Skip to main content
sharethis


9 ธันวาคม 2551 นายวีระ มุสิกะพงษ์ หนึ่งในผู้ดำเนินรายการความจริงวันนี้ และหนึ่งในแกนนำกลุ่มเสื้อแดง ได้บรรยายประเด็นเรื่องสถานการณ์การเมืองไทย ให้กับผู้สื่อข่าวต่างประเทศที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศประจำประเทศไทย โดยมีผู้สื่อข่าวเข้าฟังการบรรยายประมาณ 90 คน ทั้งนี้ ได้มีการแลกเปลี่ยนและซักถามประเด็นปัญหาการเมืองไทยโดยมีนาย จตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ และนายก่อแก้ว พิกุลทอง ทีมผู้ดำเนินรายการความจริงวันนี้ ร่วมตอบคำถาม


โดยวีระ และทีมพิธีการรายการความจริงวันนี้ บรรยายและตอบคำถามผู้สื่อข่าวต่างประเทศกว่า 90 ชีวิต ในหัวข้อ "The State of Politics and the Way Forward for Thailand" โดยผู้สื่อข่าวต่างประเทศตั้งคำถามต่อประเด็นข้อสงสัยหลักเช่น กลุ่มเสื้อแดงต่อต้านสถาบันกษัตริย์จริงหรือไม่ และเหตุใดจึงปล่อยให้ทักษิณยังคงแสดงบทบาทสำคัญ พร้อมข้อซักถามถึงแนวทางต่อไปของคนเสื้อแดง และเนื้อหาการโฟนอินของทักษิณในวันเสาร์ที่ 13 ธ.ค. นี้  


ทั้งนื้ การดำเนินการบรรยายและซักถามแลกเปลี่ยนดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมการเสวนาในประเด็นสำคัญของสถานการณ์ของประเทศไทยและสถานการณ์โลกในขณะนั้น ซึ่งสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศได้จัดขึ้นเป็นประจำทุกวันอังคาร โดยผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่เป็นสมาชิกของสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศประจำประเทศไทย


 


ช่วงที่ 1 วีระ มุสิกพงษ์ คำให้การจากดาวอับแสง 


"พรรคประชาธิปัตย์และคุณอภิสิทธิ์ต้องตอบประชาชนก่อน ว่าจะจัดการอย่างไรกับพันธมิตรฯ ที่ไปปิดสนามบินหรือไม่ คำถามนี้ก็ไม่เว้นสำหรับคนที่จะมาเป็นนายกฯ ซีกที่มีพรรคเพื่อไทยมาเป็นแกนนำ ซึ่งถ้าหากว่าต่างคนต่างก็ไม่มีใครรับผิดชอบแล้ว ผมยินดีที่จะบอกท่านทั้งหลายว่า คนเสื้อแดงจะไม่ยอม"


 



ท่านผู้มีเกียรติที่รักและเคารพทั้งหลาย ผมดีใจมากที่ท่านให้เวลาสำหรับผมได้พูดก่อนในตอนแรก15 นาที เพราะว่าถ้าให้พูดมากไปกว่านั้นคงจะไม่มีเรื่องจะพูดแล้ว เรื่องของบ้านเมือไทยเราไม่ใช่เรื่องยาวอะไรหรอกครับ แต่ถึงกระนั้นผมก็ต้องขอนุญาตจะเริ่มต้นว่า สโมสรของพวกคุณนี่เป็นที่สำหรับดับดาวรุ่ง ผมเองไม่กลัวการดับดาวรุ่งหรอกครับ เพราะว่าผมเป็นดาวที่ดับแล้ว ผมดับมาหลายปี เวลานี้ฐานะผมเป็นผู้ดู ผู้เห็นคนหนึ่งเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามแต่ ต้องขออนุญาตเล่าความหลังเล็กน้อย ประการที่หนึ่งผมเป็นตัวละคคนหนึ่งในเหตุการณ์การเปลี่ยนแปลงการเมืองไทยเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2516 และเวลานั้นผมยังเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พร้อมๆ กับที่เป็นผู้สื่อข่าวของหนังสือพิมพ์สยามรัฐ และเป็นตัวละครในเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ในครั้งนั้นผมเป็นรัฐบาลที่ถูกทหารเข้าทำรัฐประหาร หลายปีตอมา ผมก็เป็นตัวละครสำคัญอีกในเหตุการณ์พฤษภาคมทมิฬ 2535 ผม จตุพร และ พล.ต. จำลอง ศรีเมือง อยู่บนถนนหลายวันหลายคืนด้วยกัน ในครั้งนั้นเราสูกับคณะทหาร รสช. และประเด็นที่เราสู้กันก็คือเราอยากให้รัฐธรรมนญบอกว่า นายกฯต้องเป็น ส.ส. เท่านั้น ในขณะที่คณะทหารมีความเห็นว่านายกรัฐมนตรีมาจากใครก็ได้ที่สภาฯ สนับสนุน แต่ว่า วันนี้เรากำลังขัดแย้งกับจำลอง เพราะจำลองกำลังเรียกร้องหานายกรัฐมนตรีที่มาจากใครก็ได้แบบที่สุจินดาต้องการ แต่พวกผมยังยืนหยัดและยืนยันว่านายกรัฐมนตรีต้องมาจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเท่านั้น


ทีนี้จะพูดถึงสถานการณ์ปัจจุบัน แต่ปัจจุบันของผมขอให้เริ่มตั้งแต่ปี 2549 และขอให้เริ่มตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน ครั้งที่มีการรัฐประหารโดยคุณสนธิ บุณยรัตกลิน ในความเห็นผมเห็นว่าก่อนหน้านั้นประเทศไทยปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย หลังวันที่ 19 กันยายน 2549 ผมคิดว่าประเทศไทยปกครองด้วยเผด็จการทหาร รัฐบาลของพล.อ.สุรยทธ์ จุลานนท์ ก็ดี สภานิติบัญญัติแห่งชาติที่ตั้งโดยคณะ คมช. ก็ดี และสำร่างรัฐธรรมนูญ จนที่สุดแล้วทำรัฐธรรมนูญขึ้นมาสำเร็จเป็นกฎหมาย รวมทั้งองค์กรอิสระต่างๆ ที่มีประกอบรัฐธรรมนูญทั้งหมดทุกองค์กร ในความเห็นของผมเป็นเครื่องมือของเผด็จการทหารทั้งหมดทั้งสิ้น และเพื่อพิสูจน์ว่าผมพูดแล้วผมก็ได้ทำตามนั้น ผมก็ได้ทำการต้านรัฐประหารตั้งแต่วันที่ 20 กันยายนเป็นต้นมา พวกผมชุมนุมกันที่ท้องสนามหลวงเกือบจะตลอดปี 2550 เราเริ่มรู้จักเสื้อแดง ใส่เสื้อแดงกัน เพราะว่าเราต้องการบอกให้ประชาชนคนไทยไม่รับรัฐธรรมนูญฉบับนี้ แต่ว่าเมื่อถึงวันลงประชามติ มีคนรับรัฐธรรมนูญฉบับนี้ 14 ล้าน คนไม่รัยคือคนพวกใส่เสื้อสีแดง 11 ล้าน ผมก็ต้องถือว่าเมื่อประชาชนส่วนใหญ่รับเราก็ต้องรับตามไป แต่เราพยากรณ์ล่วงหน้าไว้แล้วว่าหลังการเลือกตั้งจะต้องมีรัฐบาลที่มาจากกการบงการของคณะทหารเหมือนเดิม เพราะว่าเขาได้วางแผนไว้โดยแยบยลไว้ในกฎหมายต่างๆ หลายฉบับ และบางครั้งพล.อ. สนธิ บุณยรัตกลินก็เป็นเป็นคนพูดเองอย่างเปิดเผย


