Skip to main content
sharethis





ประวิตร โรจนพฤกษ์ ฝาก "เสียง" จากหลายฝ่ายในเหตุการณ์ช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาให้ผู้อ่านพิจารณาทบทวนด้วยสติ โดยหวังว่า สังคมจะหาวิธีจัดการกับปัญหาการเมืองอย่างสันติและเป็นประชาธิปไตยได้


 


 


รายงานโดย ประวิตร โรจนพฤกษ์


พิมพ์และลำดับเหตุการณ์โดย คิม ไชยสุขประเสริฐ


 


 


7 เมษายน 52 ขณะที่ขบวนรถของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กำลังเดินทางกลับจากการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรและตรวจเยี่ยมสถานที่จัดการ ประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน +3 และ +6 ที่โรงแรมรอยัลคลิฟท์บีชรีสอร์ท พัทยา เพื่อไปปฏิบัติภารกิจที่รัฐสภา ได้ถูกกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่มาชุมนุมขับไล่จอดรถจักรยานยนต์ขวางกลางทางไว้ไม่ให้เดินทางต่อไป


 


 


 


 


8 เมษายน 52 นปช.เสื้อแดงชุมนุมใหญ่เพื่อล้มรัฐบาล 


 


"พี่อยากให้นักหนังสือพิมพ์ มีความเป็นธรรม เขากำลังถูกครอบงำ"


 


ผู้หญิงคนหนึ่งถือป้ายมีข้อความว่า "อำมาตย์กดขี่ความเป็นมนุษย์มานานแสนนาน"


 


ช่วงบ่ายของวัน


ที่หน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ ผู้ชายยืนอยู่บนหลังรถ 6 ล้อ "ข้อเรียกร้องเปรมคือว่า ก.ลาออก ข.ออกไป ค.อย่าอยู่เลย ง.ถูกทุกข้อ"


 


จักรภพ เพ็ญแข 15.40 น. วันเดียวกัน "ประชาชนจะหาทางปฏิรูปการเมืองด้วยตัวเอง"


 


...


 


"โทษครับ อนาคตของประเทศจะเป็นอย่างไร"


นายสุรพันธ์ ชายเสื้อสีแดงซึ่งบอกว่าตัวเองเป็นอดีตช่างซ่อมแอร์ ถามผู้เขียนที่ร้านกาแฟซึ่งตั้งอยู่บริเวณตีนสะพานเทเวศร์นฤมิตร ตอน 4 โมงเย็น


 


"... ไม่ใช่ผมชอบกดดันอะไร แต่ว่าไม่ใช้วิธีนี้ ไม่มีทางต่อสู้ ผมคิดว่ารัฐบาลไม่ยอม โดยเฉพาะป๋าเปรมไม่ยอมแน่" สุรพันธ์กล่าว


 


...


 


เสียงจากโทรโข่ง ดังจากบริเวณหน้าสะพานเทเวศร์ฯ ตอน 5 โมงเย็น ขณะที่กลางสะพานเต็มไปด้วยคนเสื้อแดง


"วันนี้เราจะสู้ แม้จะไม่ได้ชัยชนะโดยทันที บอกต่อๆ ไป โทรไปบอกพี่น้อง"


 


 


9 เม.ย.52 แท็กซี่ปิดอนุสาวรีย์ชัยฯ ม็อบเสื้อแดงดาวกระจาย กต.-กองบัญชาการกองทัพบก-ปชป.


 


...


 


10 เม.ย.52 ม็อบปะทะเสื้อน้ำเงินที่พัทยา เปิดถนนอนุสาวรีย์ชัยฯ


 


ผู้นำเสื้อแดงจบปริญญาเอกจากมหาวิทยายาลัยแถวหน้าของอเมริกา ซึ่งยึดพื้นที่ชุมนุมอยู่หน้าโรงเรียน โรงเรียนพิบูลย์ประชาสรรค์ ปิดถนนราชวิถีช่วงตรงข้ามแฟลตดินแดง


 


