Skip to main content
sharethis

สนธิ ลิ้มทองกุล ปราศรัยที่พิษณุโลก ใช้ประวัติศาสตร์สมัยพระนเรศวรเทียบกับพันธมิตรฯ ส่วนเสื้อแดงคือพม่า ย้ำ "การเมืองใหม่" เอา "ธรรมนำหน้า" เน้น "โปร่งใส-เสียสละ-ซื่อสัตย์-กล้าหาญ" เพื่อ "ชาติเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้า-ประชาชนกินดีอยู่ดี-สังคมไทยมีความโปร่งใสยุติธรรม" ให้สถาบันพระมหากษัตริย์ "มั่นคง-มีเสถียรภาพ-เป็นศูนย์รวมจิตวิญญาณ"

เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 28 ก.พ. 52 ที่ผ่านมา ระหว่างการจัดงาน "คอนเสิร์ตการเมืองครั้งที่ 3" ของพันธมิตรประชาเพื่อประชาธิปไตย ที่สนามกีฬากลาง (สนาม 2) จังหวัดพิษณุโลก สนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวปราศรัยบนเวที

โดยเขาย้ำถึงแนวทาง "การเมืองใหม่" ที่เป็นการเอา "ธรรมนำหน้า" อธิบายถึงพลังของการเมืองใหม่ว่ามี 3 ประเภท คือมวลชนแนวหน้า มวลชนแนวร่วมที่ชม ASTV ทางบ้าน และพลังเงียบที่ไม่แสดงตัว แต่พร้อมที่จะลงคะแนนเลือก "การเมืองใหม่" ในคูหาเลือกตั้ง เขายังนิยามการเมืองใหม่ว่า "โปร่งใส-เสียสละ-ซื่อสัตย์-กล้าหาญ" พันธมิตรต่อสู้เพื่อ "ชาติเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้า-ประชาชนกินดีอยู่ดี-สังคมไทยมีความโปร่งใสมีความยุติธรรม" เขายังยืนยันที่จะปกป้อง "ชาติ-ศาสน์-กษัตริย์" โดยสนธิเสนอว่าพันธมิตรฯ ต่อสู้เพื่อให้สถาบันพระมหากษัตริย์ "มั่นคง-มีเสถียรภาพ-เป็นศูนย์รวมจิตวิญญาณ"

000

 

เมื่อพิจารณาคำปราศรัยของ สนธิ ลิ้มทองกุล เปรียบเทียบกับ จักรภพ เพ็ญแข แกนนำ นปช. หรือกลุ่มคนเสื้อแดง ที่ปราศรัยบนเวทีหน้าทำเนียบรัฐบาลเมื่อคืนวันที่ 26 ก.พ. ที่ผ่านมา [1] (อ่านคำปราศรัยของจักรภพที่นี่) จะพบว่า

ด้านหนึ่ง, จักรภพมีข้อเสนอ "ประชาธิปไตยแบบไม่มีเงื่อนไข" เพื่อให้ "สามัญชน" มีที่ยืนในสังคม มีศักดิ์ศรีและมีความเสมอภาค โดยเขายังเสนอให้แก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2550 ทั้งฉบับด้วย

ส่วนสนธินอกจากจะย้ำว่าการเมืองใหม่ต้อง "โปร่งใส-เสียสละ-ซื่อสัตย์-กล้าหาญ" แล้ว "ชาติเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้า-ประชาชนกินดีอยู่ดี-สังคมไทยมีความโปร่งใสมีความยุติธรรม" โดยที่สนธิไม่ได้อธิบายว่า "การเมืองใหม่" จะขยายขอบเขตของสิทธิเสรีภาพตามประชาธิปไตยมากเท่าใด

ด้านหนึ่ง, จักรภพอธิบายความสัมพันธ์ของ "คนเสื้อแดง" ว่าล้วนแต่เป็น "สามัญชน" ยึดโยงกันด้วยฐานะทางสังคมและเศรษฐกิจที่ต้องต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดเหมือนกัน เป็นผู้รู้จักคำว่าพอดี พอเพียง เพราะชีวิตไม่เคยมีส่วนเหลือส่วนเกิน เขายังย้ำว่า "ทักษิณ" ไม่ได้เป็น "ผู้ขับ" เป็นเพียงผู้โดยสารที่นั่งรวมอยู่ในขบวนโดยสารของคนเสื้อแดง

