Skip to main content
sharethis

เมื่อ 8 มี.ค.52 เวลา 13.30 น. ที่ห้องประชุม 1 กระทรวงมหาดไทย นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.3) เป็นประธานในการประชุมร่วมระหว่างเครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทย (คปท.) และข้าราชการจากระทรวงต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง พิจารณาร่างคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อแต่งตั้งคณะกรรมการและคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาของเครือข่ายปฏิรูปที่ดินฯ ภายหลังจากที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี รับข้อเสนอของเครือข่ายปฏิรูปที่ดินฯ ที่ให้ตั้งคณะกรรมการร่วมเพื่อแก้ไขปัญหา เมื่อวันที่ 5 มี.ค.ที่ผ่านมา


 


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครือข่ายปฏิรูปที่ดินฯ ซึ่งประกอบด้วย เครือข่ายสลัม 4 ภาค สหพันธ์เกษตรภาคเหนือ เครือข่ายปฏิรูปที่ดินภาคอีสาน สหพันธ์เกษตรภาคใต้ และเครือข่ายองค์กรชุมชนรักเทือกเขาบรรทัด รวมทั้งประชนในกรณีปัญหาสหกรณ์การเช่าที่ดิน พิชัยภูเบนทร์ จ.อุตรดิตถ์ และกรณีปัญหาสหกรณ์การเช่าที่ดินคลองโยง กว่า 800 คนได้มาปักหลักชุมนุมบริเวณกระทรวงมหาดไทยตั้งแต่ช่วงเที่ยง ที่ด้านหน้ากระทรวงมหาดไทย บริเวณถนนอัษฎางค์ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระราชวัง และตำรวจสันติบาล คอยดูแลความปลอดภัยไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมเข้าไปภายในกระทรวง


 


จากนั้นเวลา 13.00 น. นายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย เดินทางมาถึง พร้อมกับเปิดให้ตัวแทนของเครือข่ายปฏิรูปที่ดินฯ 50 คน เข้าประชุมเรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการ ร่วมกับตัวแทนข้าราชการจากกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงยุติธรรม กรมที่ดิน ฯลฯ


 


ในการประชุมมีการพูดคุยถึง "คณะกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาของเครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทย" ในส่วนขององค์ประกอบและอำนาจ ซึ่งเครือข่ายปฏิรูปที่ดินฯ มีการจัดทำร่างคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการดังกล่าว โดยมีองค์ประกอบของตัวแทนฝ่ายการเมืองคือรัฐมนตรีจากกระทรวงต่างๆ ที่เกี่ยวข้องร่วมกับตัวแทนเครือข่ายปฏิรูปที่ดินฯ รวม 24 คน


 


นางสาวพงษ์ทิพย์ สำราญจิตต์ ตัวแทนเครือข่ายปฏิรูปที่ดินฯ กล่าวในที่ประชุมว่า ภารกิจร่วมกันของพี่น้องเครือข่ายปฏิรูปที่ดินฯ จากทั่วประเทศ กับหน่วยงานรัฐ คือการมาช่วยกันแก้ปัญหาที่ดินและที่อยู่อาศัยในสังคมไทย เป็นการร่วมกันทำงาน ไม่ใช่การมาขอความช่วยเหลือ สำหรับการตั้งคณะกรรมการเพื่อแก้ปัญหาฯ ที่จะมีขึ้น ก็รู้สึกดีใจที่นายกรับเป็นประธาน อย่างไรก็ตามการแก้ปัญหาไม่ใช่เฉพาะในส่วนของเครือข่าย แต่ยังเชื่อมโยงประโยชน์ไปยังพี่น้องที่ไม่มีที่ทำกินทั่วประเทศ หากมีการปฏิรูปที่ดินทำกิน


 


ส่วนคณะทำงานของนายถาวรก็ได้มีการจัดทำร่างคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการดังกล่าวด้วยเช่นกัน โดยในสวนองค์ประกอบคณะกรรมการประกอบด้วย 3 ส่วนคือ ตัวแทนฝ่ายการเมือง 9 คน ข้าราชการประจำในระดับปลัดกระทรวงและอธิบดีกรมที่เกี่ยวข้อง 18 คน และตัวแทนเครือข่ายปฏิรูปที่ดินฯ 6 คน รวม 33 คน นอกจากนี้ยังมีเนื้อหาในส่วนของการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อรับผิดชอบในการแก้ไขปัญหา ซึ่งแบ่งออกเป็น 5 กลุ่มปัญหา โดยอ้างอิงตามข้อเรียกร้องของเครือข่ายปฏิรูปที่ดินฯ พร้อมระบุทั้งองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่


 


นายถาวรกล่าวอธิบายถึงการนำข้าราชการประจำในระดับปลัดกระทรวงและอธิบดีกรมที่เกี่ยวข้องมาร่วมในคณะกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาว่า เพื่อให้เข้ามารับรู้ผลการประชุมและนำไปปฏิบัติ โดยไม่ต้องไปถ่ายทอดอีก และทำให้สามารถสอบถามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีปัญหาต่างๆ ได้ เพราะเป็นคนที่ทำงานใกล้ชิดต่อเนื่องอยู่แล้ว นอกจากนี้ในส่วนข้อกฎหมายหากมีข้อสงสัย ก็จะสามารถปรึกษาข้าราชการประจำที่เกี่ยวข้องได้


