เวลา 10.30 น. ที่สโมสรกองทัพบก ถนนวิภาวดี นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้รายงานความคืบหน้าการตรวจสอบตู้ที่ จ.ชลบุรี ให้นายกฯ รับทราบ ระหว่างร่วมงานประกาศเจตนารมณ์การเป็นอาสาสมัครพิทักษ์ยุติธรรม
จากนั้นนายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์ว่า ตู้ดังกล่าวมีความเชื่อมโยงกับเหตุการณ์เมื่อ 20 ก่อน ที่มีการนำตู้เข้ามาแล้วไม่มีคนรับ กรมศุลกากรจึงให้นำกลับออกไป มีความเป็นได้ที่จะหย่อนทิ้งลงไปในทะเล รัฐบาลต้องยืนยันตรงนี้ให้ได้ เพราะตัวตู้ผ่านการบันทึกรายละเอียดของกรมศุลกากร นอกจากนั้นอาจตรวจสอบอายุปะการังที่เกาะอยู่อีกทางหนึ่ง เท่าที่ทราบมีเพียง 1 ตู้ถูกทิ้งลงไป และอยู่ในลักษณะเอียง มีปะการังอยู่รอบๆ
"การนำ ตู้ขึ้นมามีค่าใช้จ่ายสูงมาก หรือถ้าจะเจาะตู้ก็อาจจะมีสารพิษ รัฐบาลห่วงเรื่องสารพิษอย่างมาก เราคงจะไม่ยกขึ้นมาแล้ว แต่จะมอบหมายให้กองทัพเรือ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และผู้เชี่ยวชาญที่จะพิสูจน์เรื่องอายุดำเนินการก่อน" นายอภิสิทธิ์กล่าว
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกันพฤษภาทมิฬ และมั่นใจว่าทหารไม่ทำอะไรนอกลู่ ตู้มีอายุกว่า 20 ปีมาแล้ว ส่วนพฤษภาทมิฬเกิดแค่ 10 กว่าปีเท่านั้น คงไม่น่าจะเชื่อมโยงกันได้
ด้้าน นายธราพงศ์ ศรีสุชาติ ผู้อำนวยการสำนักโบราณคดี กรมศิลปากร กล่าวว่า หากมีการติดต่อมาก็จะช่วยดำเนินการตรวจสอบ แต่คิดว่าการตรวจสอบคงจะคำนวณหาอายุของตู้ได้ยากพอสมควร เนื่องจากตู้คอนเทนเนอร์ ไม่มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์เหมือนกับโบราณวัตถุที่จมอยู่ท้องทะเล เช่น หากเป็นเรือโบราณ เราสามารถจะสันนิษฐานอายุ ตามโบราณวัตถุที่บรรจุอยู่ภายในเรือว่ามีประวัติความเป็นมาอย่างไร อายุเท่าไหร่ อย่างไรก็ตาม ในส่วนการพิสูจน์ตู้คอนเทนเนอร์นั้น ในกระบวนการพิสูจน์ตามหลักการ เบื้องต้นจะต้องหาหลักฐานหมายเลขของตู้คอนเทนเนอร์ให้ได้เสียก่อน จากนั้นก็ตรวจสอบในสารบบว่าเป็นของบริษัทใด มีการขนส่งไปยังจุดหมายปลายทางที่ใด เพราะจะเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญของการสันนิษฐานรายละเอียด เพื่อจะลำดับการค้นหาต่อไป
'เท่าที่ได้ ติดตามข่าวนั้น ผมคิดว่าการสันนิษฐานอายุตู้คอนเทนเนอร์คงทำได้ยาก ในส่วนกรมศิลปากรคงต้องประสานไปยังกลุ่มวิชาการโบราณดีใต้น้ำ เพื่อช่วยตรวจสอบอีกทางหนึ่ง เนื่องจาก หน่วยงานดังกล่าวมีความเชี่ยวชาญ และชำนาญเกี่ยวกับการพิสูจน์ ตรวจสอบประวัติความเป็นมาของโบราณวัตถุที่จมอยู่ในน้ำ รวมทั้ง ได้มีประสบการณ์การสำรวจบริเวณจุดอ่าวแสมสารเป็นอย่างดี' ผอ.สำนักโบราณคดี กล่าว
ก่อนหน้านี้ นายธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 16 พ.ค.ว่า การพิสูจน์ตู้คอนเทนเนอร์ที่จมอยู่ในอ่าวแสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี นั้นทำได้ไม่ยาก และไม่ต้องใช้งบประมาณมากอย่างที่หลายฝ่ายคิด หากให้นักวิทยาศาสตร์ทางทะเลทำนั้น สามารถใช้งบประมาณราว 5,000 บาท เท่านั้น วิธีการคือ เช่าเรือไปยังตำแหน่งที่ตู้คอนเทนเนอร์จมอยู่แล้วดำน้ำลงไปเก็บปะการังที่ เกาะอยู่บริเวณนั้น ซึ่งจะประมาณได้ว่าปะการังที่เกาะอยู่รอบๆ ตู้นั้นมีอายุเท่าไร แต่ถ้าจะพิสูจน์ให้ชัดจะต้องเก็บปะการังขึ้นมาตรวจในห้องปฏิบัติการ วิทยาศาสตร์ (ห้องแล็บ) ข้างบน
"ปะการัง ที่เก็บมาต้องเป็นก้อนๆ ที่ค่อนข้างสมบูรณ์เพื่อนำมาผ่าดูวงปี ว่ามีอายุเท่าไร สามารถวิเคราะห์อายุของตู้คอนเทนเนอร์ได้ เมื่อได้แล้วจะนำไปสู่การหาข้อมูลต่อไปได้ว่า ในช่วงปีนั้นๆ มีเรืออะไรจากประเทศไหนที่เข้ามาในน่านน้ำบริเวณดังกล่าวบ้าง ซึ่งทางกองทัพเรือ หรือกรมการขนส่งทางน้ำต้องทราบข้อมูลเรื่องนี้ดี เพราะเรือที่บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ใหญ่ขนาดนี้ได้ ต้องไม่ใช่เรือเล็กๆ แน่ เมื่อหาต้นตอได้แล้ว ก็จะสามารถสืบได้ว่าภายในตู้มีอะไร" นายธรณ์กล่าว
นาย ธรณ์กล่าวว่า เห็นว่าไม่จำเป็นที่จะต้องยกตู้คอนเทนเนอร์ขึ้นมาจากทะเลเลย แต่สามารถเจาะตู้เข้าไปดูได้เลยว่าข้างในมีอะไรอยู่กันแน่ เพราะหากตู้ดังกล่าวมีอายุ 20 ปีจริงๆ สนิมจะเกาะให้ตู้ผุ และใช้ค้อนทุบหรือเจาะเข้าไปได้ทันที แต่หากเหล็กแข็งจริงๆ ปัจจุบันก็มีเทคโนโลยีการเจาะเหล็กใต้น้ำที่ผู้เชี่ยวชาญสามารถทำได้ไม่ยาก และไม่จำเป็นต้องใช้งบประมาณเป็นสิบล้านอย่างที่เป็นข่าว
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)