่วยถูกหักค่าจ้าง ไม่มีสิทธิลาหยุดพักร้อน ซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมายแรงงานขั้นพื้นฐานที่สุด ไม่ได้รับการดูแลคุ้มครองจากรัฐ รัฐปล่อยให้นายจ้างละเมิดกฎหมาย ลูกจ้างไปร้องเรียนที่แรงงานจังหวัด ก็ไม่ได้รับการแก้ไขปัญหา วันนี้จึงพร้อมใจกันมาเดินขบวนเพื่อไปยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรี ให้แก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน"

ฉัตรชัย ยังกล่าวต่ออีกว่า "เราอยากให้สื่อตีพิมพ์ปัญหาความทุกข์ยากของลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้าง เพื่อให้เจ้าของบริษัทโรยัล ปอร์ซเลน ซึ่งผู้ถือหุ้นรายใหญ่คือกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ หรือ กบข ซึ่งกองทุนทำหน้าที่ดูแลสิทธิประโยชน์ของข้าราชการ แต่ที่ผ่านมาไม่ได้ลงมาดูแลว่าลูกจ้างที่ทำงานอยู่ในโรงงานที่ กบข ถือหุ้นอยู่นั้น มีสภาพชีวิต ความเป็นอยู่อย่างไร คนงานถูกเอารัดเอาเปรียบอย่างไร และพวกเขาเหมือนถูกปิดปากไม่สามารถพูดถึงปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะการจ้างงานผ่านบริษัทซับคอนแทรค ที่ทำให้คนงานไม่มีความมั่นคงในการทำงาน"

ในส่วนของสมาชิกสหภาพแรงงานโยโรซึ ซึ่งเป็นคนงานผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ โดยโรงงานตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมอีสเทอนซีบอร์ด นริศ ศรศรี แกนนำสหภาพแรงงานคนหนึ่งกล่าวว่า "พวกเราวันนี้มาทำเนียบ เพราะปัญหาของเราไม่ได้รับการแก้ไขในระดับจังหวัด ในขณะที่พวกเรากำลังถูกนายจ้างกระทำทุกวัน จนทนไม่ไหวแล้ว เริ่มจากการเลิกจ้างคนงานจ้างเหมา โดยอ้างภาวะเศรษฐกิจ ไม่ได้คิดถึงบ้างเลยว่าจะมีผลกระทบกับคนงานและครอบครัวของเขาอย่างไรบ้าง หลังจากนั้นก็มาเล่นงานแกนนำสหภาพแรงงานที่มีบทบาทในการเรียกร้องและหนุนช่วยคนงานจ้างเหมา และวันนี้ ปัญหากำลังมีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ล่าสุดนายจ้างฟ้องคดีอาญากับแกนนำสหภาพแรงงาน หลังจากการชุมนุมหน้าโรงงาน ซึ่งเป็นเสรีภาพและสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน พวกเราวันนี้จึงต้องออกมารณรงค์ให้สาธารณชนได้รับรู้ถึงปัญหาของผู้ใช้แรงงาน ปัญหาความทุกข์ยากของคนงานที่มีสัญญาการจ้างแบบชั่วคราว ทั้งๆ ที่ทำงานเหมือนกันทุกอย่างในโรงงาน แต่กลับถูกเลือกปฏิบัติ ทั้งในด้านค่าจ้างและสวัสดิการ ทั้งที่พวกเขาก็ต้องกินต้องใช้เหมือนกัน มีครอบครัวต้องดูแลเหมือนกัน คนที่มาวันนี้ บางคนภรรยาไม่สบาย และวันนี้สามีถูกเลิกจ้าง พวกเขาจะเอาอะไรกิน บ้านก็ยังต้องเช่า เมื่อไปร้องเรียนปัญหาที่แรงงานจังหวัด ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข"

ต่อคำถามว่า กลุ่มประสานงานกรรมกรมีแผนการเคลื่อนไหวอย่างไรต่อไปหลังจากวันนี้ เกษแก้ว มีศรี แกนนำอีกคนหนึ่งกล่าวว่า การเคลื่อนไหวของกลุ่มประสานงานกรรมกรเพื่อช่วยเหลือคนงานทุกภาคส่วนจะมีต่อเนื่องต่อไป และคนงานที่ต้องการความช่วยเหลือจากกลุ่มฯ สามารถติดต่อได้ที่ สายด่วน 08-0598-2009"

หลังจากนั้นกลุ่มคนงานได้เคลื่อนขบวนเข้าสู่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งมีคนงานราว 500 คนจากบริษัทแคนาดอย (Canadoil) นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จังหวัดระยองปักหลักชุมนุมอยู่หน้าทำเนียบรัฐบาลตั้งแต่ก่อนหน้านี้