ส่วนสนธิ อธิบายความสัมพันธ์ของตัวเขา "คนเสื้อเหลือง" แบบเครือญาติข้ามจังหวัด การปราศรัยในคืนนั้นเขาได้อธิบายว่า "ผมเป็นคนทุกภาค" ผ่านการที่เขาเคยใช้ชีวิตในช่วงวัยต่างๆ ในจังหวัดนั้นๆ และภาคนั้นๆ และจากการที่เขามีญาติอยู่ที่นั่น โดยเขาย้ำว่ามี "หัวใจเดียวกับพ่อแม่พี่น้องทุกคนที่นั่งในที่นี้"

ด้านหนึ่ง, จักรภพ ใช้ประวัติศาสตร์การเมืองไทยสมัยใหม่ยกขึ้นมาอธิบายว่าการต่อสู้คนเสื้อแดงคือการสานต่อ "อภิวัฒน์สยาม 2475" ซึ่งจักรภพเสนอว่าการอภิวัฒน์ในครั้งนั้นถูกหักหลังโดยอภิสิทธิ์ชนในเวลาต่อมาหลายครั้ง ทำให้ยังไม่มีประชาธิปไตยที่แท้จริงจึงเป็นสาเหตุทำให้มีการสานต่อการอภิวัฒน์สยามโดย "คนเสื้อแดง"

ส่วนสนธิ ใช้ประเด็นทางประวัติศาสตร์เพื่อเชื่อมโยงกับผู้ชุมนุมเช่นกัน แต่เป็นการยกประวัติศาสตร์ทำนอง "ราชาชาตินิยม" ที่เกิดขึ้นในยุคไกลโพ้น โดยเปรียบเทียบว่าแกนนำพันธมิตรฯ และมวลชนเป็น "ทหารเสือ" ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และเปรียบเทียบว่าพื้นที่ชุมนุมในวันนี้ในอดีตชาติก่อนอาจจะเป็นทุ่งหญ้า ส่วนผู้ชุมนุมในตอนนั้น "ชาติโน้นคงจะขี่ช้างขี่ม้า ถือหอกถือง้าว พระองค์ดำนั่งอยู่ข้างบน แล้วพระองค์ดำท่านกำลังประกาศให้เตรียมตัวที่จะสู้รบ เพื่อกอบกู้เอกราชของชาติไทยครับพี่น้อง"

มีการระบุว่าพื้นที่ จ.พิษณุโลก และจังหวัดรอบๆ ที่เป็นภาคเหนือตอนบนในอดีตเป็น "ด่านแรก" ของประเทศไทยที่จะต้านทานการบุกของพม่า ดังนั้นการมาชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจึงเป็นการปักธง "เพื่อปกป้องไม่ให้ทักษิณและขบวนการเสื้อแดงบุกรุกเข้ามาในประเทศไทย" โดยเขาได้ใช้ประเด็นเชิงชาตินิยมนี้มาโจมตีฝ่ายตรงข้ามว่า "เสื้อแดงคือพม่า" ด้วย

นับเป็นการใช้เรื่องทหารสมเด็จพระนเรศวรปลุกกระแสชาตินิยมระลอกใหม่ หลังจากเมื่อปีที่แล้วสนธิและพวกเคยกระทำในทำนองนี้ด้วยการรณรงค์เพื่อทวงคืนเขาพระวิหาร ในระหว่างชุมนุมขับไล่รัฐบาลสมัคร-สมชาย โดยสนธิเคยเสนอให้มีการใช้กำลังบังคับเพื่อแก้ปัญหาพิพาทกับกัมพูชา [2] มีผู้ชุมนุมบางกลุ่มปีนเข้าไปในฝั่งกัมพูชาเพื่อปักธงชาติไทย [3] มีการให้ผู้ชุมนุมบุกไปชุมนุมถึงชายแดนไทย-กัมพูชาจนปะทะกับชาวบ้านไทยในพื้นที่ [4] [5] และทำได้เกิดการปะทะด้วยอาวุธขึ้นจริงๆ ระหว่างทหารไทยและทหารกัมพูชา จนทหารทั้งสองฝ่ายบาดเจ็บและเสียชีวิต [6] [7]

 

การปราศรัยในช่วงเวลาที่ใกล้เคียงกันของคนต่างขั้วอย่าง "สนธิ" และ "จักรภพ" จึงมีความหมายและน่าสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงการเมืองในยุคหัวเลี้ยวหัวต่อนี้

โดยการปราศรัยของนายสนธิ ลิ้มทองกุลมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

 

 

000

 

