กิจกรรมนี้เกิดขึ้นจากทีมนักแปลอาสาสมัครที่อยากให้สาธารณชนได้บริโภคข่าวสารอย่าง รอบด้าน เนื่องเพราะเห็นว่าสื่อสารมวลชนของไทยมีปัญหาเรื่องการทำงานในสถานการณ์ วิกฤตินี้ เราจึงเลือกแปลข่าวของสื่อต่างชาติที่ยังสามารถทำงานตามหลักการวิชาชีพได้ โดยไม่มีอคติต่อฝ่ายใด และไม่มีอำนาจรัฐมาครอบงำ

 

ทีมแปลข่าวเฉพาะกิจ

ที่มา : แปลจาก "Interview transcript: Thaksin Shinawatra", Financial Times, Published: April 17 2009 http://www.ft.com/cms/s/0/c9faedf8-2af4-11de-8415-00144feabdc0.html

 

 

โรบิน วิจเกิลสเวิร์ธ (Robin Wigglesworth) ผู้สื่อข่าวไฟแนนเชี่ยล ไทม์ ประจำภาพพื้นอ่าวเปอร์เซีย สัมภาษณ์ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย, ที่รัฐดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ วันที่ 16 เมษายน 2552 ตีพิมพ์ วันที่ 17 เมษายน 2552

 

ถาม : คุณคิดว่ากลุ่มผู้สนับคุณ กลุ่มเสื้อแดงพ่ายแล้วหรือยัง?

ทักษิณ: จุดมุ่งหมายของการเคลื่อนไหวเพื่อให้ได้ประชาธิปไตยที่แท้จริงสำหรับทุกคน ประเทศไทยบอกกับชาวโลกมาตลอดว่าเราเป็นประชาธิปไตย แต่เราไม่ได้เป็นประชาธิปไตยจริงๆสำหรับทุกคน มันเป็นประชาธิปไตยสำหรับคนไม่กี่คน: สำหรับพวกชนชั้นนำทางการเมืองในกรุงเทพฯที่ยังคงมีอิทธิพลใหญ่หลวงเหนือการเมืองไทย

 

ถาม : แต่ "การปฏิวัติของประชาชน" คือวิธีที่ดีที่สุดในการส่งเสริมประชาธิปไตยงั้นหรือ?

ทักษิณ: การปฏิวัติหมายถึงการปฏิวัติโดยสันติ ผมเน้นว่าเป็นการปฏิวัติโดยสันติทุกครั้งที่ผมใช้คำนี้ ผมอ้างอิงถึงมาร์ติน ลูเธอร์ คิง ด้วยซ้ำ

 

ถาม : คุณให้เงินสนับสนุนพวกกลุ่มเสื้อแดงหรือเปล่า?

ทักษิณ : ไม่ หากคุณติดตามดูพวกเขา คุณจะเห็นวัฒนธรรมที่น่ารัก พวกคนหาปลาเอาปลามาแบ่งปันกัน พวกเขาช่วยเหลือกันและกัน พ่อค้าแม่ค้าหาบเร่แผงลอยเอาอาหารมาให้ มันเป็นภาพที่น่ารักมากเพราะพวกเขาต่างช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

 

ถาม : แต่เราได้ยินมาว่าคุณให้เงินพวกเขา

ทักษิณ : ไม่ใช่ ไม่มีเรื่องเงินเลย ครั้งหนึ่งที่ผมพูดกับพวกเขา ผมล้อเล่นว่าตอนนี้รัฐบาลจ่ายเงินให้ผู้สูงอายุคนละ 500 บาทต่อเดือนซึ่งผมมีสิทธิ์ได้ด้วยหลังวันเกิดของผม 26 กรกฎาคม - หากผมต้องการ ผมจะมีอายุครบ 60 ปีวันที่ 27 กรกฎาคม ผมจึงมีสิทธิ์ได้เงินเดือนละ 500 บาท ผมได้เล่นมุขกับพวกเขาว่า หลังวันที่ 27 กรกฎาคมผมจะไปเข้าคิวรับเงิน 500 บาท พวกเขาจึงเชื่อว่าผมจะให้ 500 บาทกับพวกเขา