 


ดังนั้นเมื่อมีการเลือกตั้งในวันที่ 23 ธ.ค. 2550 ผลการเลือกตั้งทำให้คณะทหารต้องผิดหวังเป็นอย่างยิ่ง เพราะว่าพรรคพลังประชาชนที่ทหารต้องการให้หายไปจากโลกนี้ กลับได้ ส.ส.มาถึง 233 คน พรรคขวัญใจของคณะทหารก็คือพรรคประชาธิปัตย์ได้ลำดับ 2 เพราะได้มาเพียง 164 ที่นั่ง ความฝันของคณะทหารที่จะตั้งรัฐบาลเองก็พังทลายครืนลงไป   ทั้งนี้ด้วยเหตุ 2 ประการ 1. พรรคพลังประชาได้เสียงมาเป็นอันดับหนึ่ง 2. สมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน เป็นบุคลากรที่มีความสำคัญทางการเมืองมาก ดังนั้นเขาจึงมีโอกาสจัดตั้งรัฐบาล แต่แล้วคณะทหารก็ไม่สิ้นความพยายามที่จะโค่นล่มรัฐบาลของประชาชน คุณสมัครก็เป็นอันต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไปเพราะไปเข้าครัวผัดข้าวผัด อันนี้กฎหมายเขียนไว้ว่านายกรัฐมนตรีไทยห้ามเอาตะหลิวกะบกระทะมาพบกัน คุณสมัครพ้นจกตำแหน่งไปแล้วก็ได้คุณสมชายมาเป็นนายกรัฐมนตรีต่อ คุณสมชายไม่ใช่นักการเมือง เพราฉะนั้นมันเป็นเรื่องง่ายยิ่งกว่ากินขนมที่จะโค่นล้มคุณสมชาย


 


รัฐบาลคุณสมชายก็เป็นอันล้มลงไป แล้วก็เพื่อให้สมบทบาทก็ยุบพรรคการเมืองอื่นไปเสียด้วย แล้วก็ตัดสิทธิทางการเมืองกรกรรมการพรรคเหล่านั้นคนละ 5 ปี ดังนั้นเราต้องรออีก 5 ปีจึงจะได้กับบรรหารอีกครั้งเมื่อแกอาบยุ 81 ตอนนั้นแกก็คงจะพยายามมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง แต่ว่าอย่างก็แล้วแต่รัฐบาลประเทศก็ว่างรัฐบาลไม่ได้ สถานการณ์ปัจจุบันจึงเป็นสถานการณ์ที่คนไทยกำลังตั้งรัฐบาลกันรอย่างสนุกสนานมาก มีการจับขั้วกันสองขั้ว ขั้วประชาธิปัตย์ก็บอกว่ามี ส.ส. มากมาย 260 คน ขั้วที่ 2 คือเพื่อไทยก็บอกว่าตัวเองก็มี ส.ส. จำนวนเท่าๆ กัน ถ้าเราเชื่อสองพรรคนี้ก็แสดงว่าเรามี ส.ส. เกือบพันคนแล้ว เป็นปัญหาที่ประชาชนคนไทยกพลังปวดหัวเป็นอย่างยิ่ง แต่ในระหว่างที่ยังไม่มีการเปิดสภาเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี คุณจตุพร พรหมพันธุ์เพื่อนผม ได้ออกมาเสนอข้อมูลให้คนไทยได้ทราบว่า คุณอภิสิทธิ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ยังไม่ผ่านการเกณฑ์ทหาร ดังนั้นก็ไม่น่าจะมีสิทธิมาเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศนี้ได้


 


คุณอภิสิทธิ์ก็มาชี้แจงว่าคุณอภิสิทธิได้มาสมัครเพื่อเป็นอาจารย์ใน ร.ร.นายร้อย จปร. และได้แสดงภาพถ่ายที่แต่งตัวเป็นทหาร แต่คุณจตุพรได้เสนอหลักฐานการสอบสวนของทางราชการของกองทัพบกพบว่า การที่คุณอภิสิทธิ์ไปสมัครเป็นทหารนั้นได้ใช้หลักฐานราชการอันเป็นเท็จ และผลการสอบสวนนั้นได้ลงโทษข้าราชการระดับสูงหลายคนด้วยกัน ปัญหาอยู่ที่ว่าคุณอภิสิทธิเองกลับไม่ถูกดำเนินคดีทางอาญา เรายังสงสัยอยู่ว่ามีใครเก็บเรื่องนี้ไว้ในลิ้นชัก เพราะเมื่อสืบไปแล้วตอนนั้นคนที่เป็นนายกฯ และรมต. กลาโหมชื่อชวนหลีกภัย และผู้บัญชาการทหารบกคือ พล.อ. สุรยุทธ์ จุลานนท์ เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่จะต้องมีการชี้แจงและตอบคำถามให้กับประชาชนคนไทย เพราะว่าคนไทยไม่ต้องการให้คนที่หนีการเกณฑ์ทหารมาเป็นนายกฯ  


 