สนธิ ลิ้มทองกุล

ปราศรัยที่สนามกีฬากลาง (สนาม 2) จ.พิษณุโลก, 28 กุมภาพันธ์ 2552

(คลิกเพื่อฟังเสียงปราศรัย/ที่มา: ASTV/ผู้จัดการออนไลน์)

 

 

 

สนธิ ลิ้มทองกุล ที่ จ.พิษณุโลก เมื่อ 28 ก.พ. ที่ผ่านมา
(ที่มาของภาพ: ASTV/ผู้จัดการออนไลน์)

 

พ่อแม่พี่น้อง พ่อแม่พี่น้อง พันธมิตรสุโขทัยครับ ขอบพระคุณมากที่เอาเสื้อพันธมิตรสุโขทัยมาให้ พี่น้องสุโขทัยบอกว่าผมเป็นคนสุโขทัย แต่ผมไม่เคยพูดถึงจังหวัดสุโขทัยเลย

พี่น้องครับ พ่อผม ปู่ผม เป็นคนตำบลทุ่งหลวง อ.คีรีมาศ จ.สุโขทัย เท่ากับว่าผมเองมีบรรพบุรุษ ก๋งผมมาจากเกาะไหหลำ พ่อผมเกิดที่ทุ่งหลวง คีรีมาศ สุโขทัย เพราะฉะนั้นผมก็เป็นคนภาคเหนือตอนล่าง

ผมไปโตเรียนหนังสือที่ภาคตะวันออก โรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา ผมก็เป็นคนภาคตะวันออก

แม่บ้านผมเป็นคน จ.ตรัง ภาคใต้ ผมก็เป็นคนภาคใต้

เด็กๆ พี่น้องไม่รู้หรอก เด็กๆ ผมอยู่พิดโลก (หมายเหตุ - "พิดโลก" ที่สนธิใช้ หมายถึง จ.พิษณุโลก) แทบจะตลอดเวลาเพราะว่าคุณพ่อผมเป็นพ่อเลี้ยง ได้สัมปทานตัดไม้ที่แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย เมื่อประมาณสักปี 2497 ตอนนั้นผม 7 ขวบ พ่อก็จะล่องแพ ล่องซุง จากพิดโลกไป แล้วไปพักที่นครสวรรค์ ผมกับแม่ไปใช้ชีวิตที่นครสวรรค์ ผมก็เป็นคนนครสวรรค์เหมือนกัน

แต่ที่สำคัญที่สุด ผมเป็นคนหัวใจเดียวกับพ่อแม่พี่น้องทุกคนที่นั่งในที่นี้

พี่น้องที่มาจากแม่สอดตบมือหน่อยซิ อ้าวตบกันหมดเลยหรือนี่ ยั่วกันใช่มะ

พี่น้องครับ วันนี้เรามาปักธงชัยที่ภาคเหนือตอนล่างแล้ว ธงชัยอันนี้ ถ้ามองย้อนหลังกลับไปในอดีตเมื่อหลายร้อยปีที่แล้ว ธงชัยอันนี้ได้ทำตามสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในเมืองพิษณุโลกนั่นคือพิธีหลั่งน้ำอุทกของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่จะประกาศว่า พิษณุโลกไม่ใช่เมืองของคนเสื้อแดง (ผู้ชุมนุมโห่ร้อง)

 

เสื้อแดงคือพม่า พี่น้องครับ (ผู้ชุมนุมโห่ร้อง)

 

พวกผมแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเป็นทหารของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ผมเป็นลูกคนพิดโลก สุโขทัย ผมเป็นทหารเสือของพระองค์ดำ (ผู้ชุมนุมโห่ร้อง)

พี่น้องภาคเหนือตอนล่าง 9 จังหวัด พี่น้องทำงานวันนี้ พี่น้องไม่รู้หรอกว่ามันมีความหมายที่ลึกซึ้งขนาดไหน ความหมายที่ลึกซึ้งก็คือว่า 9 จังหวัดภาคเหนือตอนล่างประกาศตัวเป็นอิสระและไม่ยอมอยู่ภายใต้ระบอบทักษิณ ไม่ยอมอยู่ภายใต้การปกครองแนวพม่า ใช่ ไม่ใช่พี่น้อง

พี่น้องทุกคน ผมขอท้าทายคนเสื้อแดงใน 9 จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง ให้คุณจัดชุมนุมคนเสื้อแดงให้ได้เหมือนพี่น้องพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ใน 9 จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง ให้จัดแบบขายบัตร ให้จัดแบบให้เขาจ่ายเงินมาเพื่อที่จะมาฟังคุณพูด ไม่ใช่ให้จัดแบบเอาเงินไปแจกในลักษณะที่เดือนหนึ่งเมนส์มาครั้งหนึ่ง