 

ถาม : แม้ว่าคุณบอกว่าคุณไม่ต้องการความรุนแรง แต่ความรุนแรงเกิดขึ้นแล้ว

ทักษิณ : นี่คือสิ่งที่บอกว่าทำไมคนเสื้อแดงถึงลุกขึ้นมาสู้ เพราะว่าพวกเขาไม่ได้รับความยุติธรรม มันมีสองมาตรฐานตลอดมา สามปีหลังจากที่ผมออกจากมาประเทศไทยมีการใช้สองมาตรฐานมาโดยตลอด

 

คุณเห็นไหมว่าพวกเขาปฏิบัติกับกลุ่มคนเสื้อเหลืองอย่างไรและปฏิบัติต่อกลุ่มคนเสื้อแดงอย่างไร พวกเขาใช้วิธีปราบปรามคนเสื้อแดงอย่างโหดร้ายทารุณ ตอนคนเสื้อเหลืองชุมนุมทหารเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออก แต่เมื่อคนเสื้อแดงชุมนุม ทหารร่วมมือกับรัฐบาลและประกาศว่าจะใช้กำลัง

 

เป็นการปราบปรามที่ทารุณ ทำไมถึงทารุณ? เพราะพวกเขาถูกปลุกปั่นโดยกลุ่มพลเรือนติดอาวุธที่รัฐบาลสนับสนุน พวกเขาใช้ทั้งตำรวจและทหารที่สวมเสื้อสีน้ำเงินและสีแดงและพยายามสร้างให้เกิดการจลาจล ทำไมทหารถึงได้ถือปืนเอ็ม 16? ทำไมพวกเขาไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานสากลในการควบคุมการจลาจล?

 

นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันนี้ใช้กำลังทหารพร้อมกระสุนจริงยิงประชาชน มีคนตายหลายคน พวกเขาลากศพออกไปและพยายามที่จะทำลายศพ สิ่งที่เกิดขึ้นนี้เหมือนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับการประท้วงของนักศึกษาเมื่อเดือนตุลาคม 2519 มีผู้สูญหายหลายคน แต่คุณไม่สามารถหาศพเจอเพราะว่าพวกเขาทำลายศพ

 

เรามีการรัฐประหาร 17 ครั้ง ทำสำเร็จ 10 ครั้ง และเรามีการเลือกตั้ง 22 ครั้ง นั่นหมายความว่าเรามีรัฐประหาร 1 ครั้งในทุก 2 ครั้งที่มีการเลือกตั้ง นี่คือประชาธิปไตยแบบไหนกัน?

 

ถาม : การส่งฝูงชนออกมาบนท้องถนนคือหนทางที่จะพัฒนาประชาธิปไตยอย่างนั้นหรือ?

ทักษิณ : แม้ว่าคนเสื้อแดงส่วนใหญ่เป็นคนที่สนับสนุนผม แต่ไม่ใช่ทั้งหมด หลายคนมาร่วมการชุมนุมเพราะพวกเขาเกลียดความอยุติธรรมที่ระบาดอยู่ในประเทศไทยสามปีมานี้ และการปฏิบัติสองมาตรฐานที่มีอยู่ทั่วไป นี่คือความอยุติธรรม

 

ประการที่สอง พวกที่เข้าใจประชาธิปไตยรู้ดีว่าที่ผ่านมาประเทศไทยไม่ได้เป็นประชาธิปไตย เราดูเหมือนเป็นประชาธิปไตย แต่เราไม่ได้เป็น ประชาธิปไตยชนิดไหนกันล่ะที่อำนาจทางการเมืองไม่ได้เชื่อมต่อกับประชาชน?

 

ถ้าคุณตามรอยกลับไปดูสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศไทย คุณจะเห็นว่ารัฐบาลของผมเป็นชุดแรกที่มาจากผลของรัฐธรรมนูญเสรีนิยม ผมประสบความสำเร็จเพราะนโยบายที่ผมใช้ นี่เป็นครั้งแรกในการเลือกตั้งที่เรามีการแถลงนโยบายของพรรคการเมือง ประชาชนชอบและเราชนะโดยได้รับเสียงมากกว่าครึ่งของการลงคะแนนเลือกตั้งทั้งหมด นี่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทย ผมได้พยายามใช่วิถีทางประชาธิปไตยเพื่อช่วยเหลือคนจน

 

ถาม : ได้มีการเจรจาเกี่ยวกับการกลับประเทศไทยของคุณหรือไม่?