"ไอ้สามเกลอมันเผด็จการทางความคิด แท็กซี่ขึ้นกับชินวัฒน์ (หาบุญพาด) ไม่ใช่คนดีเด่นอะไร คนธรรมดา แต่เขาฟังคนที่นี่และมีพัฒนาการ สู้วันนี้มันเกินกว่าสามคนนั้นไปแล้ว พวกนั้นมันเผด็จการ ทะเลาะ (กับแกนนำอีกคน) อย่างรุนแรงคืนวันที่ 8 ชินวัฒน์น้อยใจไม่เคยเจียดเวลาให้ ขึ้นเวที (เสื้อแดง) ตี 4 ตี 5 พวกนี้เขาไม่ยอมน่ะพอไอ้สามเกลอเรียกให้ (กลับ) ไปที่ทำเนียบ (พวกที่อยู่ราชวิถีและอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ)"


 


"ตอนนี้ชาวบ้านเขาไม่สนใจว่าไอ้สามคนทำไง ถ้าสู้แล้วเขาแพ้ก็ไม่แล้ว เขาเหนื่อยมาก เขาไม่ได้สู้เพื่อทักษิณหรือสามเกลอ มันบอกให้ทุกคนยกเลิกการปิดถนน เราไม่ (กลับทำเนียบ) เพราะว่าเราให้เครดิตกับแท็กซี่เขา"


 


ผู้นำที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติคนนี้ถูกถามจากผู้เขียนว่า "พวกคุณกำลังต่อสู้เพื่อทักษิณหรือไม่"


 


เขาตอบ "เป็นคำถามที่ไม่แฟร์ ทักษิณโกงกินหรือไม่โกงกินไม่รู้ ต้องพิสูจน์กัน ต้องพิสูจน์ด้วยกระบวนการกฎหมายแต่ตอนนี้มันไม่เวิร์ก และทักษิณมาจากการเลือกตั้ง มาจากเสียงส่วนใหญ่ ถ้าใครจะใช้ระบอบประชาธิปไตยก็ต้องยอมรับ"


 


"คือเราอยากใช้ทักษิณเป็นเครื่องมือ... ถามว่าจะมีใครกล้าออกมาพูดแฉ (แบบทักษิณ) ไหม มีคนบอกว่าทักษิณใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือ แต่ประชาชนเขาไม่สนใจ แต่เพราะเขาต้องทนต่อการต้องอยู่ภายใต้ระบอบอำมาตย์ เขาทนไม่ได้ การทำรัฐประหารล้มรัฐบาลไม่ถูกต้อง ทำไมไม่เคยเห็นหัวประชาชน"


 


"เรามีประชาชนจากทุกส่วนมาร่วม ขับรถตุ๊กตุ๊ก จบมหาวิทยาลัยท็อปเท็นของโลก สังคมไทยกำลัง Distort (บิดเบือน) ทุกอย่าง สังคมของคุณล้าหลัง ไม่ก้าวหน้ากว่าคนข้างถนน คุณไม่มีความเป็นประชาธิปไตย"


 


อย่างไรก็ตาม พื้นที่ในส่วนนี้ถูกแย่งคืนโดยตำรวจในคืนวันนั้นเอง...  


 


...


 


ผู้หญิงจากกลุ่มแดงก้าวหน้า ซึ่งกลายเป็นผู้นำตามธรรมชาติ ของผู้ชุมนุมบริเวณถนนราชวิถี


"ไอ้แกนนำ 3 คนไม่ดูแล กลางดึกพันธมิตรมาป่วนตีและต้องสู้ตำรวจ เขาไม่ไว้ใจไอ้สามเกลอ มันหลอกแดกทักษิณหรือเปล่าตอนนี้ ทักษิณเป็นเครื่องมือของคนเสื้อแดง"


 


"... สังคมมันไม่มีอะไรจะเสียแล้ว ถ้าคุณยอมรับการปฏิบัติของพันธมิตรได้ ก็ต้องยอมรับตรงนี้ได้"


 


 "ประชาชนถูกหลอกครั้งแล้วครั้งเล่า"


 


(ในช่วงเวลาดังกล่าว ยังไม่มีเหตุการณ์เผาทำลายใดๆ เกิดขึ้น)


 


...


 


20.50 น.


พี่ผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเป็นที่ปรึกษาฝ่ายแดงก้าวหน้า "หนีบจักกะแร้ทักษิณเรื่อยๆ มันไม่เวิร์ก"


 


 


11 เม.ย.52 ล้มประชุมอาเซียน ซัมมิต ที่พัทยา 


 


ไม่มีบันทึกคำบอกเล่า เพราะผู้เขียนไม่ได้เดินทางไป


 


 


12 เม.ย.52 อริสมันต์ถูกจับ รัฐบาลประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินร้ายแรงในกรุงเทพฯ และปริมณฑล จากนั้นมีเหตุการณ์ปะทะที่มหาดไทย


 


19.05 น.