แต่ดังที่ท่านทั้งหลายทราบดีอยู่แล้วว่า รัฐบาลที่จะตั้งโดยพรรคประชาธิปัตย์นั้นมีทหารสนับสนุน เมื่อวานนี้ผมอ่านข่าวบีบีซี และเอพี สองข่าวตรงกัน ไม่ทราบว่าท่านจะมีใครยืนยันให้ผมได้หรือไม่ ถ้าไม่มีใครยืนยันผมอาจจะต้องติดคุกอีกครั้งหนึ่ง อย่างไรก็ตามแต่ผมต้องบอกท่านในวันนี้ว่ายังไม่มีความแน่นอนว่าพรรคประชาธิปัตย์จะได้เป็นแกนนำก่อตั้งรัฐบาล ยังมีการต่อสู้กันอีกหลายวันในการดึงตัว ส.ส. และที่สำคัญ คุณอภิสิทธิเองและพรรคประชาธิปัตย์ ยังมีเรื่องที่ จะต้องตอบคำถาประชาชนสำคัญอยู่อีก 2-3 เรื่อง คือ 1. เขาต้องตอบว่าถ้าเป็นรัฐบาลแล้วจะแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ทันทีหรือไม่ 2. เขาจะต้องตอบประชาชนว่าเขาจะดำเนินการอย่างไรกับแกนนำของพันธมิตรฯ ที่ไปยึดสนามบิน ผมฟังมาว่าการที่เอาจำนวนประชาชนมากๆ ทำให้เกิดความเดือดร้อนทั้งในประเทศและชาวต่างประเทศ ผมทราบว่านี่เป็นการก่อการร้ายซึ่งเป็นความผิดที่สำคัญอย่างยิ่ง แต่ผมอายต่อท่านทุกคนที่มาในที่นี้ที่ยังไม่มีใครแจ้งความจับคนพวกนั้น เวลานี้เขายังไปเที่ยวจัดงานฉลองของเขาอยู่ตามผับบาร์ต่างๆ ว่าเขาสามารถยึดสนามบินนานาชาติได้ ซึ่งผมอายมาก และรัฐบาลรักษาการก็ยังไม่ลงมือทำอะไร


 


วันนี้เอง (9 ธ.ค.) ก็ได้มีรายงานไปยังคณะรัฐมนตรีในการประชุม รายงานนั้นบอกว่าในทำเนียบรัฐบาลที่พันธมิตรฯ ถอนตัวออกไปแล้วนั้น มีอาวุธมากมายหลายชนิด ตั้งแต่ระเบิด ปืน ของแหลม และยาเสพติด ซึ่งหวังว่าท่านจะได้ดูจากโทรทัศน์บ้างแล้ว แต่ว่าแกนนำของพันธมิตรฯ ก็ยังไม่ถูกจับดำเนินคดีแต่ประการใด ซึ่งผมยังสงสัยอยู่ว่าเจ้าหน้าที่บ้านเมืองที่เขารับผิดชอบตั้งแต่ตำรวจและทหารเขาคิดอะไรกันอยู่


 


วันที่พันธมิตรฯ ไปยึดสนามบินสุวรรณภูมิ ตำรวจ ผู้ว่าการท่าฯ และเจ้าหน้าที่สุวรรณภูมิ ได้ร้องขอกำลังทหารให้ไปช่วยป้องกัน ไม่มีคำตอบจนกระทั่งพันธมิตรฯ ยึดสนามบินได้ ทั้งหมดนี้ พรรคประชาธิปัตย์และคุณอภิสิทธิ์ต้องตอบประชาชนก่อน ว่าจะจัดการอย่างไรกับพันธมิตรฯ ที่ไปปิดสนามบินหรือไม่ คำถามนี้ก็ไม่เว้นสำหรับคนที่จะมาเป็นนายกฯ ซีกที่มีพรรคเพื่อไทยมาเป็นแกนนำ ซึ่งถ้าหากว่าต่างคนต่างก็ไม่มีใครรับผิดชอบแล้ว ผมยินดีที่จะบอกท่านทั้งหลายว่า คนเสื้อแดงจะไม่ยอม เรานัดชุมนุมกันในวันที่ 13 ธ.ค. ที่สนามศุภชลาศัย ท่านทั้งหลายไม่ควรพลาดในการนี้และควรจะใส่เสื้อแดงไปด้วยกัน


 


นี่คือปัญหาการเมืองทีเกิดขึ้นในประเทศไทย เพราะท่านทั้งหลายคงจะได้ฟังท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้ตอบกระทู้ใสภาแล้ว เขาตอบกระทู้ถามในสภาว่า ไม่สามารถจัดการกับม็อบพวกนี้อย่างเด็ดขาดได้ เพราะเป็นม็อบทีเส้น ซึ่งผมก็กำลังเที่ยวตามหาเส้นนั้นอยู่ว่ามันอยู่ตรงไหน แต่ว่าคนไทยที่เป็นคนรากหญ้ารู้กันหมดแล้วว่าม็อบมีเส้นนั้นคืออะไร ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรจะพูดมากไปกว่านี้ เพราะผมไม่อยากจะเป็นจักรภพ เพ็ญแข


 


ช่วงที่ 2  ถาม-ตอบ


 


ณัฐวุฒิ "ผมยังมีความรู้สึกว่ากลไกอำนาจของ คมช. ยังมีอยู่ และพวกเขาก็ยังไม่หยุดเคลื่อนไหวที่จะทำให้อำนาจในการบริหารประเทศนี้เป็นไปอย่างที่เขาต้องการ แต่บังเอิญประเทศนี้ยังมีประชาชน และประชาชนในประเทศนี้ก็รักประชาธิปไตย"


จตุพร คนเสื้อเหลือง ความจริงแล้วมีจำนวนน้อยกว่าคนเสื้อแดงมาก แต่ที่ดูว่ามีพลังนั้นเนื่องจากคนเสื้อเหลืองมีความรู้สึกว่า ถ้าไปทำผิดกฎหมายไทยแล้วกฎหมายไทยไม่อาจจะเอาผิดกับพวกตนเองได้ เพราะฉะนั้นจึงเกิดอาการได้ใจ และมีความเชื่อว่าผู้สนับสนุนตนเองนั้นมีอิทธิพลมากพอ


วีระ "เราคิดว่าอำนาจเดียวเท่านั้นที่จะสู้กับอำนาจมืด สิ่งเดียวที่จะสู้ได้คือประชาชน มวลชนเท่านั้นที่นำการต่อสู้ให้ปลอดภัย ดังนั้นเรามีความจำเป็นที่จะต้องทำความเข้าใจกับมวลชนมหาศาล"


 


ทำไมจึงเลือกใช้สีแดง


เพราะว่ามันตรงข้ามกับสีเหลือง ไม่มีอะไรลึกซึ้งไปกว่านั้นเลย ความจริงเราพยายามเลือกสีอื่น แต่ไม่มีสีไหนเด่นเท่ากับสีแดง แต่มีเหตุผลลึกๆ อีกประการหนึ่งคือว่า คนผิวดำมักจะชอบสีแดง


 