พี่น้องครับ สัญญาณที่ดีได้เกิดขึ้นในเมืองนักรบของประเทศไทยคือเมืองของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช วันนี้เรามีผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 คนใหม่ชื่อ พล.ต.ท.สุรสีห์ สุนทรศารทูล ปรบมือให้ท่านด้วยครับ ท่านเป็นตำรวจที่เข้าใจสิทธิการแสดงออกอย่างสงบและสันติ และที่สำคัญ ท่านเข้าใจว่าพี่น้องพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยทุกคนเป็นผู้มีปัญญา เป็นสุภาพชน เป็นวีรบุรุษ เป็นวีรสตรี และเป็นคนที่รักชาติ รักบ้าน รักเมืองครับพี่น้อง ปรบมือให้ท่านอีกครั้งครับ

ปรบมือให้ตำรวจเมืองพิษณุโลกซึ่งทำหน้าที่ดูแลปกป้องเราอย่างดี ผมจะฝากพ่อแม่พี่น้องตำรวจเมืองพิดโลก เมืองพิดโลกเป็นเมืองทหารหาญเป็นเมืองคนกล้า พี่น้องพิดโลกต้องอย่าให้กุ๊ยอย่างเชียงใหม่ 51 มาอาละวาดที่เมืองพิดโลกเจอมันที่ไหนต้องจัดการมันเลยพี่น้อง

และที่สำคัญ พวกคนเสื้อแดงบางคนแถววังทอง แถวบางระกำ ก็ให้รู้ซะมั่ง ว่าพิดโลกไม่ใช่เมืองกุ๊ย เหมือนอุดรธานี วันนั้นพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยขึ้นไปอุดรธานีไปปราบกุ๊ยอุดรธานีมาเรียบร้อยแล้วพี่น้องครับ อีกไม่นาน เราจะขึ้นไปปราบกุ๊ยที่เชียงใหม่และเชียงรายพี่น้องครับ

ขอโทษพี่น้อง ไปกินปลามาแล้วท้องเสีย (หยุดปราศรัยเพื่อดื่มน้ำเกลือแร่) ปลาเมืองพิดโลก พี่น้องครับ 193 วันที่ผ่านมา สอนอะไรเรามั่ง อย่าว่าแต่ 193 วันที่ผ่านมาสอนอะไรเรามั่ง ตั้งแต่ปลายปี 2548 ที่ผมลุกขึ้นมาสู้ จนวันนี้สอนอะไรผมมั่ง สิ่งหนึ่งที่สอนให้ผมรู้ คือเราต้องทำงานเพื่อส่วนรวมเพื่อชาติ เพื่อศาสนา เพื่อพระมหากษัตริย์ และก็เพื่อราชบัลลังก์ นั่นคือสิ่งแรกที่อยู่ในดวงใจผมและเป็นสิ่งแรกที่อยู่ในดวงใจพ่อแม่พี่น้องทุกคนครับ

ภารกิจอันศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในดวงใจพวกเราคือพลังบริสุทธิ์ที่ให้พวกเรามารวมกัน ไม่ใช่เพียงเฉพาะสะพานมัฆวานฯ แต่รวมไปจนถึงทุกส่วนภาคของสังคม ไม่ว่าจะเป็นเกาะสมุย เกาะภูเก็ต สุราษฎร์ธานี ชุมพร กระบี่ พังงา ขึ้นไปจนถึงอุดรธานี ขอนแก่น ลงมาจนถึงพิษณุโลก อุตรดิตถ์ แพร่ น่าน นครสวรรค์ สุโขทัย กำแพงเพชร ตาก ของพวกนี้ เป็นพลังบริสุทธิ์ที่เรียงร้อยเชื่อมโยงจิตใจของแต่ละคนเข้าหากัน โดยไม่ต้องมานั่งสั่งนั่งสอน โดยไม่ต้องมานั่งแจกคนละ 200-500 โดยที่ไม่ต้องมาสนตะพายกัน หรือเอาเชือกจูงจมูกกันแล้วลากจูงกันมา ใช่ไม่ใช่พี่น้อง