คลื่นวิทยุ 107.5 MHz


"รัฐบาลชุดนี้จะทำร้ายประชาชนเป็นที่แน่นอนแล้ว เชิญครับพี่น้อง ไปที่ทำเนียบรัฐบาล ใส่เสื้อแดงไปรวมพลังนะครับ หยุดสงกรานต์กันสักวัน"


 


19.15 น.


คลื่นวิทยุ 107.5 MHz มีเสียงคลื่นระหว่างสัญญาณวิทยุของคนเสื้อแดงและรัฐบาล


"ขอให้ปิดถนน ประชาชนต่างจังหวัดปิดถนน ศาลากลาง ... ขณะนี้คนทั้งประเทศรุกแล้ว ไม่มีอะไรสูญเสียมากกว่านี้แล้ว"


 


...


 


20.03 น.


เวที นปช.ที่ทำเนียบรัฐบาล


"ขอให้เป็นตำรวจของประชาชน"


(ตำรวจจำนวนหนึ่งขึ้นเวที เข้าร่วมกับผู้ชุมนุมเสื้อแดง)


 


ตำรวจ ทหาร ตรึงกำลังสี่แยกบริเวณสวนจิตรฯ และวัดเบญจมบพิตร


 


21.50 น.


ผู้ชายบนรถกระบะพูดผ่านโทรโข่ง


"วันนี้สื่อของรัฐบิดเบือน คนมาชุมนุมเป็นแสนก็บอกมา 2 หมื่น สื่อไม่ต้องเป็นกลาง แต่ต้องเสนอความจริง"


 


...


 


เวลาใกล้เที่ยงคืน


รถบัสเปิดเครื่องตลอดเวลาหลังเวที


จรัล ดิษฐาอภิชัย ให้สัมภาษณ์นักข่าวต่างประเทศและผู้เขียน (การถามตอบเป็นภาษาอังกฤษ)


 


"จะจบยังไงไม่มีใครรู้ แม้แต่พระผู้เป็นเจ้าก็ไม่รู้"


 


"พรุ่งนี้เป็นวันสงกรานต์ ถ้ารัฐบาลต้องการสงกรานต์เลือดก็เข้ามาเลย"


 


"ตอนนี้ประชาชนพูดถึงการปฏิวัติประชาชน ประชาชนต้องการการปฏิวัติ แต่มันไม่ง่าย"


 


"... เราต้องปฎิบัติตามความเห็นของพลังมวลชน"


 


...


 


จักภพ เพ็ญแข ให้สัมภาษณ์ต่อมา


 


"นี่คือสงครามประชาชน (People War) ไม่ใช่สงครามกลางเมือง (Civil war)"


 


...


 


00.45 น.


แยกสนามม้านางเลิ้ง (ก่อนเกิดการปะทะที่แยกสามเหลี่ยมดินแดง)


 


ผู้ชุมนุมเสื้อแดงตะโกนบอกเพื่อนว่า "ไม่ให้ส่งกำลังไปเสริมดินแดงแล้ว ตอนนี้มีประมาณพันคนแล้ว"


 


แล้วตะโกนตาม "พวกเราสู้ไม่สู้!"


 


"สู้!" เสียงตะโกนตอบ


 


 


13 เม.ย.52 ทหารเข้าสลายการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงบริเวณแยกสามเหลี่ยมดินแดง นปช.ใช้รถแก๊สตั้งกลางเมือง


 


05.15 น.


คลื่นวิทยุ 107.5 MHz


"เป็นสงครามที่ทำให้บ้านนี้เมืองนี้มันดีขึ้น อภิสิทธิ์คือทรราชตัวจริงเสียงจริง"


 


เสียงหมอเหวง


"วันนี้เป็นวันปีใหม่ นั่นหมายความว่าเรามีชีวิตใหม่ ศักราชใหม่ ชีวิตเก่าจบไปแล้ว จบอย่างแน่นอน ไม่ต้องห่วงครับ ผมประเมินว่ามันไม่กล้าปราบแน่นอน


 


... 


 


05.30 น.


ที่แยกอุรุพงษ์มีการเผายาง ฟ้ายังไม่สางดี เสียงปืนดังขึ้นบนท้องฟ้าเป็นระยะ


ผู้คนบริเวณนั้นต่างตะโกน


 


"มาแล้ว!"