 


อย่างไรก็ตาม ภายหลังการพูดคุยเกือบ 3 โมง ที่ประชุมได้ข้อสรุปว่า การออกร่างคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการเพื่อแก้ไขปัญหาของเครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทย ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน มีนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นรองประธาน มีองค์ประกอบของคณะทำงานเป็น รัฐมนตรีและข้าราชการระดับสูงอีก 18 คน และเป็นตัวแทนจากเครือข่ายปฏิรูปที่ดินฯ 16 คน รวมทั้งสิ้น 36 คน


 


อำนาจหน้าที่ 1.กำหนดนโยบาย แนวทาง และงบประมาณ ในการดำเนินงานแก้ไขปัญหาตามข้อเสนอของ เครือข่ายปฏิรูปที่ดินฯ ภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยและนโยบายรัฐบาล 2.อำนวยการ เร่งรัด และติดตามผลการดำเนินงานของส่วนราชการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และคณะอนุกรรมการที่ได้รับการแต่งตั้งตามคำสั่งนี้ 3.แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ คณะทำงาน หรือบุคคล เพื่อช่วยเหลือหรอปฏิบัติงานตามที่คณะกรรมการมอบหมาย


 


4.เชิญผู้แทนส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐและบุคคล เข้าร่วมประชุม ชี้แจง ให้ข้อมูล หรือจัดส่งเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหา 5.ปฏิบัติงานอื่นๆ ตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย และ 6.ให้คณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ และคณะทำงานที่แต่ตั้ง ได้รับค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าที่พัก ค่าพาหนะเดินทาง และอื่นๆ อันพึงมีตามระเบียบทางราชการ สำหรับการเบิกจ่ายเบี้ยประชุมให้เป็นไปตามพระราชกฤษฎีกาเบี้ยประชุมกรรมการ พ.ศ.2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ทั้งนี้ ให้เบิกจ่ายค่าใช้จ่ายต่างๆ จากสำนักงานปลัดสำนักนายกรับมนตรี


 


โดยในวันที่ 9 มี.ค. จะรายงานผลการประชุมนี้ต่อนายกรัฐมนตรีและนำร่างคำสั่งเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 10 มี.ค. จากนั้น วันที่ 11 มี.ค.จะมีการประชุมคณะกรรมการครั้งแรก ซึ่งจะมีการพูดคุยถึงเนื้อหาในส่วนของการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อรับผิดชอบในการแก้ไขปัญหาที่ยังไม่มีการพูดคุยในการประชุมวันนี้


 


จากนั้น เวลา 16.00 น. นายถาวร ได้ออกมากล่าวรายงานผลการประชุมกับกลุ่มผู้ชุมนุม พร้อมกล่าวยืนยันว่า รัฐบาลจริงใจจะแก้ปัญหาเรื่องนี้ และบรรยากาศการหารือเป็นไปด้วยดี โดยเมื่อนายถาวรกล่าวต่อผู้ชุมนุมจบ กลุ่มผู้ชุมนุมก็ได้สลายตัวไปด้วยความเรียบร้อย


 


ด้านนางกันยา ปันกิติ หนึ่งในทีมเจรจาเครือข่ายปฏิรูปที่ดินฯ จากเครือข่ายองค์กรชุมชนรักเทือกเขาบรรทัดกล่าวว่า ในการประชุมซึ่งนายถาวรยอมรับข้อเสนอของเครือข่ายปฏิรูปที่ดินฯ เกือบทุกข้อนั้น อาจมองได้ทั้งเป็นความจริงใจในการแก้ปัญหา หรือจะมองว่าเอามาเป็นนโยบายในการหาเสียงก็ได้ เพราะที่ผ่านมามติครม. 30 มิ.ย.41 ของพรรคประชาธิปัตย์ก็ได้สร้างปัญหาให้กับประชาชน โดยเฉพาะกับคนใต้ จนทำให้ต้นยางของชาวบ้านถูกทำลาย ถูกเผา และชาวบ้านถูกข่มขู่คุกคามอยู่ในทุกวันนี้


 


อย่างไรก็ตาม การประชุมคณะกรรมการแก้ปัญหาฯ ครั้งแรก ในวันพุธที่ 11 ที่จะถึงนี้ จะมีการนำปัญหาความเดือดร้อนเร่งด่วนของชาวบ้านเครือข่ายองค์กรชุมชนรักเทือกเขาบรรทัด เข้าไปร่วมพูดคุยเป็นเรื่องแรกเนื่องจากในพื้นที่กำลังประสบปัญหาอย่างหนัก ทั้งการเผาทำลายพืชผลทางการเกษตร และการถูกดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและทางอาญา ซึ่งในส่วนแนวทางการแก้ปัญหานางกันยาเสนอให้มีการลงไปพิสูจน์ความจริงในพื้นที่เกี่ยวกับสิทธิการถือครองที่ดินของชาวบ้าน แทนที่จะยึดถือตามมติครม.30 มิ.ย.41 เป็นหลัก  