ผู้คนจำนวนมาได้รับอิทธิพลความเกลียดชังจากการเคลื่อนไหวของฝ่ายเสื้อแดง ในฐานะผู้ดำเนินรายการความจริงวันนี้ มีวิธีการจัดการหรือป้องกันความเกลียดชังถูกสร้างโดยฝ่ายเสื้อแดงอย่างไร


เรายังมีความปรารถนาที่จะขยายจำนวนออกมาให้เต็มประเทศ และเราไม่พยายามจะทำผิดกฎหมาย ผมได้พยายามขอร้องไปทุกจุดที่เราสามารถพูดถึงกันได้ว่าขอให้เราชุมนุอย่างสงบ สันติ และปราศจากอาวุธ เพราะว่าจำนวนที่มาก แต่สงบและปราศจากอาวุธจะมีพลังที่จะผลักดันได้เหมือนกัน


 


แต่ผมยอมรับว่า เสื้อสีแดงในต่างจังหวัดไม่ค่อยจะฟังผมเท่าไหร่ มีการตบตีกันบ้างเล็กน้อยพอหอมปากหอมคอ ซึ่งอย่างไรก็ตามเราก็พยายามขอร้องติดต่อไปโดยตรงว่าให้งดเว้นการกระทำที่ผิดกฎหมายทั้งปวง เพราว่าเราต้องการจะสร้างประชาธิปไตยในบ้านเราด้วยวิธีการสันติเช่นนี้ ท่านจะเห็นว่าเราชุมนุมใหญ่ครั้งที่ 1 ที่ ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี ชุมนุมครั้งที่ 2 ที่ราชมังคลากีฬาสถาน ซึ่งมีคนมาเป็นแสน ไม่มีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งทุกสิ่งทุกอย่างเรียบร้อยหมด ไปครั้งที่สามที่วัดสวนแก้วนนทบุรี ก็สงบเรียบร้อย เราะหวังว่าที่สนามศุภชลาศัยในวันที่ 13 ก็จะเป็นเช่นเดียวกัน และเราเชื่อว่าในต่างจังหวัดก็น่าจะลดความรุนแรงและการปะทะกันลงได้แล้ว


 


ในวันที่ 13 คุณทักษิณ จะโฟนอินเข้ามาในการชุมนุม เป็นไปได้ไหมที่เขาจะประกาศบางอย่าง เช่น การกลับมาสู่เวทีการเมืองไทย จะเกิดอะไรขึ้นจากการโฟน อินของคุณทักษิณ ในวันที่ 13


วีระ ผมได้คุยกับคุณทักษิณบ้างคุณทักษิณจะเล่าความจริงบางอย่างที่คนไทยยังไม่รู้ ตอนทีแกยังเป็นนายกรัฐมนตรีแกถูกลอบสังหารกี่ครั้ง หลังรัฐประหารแล้วมีใครทำอะไรอย่างไร คุณทักษิณคงอยากจะเล่าให้คนได้ฟังและได้ทราบอย่างชัดเจนว่าจริงๆ แล้วผู้ที่คิดปองร้ายรัฐบาลของคุณทักษิณคือใคร  และแน่นอนคุณทักษิณก็ต้องการที่จะให้ประชาชนคนไทยส่วนใหญ่ท่าเราเรียกว่ารากหญ้าขึ้นมาสนับสนุนแนวทางของคุณทักษิณ แต่ผมเชื่อมันว่าคุณทักษิณจะไม่ยุยงให้ประชาชนลุกขึ้นใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหา


ขอถามคุณณัฐวุฒิ เรื่องการยึดสนามบิน ในสายตาของคุณ และในสายตารัฐบาล เกิดอะไรขึ้น


ณัฐวุฒิ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกิดขึ้นในเวลาที่นายกรัฐมนตรีไม่อยู่ในประเทศไทย และมอบหมายในรองนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่แทน ซึ่งก็ได้พูดคุยกับรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง รวมทั้งผมด้วย เพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์ พันธมิตรฯ ประกาศว่านี่คือการต่อสู้ครั้งสุดท้ายของสุดท้าย แต่เราก็ไม่มีใครคิดว่าครั้งสุดท้ายที่ว่าคือการบุกเข้ายึดสนามบินสุวรรณภูมิ เขาเริ่มต้นโดยการปิดล้อมอาคารรัฐสภาเพื่อขัดขวางไม่ให้สมาชิกของรัฐสภาเข้าประชุมได้ เมื่อสำเร็จก็ย้ายไปปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลชั่วคราวที่สนามบินดอนเมือง ซึ่งช่วงเวลานั้นรองนายกรัฐมนตรีที่รักษาการ กำลังนัดประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อหารือถึงการแก้ไขปัญหา แต่กลุ่มพันธมิตรฯ กลับเข้ามาปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลได้อย่างง่ายดาย ผมมีความรู้สึกว่าเขามากันแบบนักท่องเที่ยวคือรถบัสมาจอดที่หน้าประตู ลงจากรถก็ปิดล้อมทำเนียบชั่วคราวเลย เราได้รับรายงานเมื่อตอนที่เขามากันแล้ว 2 คันรถบัส ทั้งหมดจึงต้องรีบออกจากทำเนียบชั่วคราว รวมทั้งผมด้วยเพราะว่าผมก็ไม่อยากรอเจอคุณสนธิและคุณจำลอง หลังจากนั้น คนกลุ่มนี้ก็เคลื่อนไปปิดล้อมสนามบินสุวรรณภูมิ ผมโทรศัพท์คุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตลอดเวลา มีกำลังตำรวจไปพยายามป้องกันขัดขวางจำนวนหนึ่งโดยไม่มีอาวุธ แต่ทุกท่านคงไม่เชื่อ ไม่มีใครเห็นกำลังทหารเลย ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมเข้าปิดล้อมสนามบินสุวรรณภูมิได้อย่างง่ายดาย ผมกำลังคิดอยู่กับตัวเองว่า เราอาจจะเห็นกำลังทหารเป็นกองทีพกติดอาวุธเต็มอัตรา เพียงเพราะว่าคนกลุ่มนั้นใส่เสื้อสีแดง แต่พอเขาใส่เสื้อสีเหลือง เราจึงไม่เห็นคนใส่เสื้อสีเขียว (เสียงหัวเราะจากผู้ฟัง) แล้วเราก็สูญเสียสนามบินสุวรรณภูมิไป นี่คือสิ่งทีเกิดขึ้นแล้วรัฐบาลก็พยายามจะแก้ไข ปัญหาตลอดเวลา มีการประกาศภาวะฉุกเฉินหลังจากนั้นไม่นาน โดยหวังว่าจะได้มีกำลังตำรวจและทหารเข้าคลี่คลายสถานการณ์ แต่ก็เช่นเดิม เราเห็นกำลังทหารออกมาน้อยมาก เพียงแค่ 2 กองร้อยเท่านั้นเอง ประกาศภาวะฉุกเฉินที่ว่าจึงเป็นภาวะฉุกเฉินของรัฐบาล เพราะหลังจากนั้น ผู้บัญชาการทหารบกก็ออกโทรทัศน์เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรียุบสภา  แน่นอนที่สุดคุณสมชาย วงษ์สวัสดิ์ก็ไม่ปฏิบัติตามข้อเรียกร้องนั้น แต่ในที่สุดคุณสมชายก็พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอยู่ดี ที่เล่ามาทั้งหมดนี้ก็เพื่อจะยืนยันว่ารัฐบาลของประเทศไทยไม่เห็นด้วยและไม่มีความคิดที่จะยินยอมให้ใครก็ตามบุกเข้ายึดสนามบินให้เกิดความเยหายกับทั้ง ในและระหว่างประเทศ  รัฐบาลไทยพยายามอย่างที่สุดในการบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาดในการจัดการกับผู้ชุมนุมที่ละเมิดกฎหมาย แต่มันเป็นความจริงที่เจ็บปวดที่จะต้องยอมรับกับทุกท่านว่า รัฐบาลถือกฎหมายอยู่ในมือ แต่เราไม่สามารถสั่งการคนที่ทำหน้าที่รักษากฎหมายได้อย่างเต็มที่