 


"รัฐบาลมันเหี้ย! ประชาชนไม่มีอะไรเลย"


 


"ทุกคนสู้!"


 


"ทหารมันฆ่าประชาชน!"


 


05.50 น.


ประชาชนมีเพียงเสื้อแดงไม่ถึง 30 คน พากันคว้าไม้บริเวณนั้น เตรียมพร้อม


 


ตำรวจนอกเครื่องแบบอาสาขับมอเตอร์ไซค์ไปส่งผู้เขียนที่แยกสามเหลี่ยมดินแดง


 


"ออกเวรโดนปลดอาวุธหมดทุกคน"


 


ผู้เขียนถามว่าตั้งแต่เมื่อไหร่


 


"ช่วงรุนแรงนี้แหละ"


 


"ถ้าไม่มีใครออกมายอมแพ้ก็ไม่จบ เพราะแกนนำเขาไม่ให้จับตัวอยู่แล้ว ทั้งพันตรี พันโท นายตำรวจเขาดูอยู่แล้ว"


 


...


 


06.00 น.


แยกสามเหลี่ยมดินแดงได้ยินเสียงโห่ เสียงปืนเป็นระยะ


 


ผู้เขียนพยายามเดินเข้าไปบริเวณหน้าโรงแรมเซ็นจูรี่พาร์ค ถนนราชปรารภ (สามเหลี่ยมดินแดง) แต่ถูกไล่โดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงแรม


 


"พี่ออกไปก่อน ผมหนักใจครับ"


 


เสียงปืนดังขึ้น ผู้เขียนเห็นนักท่องเที่ยวชาวตะวันตกหลบลงที่บริเวณฟรอนท์เดส (front desk)


 


"คุณหยุดพูดเลย ผมจะไปเดี๋ยวนี้" ผู้เขียนโต้ตอบออกไป


 


...


 


ผู้หญิงเสื้อแดงบริเวณนั้น


"มันโหดจริงนะ เขาจะเอาศพผัวมันยังไม่ให้ พวกนี้เขามาด้วยใจจริงๆ นะ"


 


"ตี 4 มันมาเป็นชุดเลย เสียงปืนเหมือนกับห่าลง ถูกยิงตายไปหลายคนแล้ว"


 


...


 


ไพโรจน์ สมใจเพ็ง ชาวกาญจนบุรี คนขับแท็กซี่ที่รับผู้เขียนหลบออกไปจากบริเวณนั้นชั่วคราว


"สะใจเลยครับ เพราะเมื่อคืนนี้ม็อบเสื้อแดงถือไม้ถืออะไร แต่ม็อบไม่มีแกนนำทำโดยพลการ ผมว่าทหารทำถูกแล้วน่ะ แต่ไม่มีคนตาย"


 


"... อยากถามว่าเขารักในหลวงบ้างไหม ...เขารักทักษิณมากกว่าในหลวงแล้วนะ เขาเผาเพื่อปลุกระดม"


 


ก่อนลงจากรถ แท็กซี่บอกว่า "ผมมีเสื้อสีเหลืองอยู่ในตู้"


 


...


 


6.40 น.


พระภิกษุรูปหนึ่งเดินมาหยุดอยู่หน้าทหารที่มีอาวุธครบมือประมาณ 200 นาย ด้วยระยะห่างไม่ถึง 15 เมตร


"อย่าเข้ามาปะทะกัน จงยิ้มให้กัน เราเป็นคนไทย พี่ น้อง ที่สู้เพื่อประชาธิปไตยได้ต่อสู้และล้มตาย ขอศพคืนให้เขาด้วย"


 


...


 


6.50 น.


ทหารคนหนึ่งพูดกับเพื่อน "มันไม่กล้ามาหรอก"


 


คนเสื้อแดงตะโกนโต้ "เดี๋ยวเจอกัน!"


 


นายทหารยศพันโทจากอรัญประเทศซึ่งคุมกำลังทหารอยู่บริเวณนั้น ตอบคำถามที่ว่าทำไมต้องมาอยู่ตรงนี้


 


"ตรงนี้เขาปิดถนน ตรวจคน ประชาชน กลายเป็นบ้านเมืองไม่มีกฎหมาย มันเสียหายทุกอย่าง แม้กระทั่งการประชุมเป็นหน้าเป็นตาของประเทศ เขายังทำได้ ทุกคนเรียกร้องแต่สิทธิแต่ไม่รู้จักหน้าที่"


 


...