นี่คือสิ่งที่สอนพวกเรามา และเป็นสิ่งฝั่งอยู่ในจิตวิญญาณของพวกเราตลอดมา จิตวิญญาณที่มีไปตั้งแต่อากง อาม่า คุณปู่ คุณย่า อายุ 70-80 ไล่เรียงลงมาจนกระทั่งถึงคนรุ่นหนุ่มรุ่นสาวหรือแม้กระทั่งลูกเล็กเด็กแดง พี่น้องครับ การต่อสู้ของพวกเรา ไม่ใช่เพียงแค่เริ่มต้นเท่านั้นเองพี่น้อง การต่อสู้ของพวกเราจะไม่มีวันสิ้นสุดใช่ไม่ใช่พี่น้อง

เราลุกขึ้นมาสู้เพื่อลูกหลานเราใช่ไหมพี่น้อง เมื่อสู้แล้ว ถึงลูกถึงหลานเราเขาต้องสู้เพื่อต่อลูกหลานของเขาต่อไป ใช่ไม่ใช่ และสิ่งที่เขาสู้นั้นคืออะไร ถ้าไม่ใช่สู้เพื่อคุณงามความดีใช่ไหม เราสู้เพื่อส่วนรวม เราสู้เพื่อพระเจ้าอยู่หัว เราสู้เพื่อสถาบันกษัตริย์ เราสู้เพื่อให้ชาติเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้า ประชาชนกินดีอยู่ดี สังคมไทยมีความโปร่งใสมีความยุติธรรม คุณทำงานให้ชาติบ้านเมือง เสียสละ ซื่อสัตย์ และกล้าหาญ และเราสู้ให้ศาสนา มีการเคารพในพระธรรมวินัย รู้จักเคารพศาสนา รู้จักเข้าใจในศาสนา ไม่ใช่ใช้ศาสนาเป็นเครื่องมือ

และเราสู้ให้สถาบันกษัตริย์ให้มั่นคง ให้สถาบันกษัตริย์มีเสถียรภาพ ให้สถาบันกษัตริย์เป็นศูนย์รวมจิตวิญญาณของเรา เพราะฉะนั้นแล้วสิ่งที่เราสู้นั้นมันคือภารกิจศักดิ์สิทธิ์ และภารกิจศักดิ์สิทธิ์นั้นเปรียบเสมือนมรดกพี่น้อง มรดกซึ่งจะต้องส่งต่อไปชั่วลูกชั่วหลานไม่มีวันหมดวันสิ้น ใช่ไม่ใช่พี่น้องครับ

ในประวัติศาสตร์ ภาคเหนือตอนล่างศึกษาให้ดีๆ พี่น้อง ในประวัติศาสตร์ภาคเหนือตอนล่างจากพิษณุโลก พิดโลก รวมไปถึงสุโขทัย แพร่ น่าน นครสวรรค์ คืออะไรพี่น้อง คือด่านแรกของประเทศไทย ใช่ไม่ใช่ ที่จะป้องกันการรุกรานของพวกพม่าใช่ไหมพี่น้อง เพราะฉะนั้นแล้วพิดโลกคือเมืองประวัติศาสตร์ พิดโลกคือป้อมปราการที่จะปกป้องชาติบ้านเมือง เพราะฉะนั้น วันนี้พี่น้องภาคเหนือตอนล่างที่มาชุมนุมกันที่พิดโลกมีนัยยะทางประวัติศาสตร์ เรามาปักธงที่นี่เพื่อปกป้องไม่ให้ทักษิณและขบวนการเสื้อแดงบุกรุกเข้ามาในประเทศไทยเด็ดขาดครับพี่น้อง

พี่น้องชาวพิดโลกครับ และพี่น้องชาวภาคเหนือตอนล่างเบ็ดเสร็จรวม 9 จังหวัด การเมืองเมืองไทยได้เปลี่ยนไปแล้ว ตั้งแต่การมารวมตัวกันที่นี่ของพี่น้อง 9 จังหวัด พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมีจุดยืนที่ชัดเจน ถ้าพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะจัดงาน จะใช้ชื่อว่าพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเท่านั้นครับพี่น้อง ไม่มีชื่ออื่น พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยไม่มีเครือข่ายพี่น้อง มีแต่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยครับ ปรบมือให้ด้วยครับพี่น้อง

(หยุดปราศรัย เพราะผู้ชุมนุมบางรายกำลังปล่อยโคมลอย) พันธมิตรน่านบอกว่า กรุณาหยุดการจุดโคมลอยเพราะอันตราย หน้าร้อนไฟป่าลุกลามง่ายอยู่แล้ว ตกใส่หลังคาบ้านชาวบ้านจะเดือดร้อน เคยเจอมาแล้ว เดี๋ยวจะมากล่าวโทษพันธมิตรฯ อีก