ทักษิณ : ไม่มี ในประเทศไทย พวกเขาเล่นการเมืองที่จะข่มขู่คุณ ทำให้คุณลำบาก เล่นการเมืองเพื่อให้ได้รับความนิยม แต่ไม่มีการปฏิบัติจริง

 

ถาม : คุณอยากที่จะประนีประนอมหรือไม่?

ทักษิณ : ณ จุดนี้ ประเทศไทยแตกแยกไปมากกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว แต่คุณไม่อาจกดคนทั้งหมดไว้ เพราะคุณจะต้องฆ่าคนหลายล้านคน ถ้าคุณไม่อาจฆ่าคนหลายล้านได้ การปรองดองเป็นหนทางเดียวในการแก้ปัญหา

 

ถาม : วิธีการแก้ปัญหาที่คุณเห็นคืออะไร?

ทักษิณ : การปรองดอง การปรองดองเสมือนการปรบมือ คุณจำเป็นต้องใช้สองมือ คุณไม่อาจใช้มือเดียวได้ คุณจำเป็นต้องปรองดองระหว่างฝ่ายต่างๆ แทนที่คุณพยายามจะกดพวกเขา ตีพวกเขา และฆ่าพวกเขา นั่นจะได้ผลหรือ?

 

พวกผู้นำกลุ่มเสื้อแดงอยู่ที่นั่น (ในประเทศไทย) ถ้าพวกเขาอยากเจรจา ก็เจรจาเลย การขังผู้นำเสื้อแดงไว้ในคุกไม่มีทางที่จะยุติความขัดแย้งได้

 

ถาม : คุณมีความรู้สึกว่าศาลถูกใช้เป็นการเมืองมากไปหรือเปล่า?

ทักษิณ : พวกเขารุกไล่ให้ผมจนมุมอยู่ทุกวัน พวกเขารังแกผม หลังจากที่ผมถูกกำจัดออกมา ผมโทรศัพท์ไปหานายพลทหารหลายคนและผมโทรศัพท์หานายกรัฐมนตรีสุรยุทธ์ และผมบอกกับเขาว่าผมดีใจที่ถูกขับไล่เพราะผมจะได้ใช้เวลากับครอบครัว ผมจะได้พักผ่อนเพราะผมทำงานหนักมากมาหลายปีแล้ว แต่ผมบอกกับเขาว่าอย่ารังแกผมทางการเมือง ถ้าคุณรังแกผมทางการเมือง ผมก็จะตอบโต้ทางการเมือง ผมไม่ได้ทำอะไรผิด พวกเขาดำเนินการโดยเอาพวกที่เป็นฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองของผมมาเป็นกรรมการสอบสวนผม

 

การตัดสินของศาลขึ้นอยู่กับข้อกล่าวหาของคณะกรรมการสอบสวนซึ่งเป็นฝ่ายตรงข้ามผม ในเวลาปกติ ถ้าคุณคิดว่าผู้พิพากษาที่จะตัดสินคดีของคุณไม่เป็นธรรม คุณสามารถร้องขอให้มีการเปลี่ยนตัวได้ แต่นี่พวกเขาใช้ผู้พิพากษาบางคนที่เป็นฝ่ายตรงข้ามผม แม้แต่คณะกรรมการสอบสวนทั้งหมดก็เป็นฝ่ายตรงข้ามผม

 

ถาม : คุณคิดว่าคุณจะต้องอาศัยอยู่ในต่างประเทศอย่างถาวรหรือไม่?

ทักษิณ : ผมไม่คิดอย่างนั้น ผมมีความหวังที่จะได้กลับไป แต่ผมอยากจะกลับไปในฐานะคนธรรมดา

 

ถาม : หมายถึงไม่เล่นการเมืองอีก?