 


อีกด้านหนึ่งในบริเวณเดียวกันนั้น


 


ไพรวัลย์ เพชรพินิจ คนเสื้อแดงจากสระแก้วบอกกับผู้เขียนว่า


"ผมเห็นคนขับรถเมล์โดนยิง คนขับฟุบพวงมาลัย แต่พวกเราโดนรุกก่อน"


 


"ยิงปืน M16 ใส่ระดับขา ระดับตัว ยิงขึ้นฟ้าก็มี"


 


ผู้หญิงเสื้อแดง


"ช่วยประชาชนด้วยค่ะ อย่างน้อยอย่าให้เขาตายฟรี"


 


นักข่าวต่างประเทศ


"นี่คือสงครามกองโจร (จรยุทธ์)"


 


"พวกเขา (ทหาร) รู้สึกตึงเครียด เดี๋ยวเด็กเหล่านี้ก็ต้องยิงใครเข้าสักคน"


 


...


 


9.21 น.


ตำรวจจราจรหญิงที่อนุสาวรีย์ชัย


"เขาใช้ปืนสลายม็อบมันไม่ถูกอยู่แล้ว ตำรวจ (เคยทำตอน 7 ตุลาคม) ก็เป็นแพะ มันมีคดีตัวอย่าง ตอนนี้ทหารก็เป็นแพะ"


 


วิมล คนขายเสื้อยืดบริเวณนั้นเข้ามาร่วมวงคุย และบอกว่า


"แก้ปัญหาโง่ๆ เอากำลังมาชนกัน ... ไม่จบหรอกครับ มันก็คล้ายๆ กองโจรกระจายไปทั่ว ... คุณลาออกแล้วเลือกตั้งใหม่ 3 เดือน คุณไม่มีปัญหา"


 


"รักชาติใครก็พูดได้ แต่สำนึกรักชาติมีไหม รักแต่ตนเอง ฝั่งนี้ก็ผลประโยชน์ ฝั่งนั้นก็ผลประโยชน์"


 


..


 


10.40 น.


โทรศัพท์จาก หญิงเสื้อแดงผู้นำตามธรรมชาติ ของผู้ชุมนุมบริเวณถนนราชวิถีซึ่งได้พูดคุยด้วยเมื่อ 2 วันก่อน


"... รู้สึกตอนนี้หดหู่ เขาหาว่าม็อบรับเงิน ทำไมสื่อไม่ค่อยมีปัญญา"


 


...


 


บริเวณแยกศรีอยุธยา ชายเสื้อแดงบนหลังรถปิ๊กอัพ


"มันต้องการให้ประเทศไทยลุกเป็นเพลิง เราก็จะสนองมัน"


 


หลายจุดรอบๆ ยางเผาไหม้อยู่ รถที่ถูกยึดจอดอยู่เป็นจำนวนมาก


 


...


 


14.50 น.


1 ใน 5 แกนนำ ขอไม่ออกนาม ตอบคำถามกรณีอาจเกิดไฟไหม้


 "เตรียมไว้ทุกอย่างแล้ว และคอนโทรลไม่ได้ ประชาชนตายแต่สื่อไม่ยอมออก"


 


...


 


ตกเย็น เดินสวนกับคนเสื้อแดงรุ่นเก๋า ที่เป็นที่รู้จักกันอีกคนหนึ่ง


"นี่คือการเริ่มต้นของการสิ้นสุดของ..."


 


...


 


18.25 น.


เพชรบุรีซอย 7 มัสยิด ดารุลอะมาน หลังจากที่กลุ่มคน (ใส่) เสื้อแดงบุกเข้าไปยิงและพยายามเผามัสยิด


เสียงผู้นำชุมชนพูดผ่านโทรโข่งกับกลุ่มชาวบ้านชายร่วม 100 คน ที่ออกมายืนริมถนน


 


"ขอให้เราเดินหน้าก้าวฝ่าปัญหาไปพร้อมๆ กัน"


 


ชายชาวบ้านอีกคน


"เอาเถอะ ให้มันเสร็จๆ ในวันนี้ดีที่สุด"


 


"ถามว่าเป็นแดงแท้ 100 เปอร์เซ็นต์ไม่ใช่มือที่ 3 ใช่ไหม"


 


"ไม่ใช่ 100 เปอร์เซ็นต์ครับ ล้านเปอร์เซ็นต์ครับ และเขากำลังนมัสการอยู่ อยู่ดีๆ คุณไปไล่ตีเขา เผารถเมล์ทำไปไม่รู้กี่คัน" คนในชุมชนตอบ


 


 


14 เม.ย.52 รัฐกดดัน นปช.ยุติการชุมนุม


 


12.50 น.