 


และนี่คือสิ่งที่เรากำลังอธิบายต่อคนไทยและสังคมโลกว่าขณะนี้กำลังมีการรัฐประหารเงียบในสังคมไทย  ผมยังมีความรู้สึกว่ากลไกอำนาจของ คมช. ยังมีอยู่ และพวกเขาก็ยังไม่หยุดเคลื่อนไหวที่จะทำให้อำนาจในการบริหารประเทศนี้เป็นไปอย่างที่เขาต้องการ แต่บังเอิญประเทศนี้ยังมีประชาชน และประชาชนในประเทศนี้ก็รักประชาธิปไตย เมื่อเขามีโอกาสที่จะแสดงออกทั้งในการเลือกตั้งหรือการแดสงออกอื่นๆ เขาก็จะปฏิเสธอำนาจเหล่านั้น แต่ขณะนี้ กำลังมีพรรคการเมืองบางพรรค อ้างเหตุความขัดแย่งของคนในประเทศ อ้างว่าสีเหลืองกับสีแดงทะเลาะกันก็เลยยอมให้สีเขียวอุ้มไปเป็นรัฐบาล นี่คือความจริงวันนี้


 


1 รัฐสภาและนิติรัฐเป็นพื้นฐานของประชาธิปไตย แต่กลุ่มเสื้อแดงกำลังนำเอาพื้นที่การเมืองไปยังท้องถนนหรือเปล่า


2 ประเด็นเรื่อง "มือที่มองไม่เห็น" คุณทักษิณเองก็รู้ ทำไมคุณจึงยังให้เขาแสดงบทบาทสำคัญต่อกลุ่มคนเสื้อแดง


วีระ ข้อที่ 1 ขออย่าวิตกว่าคนเสื้อแดงจะทำผิดกฎหมายอย่างคนเสื้อเหลือง เราจะไม่เป็นโจร เราจะไม่ทำสิ่งร้ายๆ ให้กับคนไทยเองและคนต่างประเทศตกอกตกใจ การชุมนุมของเราจะเป็นการชุมนุมที่สงบและปราศจากอาวุธ


 


ประการที่ 2 เรื่องคุณทักษิณ มันห้ามไม่ได้จริงๆ ที่จะให้คุณทักษิณมีอิทธิพลต่อคนไทย การที่เราอนุญาตให้คุณทักษิณ โฟนอินเข้ามาในการชุมนุมของเรา เหตุผลเพียงเพราะเห็นว่าเขาเป็นคนไทยคนหนึ่งที่มีสิทธิที่จะสื่อสารความติดต่อคนไทยด้วยกัน เขาจะผิดหรือจะถูก เราต้องให้กระบวนการยุติธรรมปกติว่ากันไป แต่คนไทยส่วนใหญ่อยากทราบ ว่าคุณทักษิณคิดอะไรและกำลังทำอะไร เพราะสิ่งที่คุณทักษิณทำไว้กับประชาชนคนไทยในเวลา 5 ปี เป็นสิ่งที่คนไทยไม่เคยประสบพบเห็นจากรัฐบาลอื่นมาก่อน มีผู้คนเสื้อแดงหลายคนที่มาแสดงตัวว่าเขามาชุมนุมเพราะอาศัยโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ถ้าเขาไม่ได้โครงการนี้เขาตายไปแล้ว เขามาเพราเหตุเช่นนี้ มีอีกหลายส่วนที่มาเพราะเห็นว่านโยบายของคุณทักษิณจะแก้ปัญหาความยากจนของเขาได้


 


ท่านคงจะยังไม่ทราบว่ามีคนไทยที่ไม่มีบ้านเป็นของตัวเองอยู่ประมาณ 900,000 ครอบครัว ไม่มีที่ดินทำกินเป็นของตัวเองประมาณ 1 ล้านครอบครัว ทักษิณประกาศไว้เมื่อสี่ปีก่อนโน้นว่าถ้าเขาเป็นรัฐบาลมาถึงปีนี้ คนจะมีที่ทำกิน คนจะมีบ้านเป็นของตัวเองครบ บังเอิญผมเองก็เชื่อเสียด้วยว่าเขาจะทำได้ และนี่คือสิ่งที่คนในประเทศไทยจะได้รับจากรัฐบาลแรกของประเทศไทย นับตั้งแต่เราเปลี่ยนแปลงการปกครองมา 77 ปี ดังนั้นต้องเห็นใจที่ว่าคุณทักษิณยังมีอิทธิพลต่อความคิดของคนไทยเป็นอย่างมาก และคงจะยังมีอิทธิพลต่อไปข้างหน้าอีกหลายปี ตราบใดที่เรามีนายบกรัฐมนตรีอย่างที่เรากำลังเห็นๆ ว่าแย่งกันเป็นอยู่นี่ ผมต้องขอให้ท่านผู้มีเกียรติได้เห็นใจคนไทยเถอะ คนไทยที่เป็นชาวนาชาวไร่ในชนบท ไม่เคยได้รับประโยชน์จากประบอบประชาธิปไตยที่เป็นรูปธรรม นอกจากเมื่อคราวที่รัฐบาลทักษิณเป็นนายกรัฐมนตรี


 