ทักษิณ : ถ้าประเทศชาติไม่ต้องการผม หรือถ้าการกลับเข้าไปสู่การเมืองจะทำให้เกิดการแตกแยกมากขึ้น ผมจะไม่กลับไป แต่ถ้าผมกลับไปแล้วสามารถทำประโยชน์ให้ประชาชนได้ ผมจะทำ

 

ตำรวจ ทหาร ทำตามที่ชนชั้นนำทางการเมืองในกรุงเทพสั่งให้พวกเขาทำ พวกเขาไม่ต้องรับผิดชอบกับประชาชน นั้นคือเหตุผลว่าทำไมจึงมีขบวนการเรียกร้องประชาธิปไตยที่นั่น และพวกเขาจะยังคงเรียกร้องต่อไปเพราะยังไม่เคยมีประชาธิปไตยที่แท้จริงมาหลายทศวรรษแล้ว

 

พวกเขาต้องการความยุติธรรม พวกเขามาและร้องขอความยุติธรรม พวกเขามาและร้องขอประชาธิปไตย แต่พวกเขากลับไปพร้อมชีวิตที่สูญสิ้น ผู้บาดเจ็บ และความเจ็บปวดที่สังคม และรัฐบาลไม่ได้ปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างเป็นธรรม

 

ผมอยากจะให้ทั่วโลกได้ยินเสียงคนจนเหล่านี้ พวกเขาเป็นคนส่วนใหญ่และพวกเขาได้รับการปฏิบัติที่เลวร้าย พวกเขาต้องการได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นธรรม พวกเขาไม่ได้รับความเป็นธรรมในประเทศไทย

 

ถาม : พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลทรงสามารถทำอะไรได้บ้าง?

ผมน้อมเกล้าขอให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงโปรด ถึงเวลาแล้วที่พระองค์จะทรงเข้ามาแทรกแซงเพราะมิฉะนั้นจะเกิดความแตกแยกมากขึ้นกว่านี้ พระองค์เท่านั้นที่จะทรงสมานความแตกแยกของประชาชนทั้งประเทศได้ ประชาชนไทยรู้สึกเหมือนพระองค์คือเทพ ตอนนี้ พวกที่อยู่รอบๆ พระองค์จุดชนวนทุกอย่าง และพวกคนจนที่แม้ว่าพวกเขาจะมีจำนวนมากมาย แต่เสียงของพวกเขาเบา ไม่มีใครได้ยินเสียงของพวกเขา

 

ถาม : รัฐบาลแห่งชาติจะสามารถบรรเทาความแตกแยกได้หรือไม่?

ทักษิณ : ควรมีการถกเถียงกันในเรื่องนี้ แต่พวกเขาพยายามที่จะบีบคั้นพวกเรา ทุกคนที่อยู่ฝ่ายผม ทุกคนที่อยู่ข้างผมกลายเป็นคนเลว เป็นผู้ไม่จงรักภักดีกับราชวงศ์

 

ถาม : คุณพร้อมจะเจรจากับรัฐบาลหรือไม่?

ทักษิณ : ผมไม่อยู่ในฐานะที่จะเจรจาได้: ผมคิดว่าพวกผู้นำกลุ่มคนเสื้อแดงควรเป็นผู้เจรจา ไม่ใช่ผม เพราะผมอยู่นอกประเทศ ผมสามารถให้คำแนะนำได้แต่ผมไม่สามารถสั่งให้พวกเขาทำนั่นทำนี่ได้ เพราะพวกเขาไม่ใช่ผู้ที่สนับสนุนผมทั้งหมด

 

ถาม : ผมทราบมาว่าคุณกำลังพยายามที่จะกลับเข้าไปทำธุรกิจโทรคมนาคมในแอฟริกา คุณช่วยเล่าเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ผมฟังได้ไหม?

ทักษิณ : ผมกำลังมองหาธุรกิจที่จะทำ ผมจะไม่เสียเวลารออยู่ที่นี่ ผมควรต้องทำบางอย่างเพราะชีวิตคนไม่ได้ยืนยาวนัก ผมได้ตั้งบริษัทที่จะช่วยพัฒนาด้านเทเลคอม หลายบริษัทกำลังขาดทุน ถ้าเราได้รับใบอนุญาตที่ดี เราจะประกอบกิจการด้วย ถ้าไม่ได้เราจะทำด้านเป็นที่ปรึกษา

 

ถาม : คุณอยากได้ใบอนุญาตเพื่อประกอบกิจการด้วย?