หลังประกาศยอมสลายการชุมนุมและย้ายออกจากบริเวณทำเนียบ


กลุ่มคนเสื้อแดงประมาณ 50 คน ที่ได้เปลี่ยนไปสวมเสื้อสีอื่นแล้วเกือบทั้งหมดยืนอยู่ใกล้โลหะปราสาทบริเวณสะพานผ่านฟ้า


 


ชายคนหนึ่งในกลุ่มตะโกน


"สื่อไทยเชื่อถือไม่ได้ เพราะปิดข่าวบิดเบือน"


 


ชายอีกคน


"ไอ้พวกหมานี่ไป! ไอ้...แม่! ประชาชนไม่มีปืนหรอก"


 


อีกคน


"ผมบอกให้นะสงครามมันอีกยาว ถ้าเป็นแบบนี้ วันนี้มันไปอาศัยเสื้อเหลืองเข้ามา ตอนนี้ผู้นำของเราเขาทำถูก (ที่ยอมสลายม็อบบางส่วน) เขารักษาชีวิตพี่น้องของเรา เพราะเราทำอะไรไม่ได้ ถ้าไม่ยอมเขาก็จะใช้กำลังปราบ ตอนนี้เราจะกลับบ้านทั้งหมด"


 


อีกคน


"ตั้งแต่วันนี้ไป เราจะไปรวมตัวที่สนามหลวง ความไม่พอใจจะขยายตัวไปทั่วประเทศ และผู้นำ (รัฐบาล) จะไปไหนได้ไหม"


 


คนกลุ่มนี้ยืนด่าทหารที่ตั้งแถวยืนขวางอยู่ตรงกลางสะพานผ่านฟ้ากว่า 200 นาย


 


"ไอ้เหี้ย! กลับบ้านไป!"


 


"ไปอยู่ใต้ไป! จะได้โดนตัดหัว"


 


"ไปใต้ไป! ไปใต้ไปโดนระเบิดคาร์บอม"


 


...


 


13.30 น.


ที่สนามหลวง


 


คนที่สนามหลวงชุมนุม


"ต้องมาเริ่มกันใหม่ เราไม่ยอมอยู่แล้ว ความยุติธรรมไม่มี เผด็จการอย่างนี้มันไม่ได้หรอก"


 


คนเสื้อแดงที่สวมเสื้อน้ำเงิน


"ถามสิ ไม่มีใครยอมรัฐบาลนี้และนักการเมือง ทุกคนเกลียด"


 


ผู้หญิงคนหนึ่งในกลุ่ม


"ฉันไม่เกลียด แต่ฉันไม่ชอบสังคมที่ไม่มีความยุติธรรม"


 


อีกคน


"สื่อไทยเชื่อใจไม่ได้แล้ว สื่อ(แดง)ทุกอย่างปิดหมดเลย"


 


"พ่อ แม่ หัวใจของความเป็นธรรมอยู่ตรงไหน ความไม่เป็นธรรมที่มารังแกเรา ทหารต้องไปต่อสู้กับอริราชศัตรูใช่ไหม"


 


ผู้หญิงอีกคนพูดทั้งน้ำตา


"ช่วยพวกเราด้วย เขาฆ่าคน เขาเอาศพไป รัฐบาลบอกไม่ได้เอา... เขาโกหก"


 


เสียงตะโกนขึ้นมา


"เสน่ห์ จามริกอยู่ไหน"


 


บริเวณนั้นมีพระรูปหนึ่งถือป้าย "รัฐฆ่าพระ รัฐฆ่าประชาชน"


 


มีเสียงตะโกน


 


"ออกไป"


 


"ประเทศไทยเป็นของประชาชน"


 


อีกป้ายหนึ่ง "นายกฯ เปื้อนเลือด ไม่เอา!"


 


"ถ้าไม่มีเนวิน (ชิดชอบ) ออกมา ไม่มีเลือด ... ไอ้สัตว์เนี่ยลงทุนไปเยอะ" ผู้หญิงอีกคนตะโกน


 


16.14 น.