มีข้อกล่าวหาการเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดงนั้น มาเพราะถูกจ่ายเงิน  คุณช่วยตอบได้ไหมว่าคุณได้เงินมาจากไหน ใครบริจาคให้คุณ และคุณคิดว่าใครสนับสนุนการเงินพันธมิตรฯ และขอถามความเห็นกรณีที่บริษัทเหล่านั้นกำลังถูกบอยคอต


มีสองพวกครับ พวกหนึ่งคือพวกเสื้อเหลือง มีบริษัทต่างๆ สนับสนุนเขาเกือบร้อยราย มีบางบริษัทเป็นต่างชาติเสียด้วย แต่น้อยมาก ส่วนใหญ่เป็นคนไทย และได้มีประชาชนเริ่มไปร้องทุกข์กล่าวโทษต่อตำรวจ ให้ดำเนินคดีกับบริษัทเหล่านี้นานะผู้สนับสนุนผู้ก่อการร้าย  ซึ่งผมบอกท่านแล้วว่าถ้าไม่มีใครทำอะไรกับคนเหล่านี้เลย ผมทนไม่ได้ สำหรับพวกที่ 2 คือพวกเสื้อแดงก็มีการสนับสนุนเหมือนกัน แต่คนส่วนใหญ่ มาด้วยตนเอง มีคนส่วนน้อยประมาณไม่เกิน 30 เปอร์เซ็นต์ มาด้วยการสนับสนุนของคนทีเป็นส.ส. ในจังหวัดต่างๆ ในการชุมนุมเมื่อวันที่ 1 พ.ย. ที่ผ่านมา ที่สนามกีฬาหัวหมาก เมื่อทราบเรื่องเราได้ขอร้องว่าใครอย่าออกเงินให้คนมา เราอยากพิสูจน์ว่าเขามาด้วยตัวเขาเอ ง ออกค่าใช้จ่ายเองเขาจะมีจำนวนมากน้อยขนาดไหน และเขาก็มากันเต็มสนาม


 


เช่นเดียวกับวันที่ 13 เรารู้ว่าใครจะขนคนมา เราขอร้องว่าอย่าทำ แต่เราคิดว่าคนน่าจะล้นสนามศุภฯ อีกเหมือนกัน ส่วนคณะผู้ดำเนินการเอาเงินมาจากไหนนั้น ได้เคยเสดงกับสรรพากรไปบ้างแล้ว และที่มีมาก็หมดแล้ว ในวันที่ 17 ธ.ค. นี้จึงจัดงานขอเงินชาวบ้านอีกครั้งหนึ่งเพื่อรวบรวมกันดำเนินกิจการต่อไป ถ้าท่านจะกรุณาสนับสนุนบ้างก็ไม่ว่าอะไร


 


ผู้คนจำนวนมากวิพากษ์ว่าการจัดตั้งของกลุ่มเสื้อแดงไม่ดีเท่ากับเสื้อเหลือง


วีระ ผมเห็นด้วยครับว่าเรายังบริหารเสื้อดงกันไม่ดีเท่าเสื้อเหลือง แต่เราก็พยายามชี้แจงอยู่เสมอ ว่าความยิ่งใหญ่ของเราและความสำเร็จของเรา อยู่ที่การรักษาประชาธิปไตยไว้ได้ และต่อต้านไม่ให้เกิดรัฐประหารขึ้น ทั้งนี้อาวุธของเรายังได้แก่ความสงบ สันติ และปราศจากอาวุธ เราจะไม่ยึดสถานที่ราชการ เราจะไม่เผาบ้านเผาเมือง ถ้าแม้นเราจะต้องแพ้ไป เพราะเขาทำรัฐประหารสำเร็จ เราก็คงจะยอมรับชะตากรรม และบรรดาแกนนำทุกคนก็พร้อมอยู่แล้วที่จะเสียสละก่อนคนอื่นๆ ไม่ว่าจะเรื่องติดคุก หรือตาย เราบอกคนเสื้อแดงไว้อย่างนี้ครับ


 


จตุพร คือคนเสื้อเหลือง ความจริงแล้วมีจำนวนน้อยกว่าคนเสื้อแดงมาก แต่ที่ดูว่ามีพลังนั้นเนื่องจากคนเสื้อเหลืองมีความรู้สึกว่า ถ้าไปทำผิดกฎหมายไทยแล้วกฎหมายไทยไม่อาจจะเอาผิดกับพวกตนเองได้ เพราะฉะนั้นจึงเกิดอาการได้ใจ และมีความเชื่อว่าผู้สนับสนุนตนเองนั้นมีอิทธิพลมากพอ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังรู้สึกกลัวเพระว่าเคยมีเหตุการณ์ปะทะกันวันที่ 7 ธ.ค. ปรากฏว่าตำรวจกลายเป็นฝ่ายผิด และก็กลุ่มทุนของคนเสื้อเหลือง มาจากบริษัทหรือธนาคารที่อดีตนายกรัฐมนตรีเป็นที่ปรึกษา และเป็นขบวนการเดียวกันกับการยึดอำนาจเมื่อวันที่ 19 ก.ย. และเชื่อว่าวันหนึ่งจะมีคนใส่เสื้อแดงไปต่อคิวยาวเพื่อถอนบัญชีออกจากธนาคารแห่งนั้น หรือรณรงค์ไม่ซื้อสินค้าชนิดนั้นทีไปสนับสนุนให้คนกระทำความผิด


 


รัฐบาลนั้นมีการถ่วงดุลอำนาจ แต่ว่าในรัฐบาลที่ผ่านมา เหตุใดรัฐบาลล้มเหลวในการรักษาอำนาจ เช่น กรณีไม่สามารถผลักดันผู้ชุมนุมออกจากสนามบิน และคุณคิดอย่างไรต่อกรณีผู้นำองค์กรธุรกิจออกมายื่นข้อเสนอเรื่องการตั้งรัฐบาลแห่งชาติ


ณัฐวุฒิ ขอเรียนอย่างนี้ว่า รัฐบาลชุดของคุณสมชาย วงษ์สวัสดิ์ ก็เป็นรัฐบาลที่มีความสามารถในการจัดการระบบกฎหมายได้ในทุกกรณี เพียงแต่ต้องเรียนอีกครั้งว่าความสามารถเหล่านั้นของรัฐบาลอยู่ในหน่วยงานที่ต้องเป็นเครื่องมือในการปฏิบัติ เมื่อเครื่องมือเหล่านั้นไม่ขับเคลื่อนอย่างเต็มกำลังเสียแล้ว การทำงานของรับบาลก็ย่อมจะเกิดปัญหาตามมาด้วย ขณะนี้การเมืองของประเทศไทยมีอำนาจซ้อนอำนาจ จนประชาชนส่วนใหญ่ซึ่งเป็นเจ้าของอำนาจกลายเป็นคนไม่มีสิทธิ และมีกลุ่มคนพยายามจะขีดเส้นให้ประเทศไทยเป็นไปตามที่พวกเขาต้องการเท่านั้น  ผมเชื่อว่าทุกท่านก็มองออก