ทักษิณ : ผมคิดว่ามันต้องใช้เงินมากเกินไป ผมไม่มีเงิน เงินทั้งหมดถูกอายัดไว้ในประเทศไทย แม้ว่าเป็นเงินที่ผมแจ้งว่าได้มาก่อนที่จะเล่นการเมือง

 

ถาม : มองกลับไป คุณรู้สึกว่าการชุมนุมของคนเสื้อแดงเปลี่ยนแปลงอะไรได้หรือไม่?

ทักษิณ : ผมไม่ทราบ ขบวนการสนับสนุนประชาธิปไตยจะยังอยู่ที่นั่น ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม แต่ผมบอกให้คุณมั่นใจได้ว่าพวกเขาเป็นขบวนการที่สันติมาก การจลาจลที่เกิดขึ้นนั้นถูกปลุกปั่นโดยกลุ่มพลเรือนติดอาวุธที่รัฐบาลสนับสนุน: ไม่ใช่เป็นการกระทำของคนเสื้อแดง พวกเขาไม่ใช่พวกที่จะมาฆ่าใคร: หลายคนเป็นแม่บ้าน หลายคนเป็นผู้สูงอายุ พวกเขามาเพียงมือเปล่า พวกเขาเพียงต้องการร้องขอความยุติธรรม

 

ถาม : แต่มีการใช้ระเบิดขวด?

ทักษิณ : ผมไม่ทราบ บางทีนั่นอาจเป็นวิธีดั้งเดิม พวกเขาอาจป้องกันตัวเอง พวกเขาอาจต้องคุ้มครองตัวเอง ผมไม่ทราบ แต่เมื่อพวกเขาเริ่มต้น ความรุนแรงไม่ใช่พวกคนเสื้อแดง

 

ถาม : เมื่อพวกเขาบุกรุกโรงแรมที่พัทยา นั่นไม่ใช่การชุมนุมที่สันติไม่ใช่หรือ?

ทักษิณ : พวกเขาต้องการไปอย่างสันติ แต่ถ้าคุณดูข่าว คุณจะเห็นพวกคนเสื้อสีน้ำเงิน นั่นคือพวกที่เราเรียกว่ากลุ่มพลเรือนติดอาวุธที่รัฐบาลสนับสนุน กลุ่มนี้ถูกสั่งการโดยสุเทพและเนวิน คณะรัฐมนตรีมอบหมายให้พวกเขาบัญชาการกองกำลังนี้

 

ถาม : ใครอยู่เบื้องหลังกองกำลังของรัฐบาล?

ทักษิณ : ทหารและชนชั้นนำทางการเมืองในกรุงเทพฯ

 

ถาม : เช่น องคมนตรี เปรม หรือ?

ทักษิณ : ใช่ เปรมเคยเป็นนายกรัฐมนตรีโดยไม่มีการเลือกตั้งมา 8 ปี

 

ถาม : ทำไมพระมหากษัตริย์ถึงไว้วางใจพวกองคมนตรี?

ทักษิณ : ผมไม่ทราบ ผมไม่พูดว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไว้วางพระราชหฤทัยหรือไม่ ในประเทศไทย ไม่มีใครสามารถกราบทูลถามเรื่องนี้

 

ถาม : ทำไมถึงมีการแบ่งฝ่ายกันอย่างรุนแรงเช่นนี้ในประเทศไทย?

ทักษิณ : แทนที่จะสร้างความปรองดอง พวกเขาพยายามที่จะแบ่งแยก พวกเขาปราบปรามรุนแรงขึ้น บังคับใช้กฎหมายมากขึ้น แต่พวกเขาบังคับใช้กฎหมายบนฐานของความไม่ยุติธรรม มีสองมาตรฐานระหว่างคนเสื้อเหลืองกับคนเสื้อแดง ยิ่งพวกเขาใช้ความอยุติธรรมขึ้น ประชาชนยิ่งมาเข้าร่วมกับคนเสื้อแดงมากขึ้น

 

ถาม : คุณสนับสนุนพวกเสื้อแดง?