 

พ่อแม่พี่น้องครับ วันนี้มาที่พิดโลกในฐานะคนแก่ที่อายุ 62 ขวบ อดไม่ได้ที่ย้อนระลึกถึงความหลัง เมื่อสมัยยังเด็กๆ อยู่ ที่นั่งรถไฟจากกรุงเทพฯ มายังพิดโลก แล้วรอรถที่จะต่อไปยังสุโขทัย จำแม่น 44 กิโลฯ พิดโลก-สุโขทัยไม่เคยผิด 44 กิโลฯ หยุดเทอมตอนอยู่อัสสัมชัญศรีราชานั่งรถเข้าไปสุโขทัยไปที่บ้านลุง ลุงซึ่งมีลูกชายคนโตชื่อ นพ.ศักดิ์ชัย ลิ้มทองกุล อดีต ผอ.โรงพยาบาลจุฬาฯ ตอนนี้เป็นเลขาธิการสภากาชาดไทยเป็นหนึ่งในแพทย์ที่รักษาองค์สมเด็จพระสังฆราช ญาณสังวร คนสุโขทัยครับพ่อแม่พี่น้อง คนภาคเหนือตอนล่าง อดไม่ได้ที่จะคิดถึง นายสุเทพ ลิ้มทองกุล ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรฯ ผู้เกษียณแล้ว ผู้ที่ปฏิเสธไม่ยอมทำตามนายเนวิน ชิดชอบ ที่กระทรวงเกษตรฯ และยอมเกษียณอายุในตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรฯ คนสุโขทัยครับพี่น้อง อดคิดถึง นพ.บุญเลิศ ลิ้มทองกุล อดีตสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก 6 ปี ครับ คนพิดโลกและคนสุโขทัย

อดไม่ได้ที่จะคิดถึงดวงวิญญาณสมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเอกาทศรถ และสมเด็จพระพี่นางสุพรรณกัลยา อดคิดไม่ได้ถึงการเสียสละขององค์ราชันในอดีต ที่ยอมถูกจับไปเป็นตัวประกัน ต่อสู้เพื่อชาติบ้านเมือง กลับมากู้ชาติ กู้บ้าน กู้เมือง อดคิดถึงประวัติศาสตร์ช่วงนั้นไม่ได้ และคิดมาว่าประวัติศาสตร์ช่วงนั้นทำไมมันกลายเป็นความจริงขึ้นมาได้ในวันนี้ที่เวทีพันธมิตรฯ ภาคเหนือตอนล่างครับพี่น้อง

ถ้าใครสามารถจะมองเห็นจิตวิญญาณ คงเห็นดวงวิญญาณของพระองค์ดำลอยอยู่บนเวทีนี้ พวกเราที่นั่งอยู่ในที่นี้ชาติก่อน ภพก่อน ล้วนแล้วแต่เป็นทหารหาญของท่านทั้งสิ้นครับพี่น้อง

ย้อนหลังกลับไป 200-300 ปี พี่น้อง ตรงนี้จะเป็นทุ่งหญ้า พี่น้องที่นั่งอยู่ที่นี่ ล้วนแล้วแต่เป็นผู้ชายทั้งนั้น คนที่เป็นผู้หญิงชาติก่อนเป็นผู้ชาย ชาตินี้เกิดมาเป็นผู้หญิง ชาติโน้นคงจะขี่ช้างขี่ม้า ถือหอกถือง้าว พระองค์ดำนั่งอยู่ข้างบน แล้วพระองค์ดำท่านกำลังประกาศให้เตรียมตัวที่จะสู้รบ เพื่อกอบกู้เอกราชของชาติไทยครับพี่น้อง

อดจะคิดไม่ได้ว่าแถวสถานีรถไฟฯ ไอ้ 50-60 คนนั้นคือหน่วยสอดแนมพม่าเสื้อแดงครับพี่น้อง

พี่น้องครับ การเมืองใหม่ เราเคยพูดว่าสั้นๆ ง่ายๆ คือเสียสละ ซื่อสัตย์ และกล้าหาญ คนที่มาเล่นการเมือง ต้องเป็นคนที่เสียสละใช่ไหมพี่น้อง ใช่ ไม่ใช่ เสียสละยังไง เสียสละเพื่อส่วนรวม การเมืองไม่ใช่เรื่องการถ่ายทอดอำนาจที่ผัวถ่ายทอดให้เมีย หรือพี่ถ่ายทอดให้น้อง หรือพ่อถ่ายทอดให้ลูก ใช่ ไม่ใช่ พี่น้อง