 


ส่วนการจัดการกับกลุ่มพันธมิตรฯ ที่เคลื่อนไหวผิดกฎหมายต่างๆ เป็นรัฐบาลทุกรัฐบาลในโลกหากมีการยึดสนามบินนานาชาติ เขาก็จะต้องจัดการทันที เพียงแต่ที่นี่  กลุ่ม พันธมิตรฯ มีในสิ่งที่รัฐบาลไม่มี ที่เขาเรียกกันว่า มีเส้น เส้นที่ว่านี่ท่านก็คงอยากจะให้ผมพูดว่าอะไร ผมก็จะประกาศให้ทราบกันที่นี่ ว่าเส้นที่ว่านั้น คือ....สิ่งที่ท่านคิดเหมือนกับผมนั่นแหละ (ผู้ฟังหัวเราะ)


 


ในขณะเดียวกันเรื่องรัฐบาลแห่งชาติ ผมเรียนว่า หากมีวิธีการใดในระบอบประชาธิปไตย ที่จะทำให้ประเทศไทยและคนไทยอยู่ในความสงบเรียบร้อยได้ เราย่อมไม่ปฏิเสธ แต่รัฐบาลแห่งชาติต้องเกิดขึ้นจากตัวแทนของประชาชนพูดคุยกันเท่านั้น รัฐบาลแห่งชาติจะต้องไม่เกิดขึ้นภายใต้ความต้องการของนายทหารใหญ่ไม่วาจากกองทัพไหนก็ตาม เพราะถ้าหากเป็นเช่นนั้น เราจะไม่เรียกสิ่งนั้นว่ารัฐบาลแห่งชาติ เราจะเรียกมันว่ารัฐบาลเผด็จการ ซึ่งคนไทยที่ใส่เสื้อสีแดงไม่ต้องการ


 


คุณวีระ มีข้อกล่าวหาว่าการเคลื่อนไหวของเสื้อแดงเป็นการเคลื่อนไหวโจมตีสถาบันกษัตริย์ เพราะกลุ่มเสื้อแดงมักพูดแต่ว่าต้องการประชาธิปไตย แต่ไม่เคยกล่าวถึงสถาบันกษัตริย์ต่อการเมืองไทย


ขอบคุณครับที่ตั้งคำถามนี้ ผมต้องเรียนท่านย้อนหลังไปถึง 24 มิ.ย. 2475 เราได้มีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง จากระบอบราชาธิปไตยมาเป็นประชาธิปไตย คณะผู้เปลี่ยนแปลงการปกครองตกลงให้มีกษัตริย์เป็นประมุขประเทศนี้ ซึ่งคนไทยก็รับเรื่องนี้มาตลอดเวลา ตัวผมเองเป็นนักการเมืองมาตลอดชีวิตตั้งแต่อายุ 26 แต่เราพูดถึงประชาธิปไตยโดยไม่ได้เอ่ยถึงพระมหากษัตริย์มากนัก เพราะเราคิดว่าเราตกลงกันแล้วเป็นข้อยุติที่ไม่มีใครเถียง ว่าพระมหากษัตริย์ทรงไม่ข้องเกี่ยวกับการเมือง ท่านเป็นประมุขแห่งรัฐ เราดูญี่ปุ่นและอังกฤษเป็นตัวอย่าง


 


ดังนั้นเมื่อเราต่อสู้กัน เราก็ต่อสู้กันเฉพาะในพรรคการเมืองและนักการเมือง แต่ก็จะมีอยู่เสมอที่พรรคการเมืองบางพรรคแอบอ้างว่าใกล้ชิดสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเราเห็นว่าเป็นเรื่องอันตรายยิ่งกว่า เพราะพวกผมมีความเชื่อว่า สถาบันกษัตริย์จะมั่นคงได้ต้องปล่อยให้การเมืองเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง


ถ้าพระมหากษัตริย์ลงมาเกี่ยวข้องกับนักการเมืองและพรรคการเมืองอย่างใกล้ชิด นั่นคือความไม่มั่นคงของสถาบันพระมหากษัตริย์ ดังนั้นแนวทางของพวกผม เสื้อแดงกับเสื้อเหลืองจึงแตกต่างกัน เสื้อเหลืองจะพูดทุกครั้ง ว่าเขาจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และจะบอกว่าพวกเสื้อแดงไม่เคารพจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ เราแปลกใจมากที่เรื่องนี้ได้มีการปล่อยให้มีคนพูดเช่นนี้ พูดทุกวันและออกโทรทัศน์เอเอสทีวีทุกวัน เราไม่เข้าใจว่าทำไมจึงจะต้องผลักคนที่ไม่ใส่เสื้อเหลืองให้กลายเป็นผู้ที่ไม่เคารพราชบัลลังก์ ที่จริงคนไทยใส่เสื้อสีอะไรก็จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่แล้ว


 


เราจึงบอกกับพวกเราว่าเราจะเป็นคนไทยใส่เสื้อแดงที่จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์เหมือนกัน แต่เราจะไม่ผลักคนใส่เสื้อสีอื่นว่าเป็นผู้ไม่จงรักภักดี พวกเรายังเชื่อมันว่าแนวทางของเรานี้จะทำให้สถาบันพระมหากษัตริย์มั่นคงอยู่ในประเทศไทย แต่แนวทางของคนเสื้อเหลืองที่ประกาศอยู่ทุกวันนี้จะทำให้สถาบันพระมหากษัตริย์ไม่มีความมั่นคง เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าทฤษฎีของใครถูกต้อง


 


คุณกล่าวว่าเมื่อประเทศเปลี่ยนแปลงมาสู่ระบอบประชาธิปไตย สถาบันกษัตริย์ทรงอยู่เหนือการเมือง คุณคิดว่าทุกวันนี้ยังคงเป็นเช่นเมื่อ 70 ปีที่แล้วหรือไม่


วีระ ต้องเรียนว่าเรื่องนี้ละเอียดอ่อนจริงๆ เพราะว่าคนที่ติดตามสถานการณ์โดยใกล้ชิด โดยเฉพาะอย่างพวกท่านก็จะรู้ดี บางคนอาจจะรู้ดีกว่าพวกผมด้วยซ้ำ