ทักษิณ : ผมสนับสนุนพวกเขาในการเรียกหาความยุติธรรมและประชาธิปไตย, ความเท่าเทียม, เสรีภาพ และภราดรภาพ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องการให้มีในประเทศไทย และผมขอให้เขาทำโดยสันติ เราไม่อาจชนะด้วยการใช้ความรุนแรง ผมบอกว่าความรุนแรงก่อให้เกิดความรุนแรง ชัยชนะใดที่มากับความรุนแรงนั้นเท่ากับเป็นความพ่ายแพ้

 

ถาม : ถ้าพวกเขาใช้ความรุนแรง คุณจะบอกให้พวกเขาหยุดหรือไม่?

ทักษิณ : ผมจะไม่บอกให้พวกเขาหยุดหรือโต้ตอบ นั่นขึ้นอยู่กับผู้นำของพวกเขา แต่ความรู้สึกกระหายที่จะได้ประชาธิปไตย และจะให้เกิดความยุติธรรมที่แท้จริงในประเทศไทยนั้นอยู่ที่นั่น อยู่ในหัวใจของพวกเขา การปราบปรามอย่างโหดร้ายของทหารและรัฐบาลจะเป็นบาดแผลในหัวใจของประชาชน

 

ถาม : ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยปัญหาทางเศรษฐกิจ คุณไม่คิดหรือว่าการสนับสนุนการแบ่งฝ่ายเป็นการทำให้สถานการณ์แย่ลง?

ทักษิณ : ไม่มีใครสนับสนุนการแบ่งฝ่าย แต่ถ้าไม่มีความยุติธรรมก็ไม่มีสันติภาพ, ไม่มีสันติภาพก็ไม่มีความมั่นคง, ไม่มีความมั่นคงก็ไม่มีความมั่งคั่ง เพราะฉะนั้น คุณต้องทำให้มีความยุติธรรมเป็นอันดับแรก ทำไมพวกเขาถึงใช้สองมาตรฐานตลอดเวลา วิธีการที่พวกเขาปฏิบัติต่อคนเสื้อแดงและคนเสื้อเหลือนั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ราวกับสวรรค์กับนรก

 

ถาม : คุณคิดว่าคุณจะสามารถกลับประเทศไทยได้ในเร็วๆนี้ไหม?

ทักษิณ : มันขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ผมอยากกลับประเทศไทยตราบเท่าที่จะเป็นประโยชน์กับประเทศชาติ แต่ถ้ากลับไปแล้วจะเป็นการทำให้เกิดความวุ่นวายมากขึ้น ผมจะไม่กลับไป

 

ถาม : คุณคิดว่าการกลับไปของคุณจะช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นไหม?

ทักษิณ : ผมอยากจะบอกอย่างนี้: สงครามไม่อาจสิ้นสุดได้ด้วยการทำสงคราม สงครามจะสิ้นสุดได้ด้วยการเจรจาเพียงอย่างเดียว ผมคิดว่าถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทยต้องสร้างความปรองดอง แต่ไม่จำเป็นที่ต้องการผม การเจรจาสามารถทำได้ระหว่างผู้นำกลุ่มเสื้อแดงกับรัฐบาล แต่ประเทศไทยต้องการการปรองดองอย่างแท้จริง หากคุณคิดว่าคุณมีอำนาจที่จะใช้วิธีปรามปรามอย่างโหดร้ายกับพวกเขา คุณจะทำให้เกิดความแตกแยกในประเทศมากขึ้น

 

ถาม : คุณพร้อมจะเจรจากับกลุ่มเสื้อเหลืองไหม?

ทักษิณ : ผมพร้อมเสมอ แต่ไม่มีใครมาเจรจากับผม พวกเขาเพียงแต่พูดเพื่อให้พวกเขาดูดี

 

ถาม : พวกเขาไม่ได้ตั้งใจจะทำจริงจังหรือ?

ทักษิณ : พวกเขาไม่เคยจริงจัง เพราะพวกเขาคิดว่าพวกเขามีอำนาจ