 


ส่วนนายสุรพล สงฆ์รักษ์ สหพันธ์เกษตรภาคใต้ กล่าวว่า การประชุมครั้งแรกของคณะกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาฯ ที่จะมีนายกฯ เป็นประธาน ในวันพุธที่ 11 มี.ค.เวลา 14.00 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล จะมีการพูดคุยถึงข้อเสนอเร่งด่วนเพื่อการแก้ปัญหา 13 ข้อ และข้อเสนอรายพื้นที่ จาก 24 จังหวัด รวมทั้งข้อเสนอในเชิงนโยบาย อาทิ เรื่องโฉนดชุมชน ธนาคารที่ดิน การเก็บภาษีที่ดินอัตราก้าวหน้า และการคุ้มครองพื้นที่เกษตรกรรม นอกจากนี้ยังมีประเด็นการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อรับผิดชอบในการแก้ปัญหา ซึ่งเครือข่ายปฏิรูปที่ดินฯ ต้องนำมาพูดคุยกันเกี่ยวกับรายละเอียดขององค์ประกอบ และอำนาจหน้าที่เพื่อนำเสนอต่อนายก


 


ตัวแทนจากสหพันธ์เกษตรภาคใต้กล่าวต่อมาว่า การปฏิรูปที่ดินต้องมองปัญหาในลักษณะที่เป็นโครงสร้าง และต้องมีการวางแผนในการแก้ปัญหา ทั้งนี้คณะกรรมการระดับชาติเป็นเพียงส่วนหนึ่งในกระบวนการแก้ปัญหา ส่วนอนุกรรมการฯ ที่จะมีต่อไป ก็ควรมีการเตรียมการให้ชัดเจน


 


"คณะกรรมการระดับชาติวางกรอบนโยบายทางการเมือง ส่วนคณะอนุกรรมการต้องนำไปดำเนินการ ผิดเพี้ยนไม่ได้" ตัวแทนจากสหพันธ์เกษตรภาคใต้ล่าว พร้อมเสริมว่าควรมองข้ามกฎหมายบางตัวไปก่อน แล้วเอานโยบายมานำกฎหมายในการแก้ปัญหา


 


ในส่วนรูปแบบคณะอนุกรรมการฯ ที่คณะทำงานของนายถาวรเสนอมานั้นมีข้อสังเกต อาทิ องค์ประกอบของอนุกรรมการที่มีผู้แทนเครือข่ายเพียง 3 คน ซึ่งอาจมีการเจรจาเพื่อเพิ่มจำนวน และในส่วนอำนาจหน้าที่ ที่อาจต้องมีการเพิ่มในส่วนการเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาได้


 


"เรามองใน 2 ส่วนคือ 1.การที่คณะกรรมการหรือคณะอนุกรรมการมีข้าราชการเข้ามามากจะเป็นตัวสกัดดาวรุ่งในการแก้ปัญหา ดังนั้นจึงควรมีการเพิ่มสัดส่วนให้สมดุล และ 2.เรายังคงยืนยัน กลไกลโครงสร้างของเครือข่ายปฏิรูปที่ดินฯ ที่นำมาจากสมัชชาคนจน คือไม่ส่งเสริมผู้นำเดี่ยว ซึ่งการส่งตัวแทนอย่างน้อยเราจะให้มีตัวแทนจากเครือข่ายละ 2 คน" นายสุรพลกล่าวถึงองค์ประกอบของคณะอนุกรรมการซึ่งยังคงยืนยันให้เพิ่มสัดส่วนการมีส่วนร่วมของตัวแทนเครือข่ายปฏิรูปจากที่คณะทำงานของนายถาวรนำเสนอ ดังเช่นเช่นที่ต้องมีการเพิ่มสัดส่วนในคณะกรรมการเพื่อแก้ปัญหาฯ


 


นายสุรพล กล่าวต่อมาถึงข้อกังวลต่อกระบวนการตั้งคณะกรรมการเพื่อแก้ปัญหาว่า ต้องจับตามองมติครม.ในวันอังคารนี้ว่าจะมีความผิดเพี้ยน หรือมีการกี่เคยไขอีกหรือไม่ ต้องคอดูกันต่อไป เพราะที่ผ่านมาชาวบ้านเคยมีประสบการณ์ที่เคยพูดคุยกันแล้วแต่กลับพบว่ามติครม.มีเนื้อหาแตกต่างกับที่ตกลงไว้


 


ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ซึ่งเดินทางมารับหนังสือข้อเรียกร้องจากกลุ่มกลุ่มองค์กรแรงงานเนื่องในวันสตรีสากล บนเวทีบริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาลฝั่งสะพานบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ ได้เข้ามาพูดคุยเกี่ยวกับกลุ่มผู้ชุมนุมเครือข่ายปฏิรูปที่ดินฯ ที่บริเวณข้างทำเนียบ เกี่ยวกับการประชุมเพื่อจัดเตรียมร่างคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการเพื่อแก้ไขปัญหาของทางเครือข่ายด้วย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net