การเมือง คือสิทธิที่คนจะต้องเข้าไปรับผิดชอบกับส่วนรวมคือพ่อแม่พี่น้อง ด้วยความเสียสละ และด้วยความซื่อสัตย์ใช่ไหมพี่น้อง ผมเข้าไปคารวะดวงวิญญาณของพระองค์ดำที่พระราชวังสนามจันทร์ ผมเข้าไป ผมมองเห็นวัตถุโบราณ อิฐสองสามก้อนที่เอามาก่อ ผมถามบอกว่าเมื่อไหร่จะเสร็จ เขาบอกไอ้อิฐที่เห็น เขาใช้งบประมาณไป 700 กว่าล้านบาท

พี่น้องครับ นี่ไม่ใช่การเมืองที่ซื่อสัตย์ใช่ไหมพี่น้อง เห็นหรือยังพี่น้อง แล้วการเมืองต้องกล้าหาญ ต้องกล้าหาญลุกขึ้นมาสู้ ต้องกล้าหาญลุกขึ้นมาพูด พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยทำอยู่ทุกวันนี้ คือการเมืองใหม่ทั้งสิ้น การเมืองใหม่ที่โปร่งใส การเมืองใหม่ที่เสียสละ การเมืองใหม่ที่ซื่อสัตย์ และการเมืองใหม่ที่กล้าหาญ

พี่น้อง ถ้าจะเป็นการเมืองใหม่ในอนาคต พี่น้องรู้หรือเปล่า พี่น้องที่มาจาก 9 จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง ที่นั่งอยู่ในที่นี้ รวมทั้งอยู่ที่บ้านดู ASTV อยู่ ล้วนแล้วแต่เป็นหัวคะแนนของการเมืองใหม่ของเราทั้งสิ้นเลย ใช่ ไม่ใช่ พี่น้อง

นักสู้เรามีอยู่ 3 ประเภท ประเภทหนึ่งคือนักสู้ที่กล้าพอที่จะออกมาแสดงตัวอย่างพ่อแม่พี่น้องออกมา กล้องทีวีจับก็ไม่กลัว นักสู้ประเภทที่สอง คือนักสู้ที่นั่งอยู่หน้าจอทีวีแล้วก็สนับสนุน ออกมาพูดแต่ไม่มาชุมนุม นักสู้ประเภทที่สาม ซึ่งสำคัญมาก มีอยู่มากหลาย อย่าไปว่าเขา คือนักสู้ที่สนับสนุนเรา เห็นด้วยกับเรา แต่ไม่กล้าแสดงออกกลัวแม้กระทั่งจะใส่เสื้อสีเหลือง ไม่กล้าที่จะเดินไปแล้วแสดงตัว พี่น้องอย่าไปว่าเขา นักสู้ประเภทที่ 3 คือใคร คือประเภทที่เป็นพลังเงียบจริงๆ และเขาจะมีโอกาสแสดงการต่อสู้เขาวันไหน เขาต้องแสดงการต่อสู้วันที่เขาเข้าคูหาเลือกตั้งและก็กาว่าจะเลือกพรรคไหน ใช่ไม่ใช่พี่น้อง นักสู้พวกนี้มีจำนวนมหาศาลขอให้เชื่อผมพี่น้อง

เพราะฉะนั้นแล้ว อย่าประมาทพลังของการเมืองใหม่ เพราะการเมืองใหม่ของเรานั้นรวมนักสู้ทั้งสามประเภทใช่ไหม ประเภทแรกคือประเภทที่นั่งหน้าสลอนอยู่นี่ ที่ไม่กลัว ไม่กลัว ที่ไม่กลัวที่จะเดินไปตามตลาดห้างร้านแล้วบอกว่าต้องเลือกการเมืองใหม่แบบนี้ ต้องเลือกการเมืองใหม่แบบนี้ ไม่กลัว ประเภทที่สอง ก็คือไม่เดินตลาดห้างร้าน แต่พูดกับทุกคนที่เข้ามาหาตัว ประเภทที่สาม คือ พลังเงียบที่ไม่ช่วยพูดกับใครทั้งสิ้น แต่ตัดสินใจในใจ ถ้ากูกาบัตรเลือกตั้ง กูต้องกาการเมืองใหม่