กลับไปที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย


ทหารวิ่งไล่กลุ่มคนที่รวมตัวอยู่บริเวณสะพานผ่านฟ้าแตกกระเจิงมาตามถนนราชดำเนินมุ่งไปยังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย


 


ผู้เขียนถามทหารปืนใหญ่ผู้หนึ่งในกลุ่มว่าเรื่องจะจบได้ยังไง


 


"ผมว่ายาก คนเรามันเห็นไม่ตรงกันแล้ว" เขาตอบ


 


เสียงโทรโข่งจากทหารที่สั่งทหารชั้นผู้น้อยดังขึ้น


 


"ทหารต้องมีวินัยนะครับ อย่าไปตกใจ"


 


แดงตะโกนตอบ


 


"ควาย!"


 


"ยอมหมดแล้ว"


 


"พระยังฆ่า"


 


ทหารพูดผ่านโทรโข่ง


 


"ใครไม่เกี่ยวหลบไป หลบนะ ถ้าไม่หลบถือเป็นพวกเดียวกัน"


 


…


 


จากนั้นทหารกว่า 200 นายก็วิ่งเป็นแถวผ่านอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยไป


 


หลังจากวิ่งไประยะหนึ่งก็หยุด เสียงทหารนายหนึ่งด้านหน้า พูดกับทหารชั้นผู้น้อย


 


"เราปฏิบัติตามหลักสากล อาชีพ เข้าใจคำว่ามืออาชีพไหม"


 


และสั่งอีกว่า "พร้อมแล้วปฏิบัติได้!"


 


ทหารผู้น้อยคนหนึ่งตะโกน


"อย่าไปทำเขาแล้วกัน"


 


อีกคน


"ให้กลับบ้านพอ"


 


…


 


กลุ่มทหารหยุดอยู่ที่ช่วงหนึ่งของถนนราชดำเนินกลาง เพราะพบเด็กวัยรุ่นอายุราว 15 ปีคนหนึ่งนั่งอยู่มีลักษณะคล้ายคนเมายา จึงนำไปตรวจสอบว่าเป็นเสื้อแดงหรือไม่


 


เมื่อพบว่าไม่ใช่จึงปล่อยตัว และกำชับว่า


 


"อย่าไปร่วมกลุ่มเขานะ"


 


...


 


ฝั่งตรงข้ามของกองสลาก ชาวบ้านคนหนึ่งพูดด่าเสื้อแดง


"มันไม่ใส่เสื้อแดงแล้ว แต่คำพูดมันเรารู้ เมื่อกี้มันบอกทหารยิงประชาชน ไอ้เหี้ย!"


 


...


 


17.00 น. 


ที่สนามหลวง


ตำรวจกว่า 100 นายตั้งแถว และพยายามเคลื่อนเข้าใกล้กลุ่มผู้ชุมนุมราว 2-3 ร้อยคน ที่อยู่บริเวณนั้น ขณะนี้พวกเขาไม่ได้ใส่เสื้อสีแดงแล้ว แต่ยังคงพากันตะโกนด่าตำรวจ


 


ชายคนหนึ่ง


"ชาวนามันโง่ มันโง่ แล้วชาวนาก็รักพระเจ้าอยู่หัวเหมือนกัน"


 


บรรยากาศค่อนข้างสับสน ไม่รู้ว่าใครเป็นแดงแท้แดงไม่แท้ มีผู้ชายคนหนึ่งพยายามบอกให้กลุ่มคนที่มาชุมนุมหยุดด่าตำรวจ จึงถูกตั้งคำถาม


 


"แล้วคุณเสื้ออะไร?"


 


ชายเสื้อฟ้าคนนั้นตอบ


 


"แหมมาถาม ผมเสื้อสีอะไร ผมอยู่ 2 ทุ่ม ถึง ตี 4 (ที่ทำเนียบ) ตำรวจไม่ล็อกเราก็ดีอยู่แล้ว เขาจับเราเขาก็จับได้"


 


...


 


17.10 น.


ตำรวจตั้งแถวแล้วเดินออก ผู้คนตบมือ ตะโกน


"ซ้าย ขวา ซ้าย"


 


ผู้หญิงคนหนึ่งพูดกับนักข่าวต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ)


"คุณรู้ไหมเมืองไทยอยู่ภายใต้เงามืด"


 


ผู้ชายคนหนึ่งตะโกนขึ้นมา


"นั่นมันสื่อไทยหรือเปล่า ถ้าสื่อไทยอย่าพูดให้เปลืองน้ำลายเลย ทีวีไทยโกหกทั้งนั้น"


 


ผู้ชุมนุมพากันมุงดูรูปที่อ้างว่าเป็นรูปของผู้ชุมนุมที่ถูกยิงตาย


 


...