พี่น้องครับประเดี๋ยวพี่สมศักดิ์จะขึ้นมาบอกว่าการเมืองใหม่คืออะไร การเมืองใหม่คือ "เทียนแห่งธรรม" พี่น้องจำเอาไว้ พี่น้องจำเอาไว้ "เทียนแห่งธรรม" คือการเมืองใหม่ เพราะเราเอาธรรมนำหน้าใช่ไหมพี่น้อง ที่เราสู้มาตั้งแต่ปี 2548 จนถึงวันนี้ เราสู้ชนะเพราะเราเอาธรรมนำหน้าครับพี่น้อง

พระองค์ดำสู้ชนะก็เพราะพระองค์ดำใช้ธรรมนำหน้า ไม่ได้แปลว่าเราจะกลัวศัตรูใช่ไหมพี่น้อง สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงเป็นมหาราชซึ่งศึกษาธรรมอย่างลึกซึ้ง ศึกษาพระธรรมคำสอนอย่างลึกซึ้งเป็นศิษย์เอกของพระมหาเถรคันฉ่อง เป็นศิษย์เอกของพระวันรัตน์ เพราะฉะนั้นแล้วเมื่อเราสู้ด้วยการเอาธรรมนำหน้า เราชูธงแห่งธรรม ในที่สุดแล้วธงแห่งธรรมของเราก็เลยเป็น "เทียนแห่งธรรม" เพราะว่าเราจุดเทียนไปแล้วเล่มหนึ่งเมื่อ 2548 วันนี้ เทียนลุกโชติช่วงชัชวาลไปทั่วประเทศไทยแล้ว พี่น้อง เพราะฉะนั้น การเมืองใหม่ของเราคือ "เทียนแห่งธรรม" พี่น้องจำเอาไว้ ไม่ใช่ชื่ออื่น "เทียนแห่งธรรม" เท่านั้นครับพี่น้อง

พี่น้องครับ พูดนานไม่ได้ เพราะยังปวดขาขวาอยู่ ปวดมากพี่น้อง ก่อนที่จะลงจากเวที ผมจะฝากพี่น้องทางภาคเหนือตอนล่างเอาไว้ว่า ในขณะที่อุดรธานีคือจุดเริ่มแรกของการปักธงอีสาน พี่น้องภาคเหนือตอนล่าง 9 จังหวัด ต้องภูมิใจกับตัวเองว่าพิดโลกคือจุดที่ปักธงทางภาคเหนือจังหวัดแรกครับพี่น้องครับ

 

(ผู้ชุมนุมยืนขึ้นปรบมือ และโห่ร้อง)

 

ก่อนจะกลับไป ผมขอฝากความแค้นไว้อย่างหนึ่ง งวดหน้ามา "พั้งกี่" จะไม่หลุดมือผมแน่นอน เพราะงวดนี้ตั้งใจจะมากินตับผัดพริก แต่ดันต้องไปกินข้าวที่นครสวรรค์ เพราะฉะนั้นแล้วความแค้นนี้จะมาชำระงวดหน้าเมื่อมาพิดโลก จะมากินข้าวมันไก่ "พั้งกี่" พี่น้องเอ้ย พี่น้องเอ้ย พี่น้องเอ้ย

 

 

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

[1] จักรภพปราศรัย 26 กุมภาพันธ์ 2552, หัวไม้ ใน prachatai blogazine, 28/2/52 http://blogazine.prachatai.com/user/headline/post/1792

[2] การแก้ไขปัญหาเขาพระวิหารแบบ "สนธิ ลิ้มทองกุล" 31/7/51 http://www.prachatai.com/05web/th/home/13011

[3] "ธรรมยาตรา" ปีนรั้วข้ามฟากถูกทหารกัมพูชาคุมตัว, 16/7/51

http://www.prachatai.com/05web/th/home/12853

[4] ชาตินิยมพ่นพิษ ม็อบชาวไทยปราศรัยไล่ชาวกัมพูชาพ้นเชิงเขาพระวิหาร, 13/7/51 http://www.prachatai.com/05web/th/home/12824

[5] ฮุน เซนส่งสารขอสมัครสั่งถอนทหาร ชาวบ้านหวั่นเกิดสงครามรอบสอง, 18/7/51 http://www.prachatai.com/05web/th/home/12880

[6] เขมรปะทะไทยทหารพรานเจ็บ 4 เชิญทูตทหารเขมรมาประณาม, 15/10/51 http://www.prachatai.com/05web/th/home/14104

[7] รายงาน : พิพาทเขาพระวิหาร "เขาทำตรงนั้นแล้วกลับกรุงเทพฯ แต่พวกผมต้องอยู่หลบลูกปืน", ภาพันธ์ รักศรีทอง 14/10/51 http://www.prachatai.com/05web/th/home/14086

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net