 


17.30 น.


ตำรวจเดินแถวเข้ามาประชิดใหม่ เอากล้องวิดีโอมาบันทึกภาพผู้ชุมนุม ส่วนผู้ชุมนุมก็ได้หยิบกล้องมือถือมาออกมาบันทึกภาพตำรวจกลับไป พร้อมตะโกน


 


"ออกไป" และมีการนำรูปที่อ้างว่าเป็นศพเสื้อแดงไปให้ตำรวจดู


 


ชายคนหนึ่งตะโกน


"พวกกูใช่คนไทยหรือเปล่า ถ้าไม่ใช่ เหยียบเลย"


 


"คนไทย นี่ประเทศไทยอยู่ไม่ได้ แล้วจะไปอยู่ที่ไหนวะ"


 


อีกคน


"ตำรวจอยู่ข้างประชาชนเลย"


 


อีกคน


"ที่พัทยาเราไม่โดนตีเพราะตำรวจ ตำรวจเพื่อนประชาชนครับ"


 


ช่างภาพชาวเยอรมันพูดกับผู้เขียน


"ถึงแม้คนเหล่านี้จะเลือกนายกฯ ที่คนอื่นไม่ชอบ แต่ก็เป็นสิทธิของเขาที่จะทำ นี่คือจุดเริ่มต้นของประชาธิปไตย แต่มันถูกขยี้จนแหลกละเอียด"


 


ชายอีกคนพยายามพูดให้ผู้ชุมนุมสงบ


"ผมเสื้อแดงนะครับ แดงจริงๆ เดี๋ยวเรารอหาแกนนำที่ดีมาช่วยเราต่อ"


 


ชายวัยกว่า 50 ตะโกนใส่ตำรวจ


"นี่ไม่ใช่ 2 มาตรฐานแล้ว 3 มาตรฐาน"


 


คนเสื้อชมพู


"เราไม่แพ้! เราไม่แพ้! ยังไงมันก็ไม่ได้หัวใจของประชาชน"


 


...


 


17.50 น.


ตำรวจชุดแรกออกไป มีตำรวจชุดใหม่มาประจำการแทน


 


ร.ท.(หญิง) สุนิสา เลิศภควัต หรือ หมวดเจี๊ยบ ผู้เขียนหนังสือ "ทักษิณ Where Are You?" ได้เข้ามาบริเวณที่ชุมนุมและถ่ายวิดีโอ ได้ถูกนักข่าวต่างชาติขอสัมภาษณ์


 


"ทีวีไทยไม่ฉายภาพทั้งหมด หลายเหตุการณ์ถูกเซ็นเซอร์ สื่อไทยถูกเซ็นเซอร์ความจริงและไม่มีที่ให้กับอีกด้าน มีแต่ข้อมูลฝ่ายรัฐบาล ฉันอาจเอาสิ่งที่ฉันถ่ายวันนี้ขึ้นยูทูปแต่รัฐบาลก็อาจบล็อก ฉันไม่เห็นด้วยกันความรุนแรงทั้งจากทหารและฝั่งประชาชน แต่มันไม่ถูกที่กระสุนที่ใช้ฆ่าประชาชนมาจากภาษีของประชาชนเอง"


 


ในตอนท้าย เมื่อหมวดเจี๊ยบได้ทราบว่านักข่าวที่กำลังให้สัมภาษณ์ คือประธานสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย (FCCT) หมวดเจี๊ยบซึ่งให้สัมภาษณ์พร้อมน้ำตาที่ซึมและไหลเป็นระยะอยู่แล้วได้ซบหน้าร้องไห้ที่ไหล่ของนักข่าวผู้นั้น


 


"มีคนอีกมากที่ต้องการความช่วยเหลือจากคุณ"


 


…


 


เสียงผู้ชายตะโกน


 


"เราไม่แพ้!"


 


"ฆาตกร!"


 


ชายอีกคน


"หมวดเจี๊ยบครับ คุณคือวีรสตรี!"


 


ชายอีกคน


"พวกเราไม่แพ้!"

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net