เกิดเหตุระเบิดขึ้นในกลุ่มพันธมิตรฯ หลายครั้ง คุณมีความเห็นไหมว่าใครอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์เหล่านั้น


วีระ สำหรับปัญหาที่มีคนถามเรื่องการใช้อาร์พีจีเข้าไป ต้องบอกตรงๆ ว่าเกินความสามารถที่พวกเราจะรู้ แต่ว่าฝ่ายพันธมิตรฯ ที่ใส่เสื้อเหลืองไปชุมนุมกันอยู่นั้น ทำให้คนไทยจำนวนมากมีความโกรธและมีบางคนให้สัมภาษณ์อย่างเปิดเผยว่าจะเข้าไปทำร้าย ผมคิดว่าตำรวจเองก็ไม่มีความสามารถที่จะป้องกันเรื่องนี้ได้ ผมอยากพูดตรงๆ กับพวกพันธมิตรฯ เสื้อเหลือง ว่าทางที่ดีแล้วท่านควรจะชุมนุมกันอย่าง สงบสันติและปราศจากอาวุธได้จริง และผมเชื่อว่าถ้าเขาทำเช่นนั้นจริงจะไม่มีใครไปทำร้ายเขา ผมได้พยายามที่จะเรียกร้องทุกกลุ่มด้วยซ้ำไปว่าถ้าจะเคลื่อนไหวทางการเมือง โดยใช้สิทธิเสรีภาพตามระบอบประชาธิปไตย ต้องใช้สิทธินั้นโดยสงบสันติและปราศจากอาวุธ ผมจะยึดแนวทางนี้ต่อไปครับ ขอให้ท่านตามดูเถอะ


 


คุณก่อแก้วทราบจำนวนของผู้ชมรายการความจริงวันนี้หรือไม่ ว่ามีผู้ติดตามอยู่ประมาณเท่าไหร่


ก่อแก้ว ผมเองก็ตอบไมได้ว่ามีคนที่ดูจากทีวีเท่าไหร่ แต่เนื่องจากรายการความจริงวันนี้ได้รับความสนใจจากผู้คนจำนวนมาก รายการความจริงวันนี้เคยได้รับการโหวตว่าเป็นรายการที่มีความนิยมสูงสุด แต่ไม่เคยมีการสำรวจปริมาณผู้ชมว่ามีกี่ล้านคนกันแน่ แต่ว่า อย่างกรณีที่มีคุณทักษิณโทรเข้ามา ผมคิดว่าคนทั่วประเทศน่าจะมีการติดตามข่าวเรื่องนี้ ผมเชื่อว่าคนเกือบทั้งประเทศได้ติดตามรายการความจริงวันนี้จำนวนมากทั่วประเทศในวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา


ณัฐวุฒิ ผมขอเพิ่มว่า ตั้งแต่รายการความจริงวันนี้ได้ออกอากาศมาตั้งแต่วันแรกมีบริษัทเอกชนที่ทำการสำรวจเรตติ้ง เขารายงานมาที่สถานีว่ารายการภาคค่ำของสถานีทั้งหมด ที่เรตติ้งอันดับหนึ่งคือรายการความจริงวันนี้ ถือเป็นรายการโทรทัศน์ที่ใช้เวลาสั้นมากในการขึ้นสู่อันดับหนึ่งของสถานี คือมันเกิดขึ้นภายในสองเดือนหรือก่อนหน้านั้นก่อนการสำรวจก็ได้


 


แต่ว่าเราหาโฆษณายากมาก คนจะลงโฆษณากะเรานอกจากมีธุรกิจ มีเงินแล้วต้องมีความกล้าหาญอย่างยิ่ง จนถึงขณะนี้ก็เลยยังไม่มีคนมาลงโฆษณา จะมีก็แต่คนมาฟ้องร้องดำเนินคดีเท่านั้น ซึ่งก็ไม่เป็นไร เพราะว่าเรายืนยันว่าเราจะต่อสู้กันด้วยความจริงภายใต้กฎหมาย


 


(ผู้สื่อข่าวจากประเทศญี่ปุ่น) จะมีการแก้ปัญหาโดยการยุบสภาได้หรือไม่,  หากมีการยุบสภา พรรคเพื่อไทยจะชนะการเลือกตั้งอีกหรือไม่ และ ประเด็นสุดท้าย การเมืองและสังคมไทยกำลังล่มสลาย ในการรัฐประหารเมื่อ 3 ปีก่อน ญี่ปุ่นไม่ได้วิตกกังวลต่อสถานการณ์ในเมืองไทยมากนัก แต่ครั้งนี้ ญี่ปุ่นกังวลมากเมื่อเกิดเหตุการณ์ยึดสนามบิน ประเทศไทยจะยังคงสามารถหาแนวทางแก้ปัญหาความขัดแย้งด้วยสันติวิธีได้หรือไม่ หรือมีทางอื่นใดในการแก้ปัญหาความขัดแย้งครั้งนี้


วีระ ข้อที่ 1 ถามว่าจะยุบสภาได้ไหม ตอบว่าถ้าดูตามอำนาจ นายกฯ ที่รักษาการนี้อยู่มีอำนาจยุบสภาได้ แต่ตัวนายกเองจะคิดยุบสภาหรือไม่ ผมไม่แน่ใจอาจจะต้องถามคุณณัฐวุฒิมากกว่า


 


ณัฐวุฒิ ผมคิดว่ารักษาการนายกฯ ก็คงติดตามสถานการณ์ทางการเมืองอยู่ แน่นอนว่าถ้าหากเกิดรัฐบาลที่ไม่ได้มาจากวิธีการของประชาธิปไตย ก็ย่อมจะมีเสียงเรียกร้องทั้งจากประชาชนและนักกรเมืองให้มีการยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชน ถึงวันนั้นผมคิดว่ารักษาการนายกรัฐมนตรีก็จะต้องตัดสินใจ แต่เข้าใจว่าพรรคประชาธิปัตย์ก็คงจะพยายามทุกวิถีทางไม่ให้มีการบยุบสภา ซึ่งจะต่างกับข้อเรียกร้องเดิมที่เรียกร้องกับนายสมัครและนายสมชายก่อนหน้านี้ เพราะขณะนี้พรรคประชาธิปัตย์คิดว่าคุณอภิสิทธิ์เข้าใกล้เก้าอี้นายกรัฐมนตรีเข้าไปทุกที แต่ผมยังเชื่อลึกๆ ว่า เมื่อถึงวันนั้นคนของพรรคเพื่อไทยก็จะมายกเก้าอี้ตัวนั้นกลับไป เพราะจากการสอบถามแกนนำของพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลบางคน ยังมั่นใจว่าซีกรัฐบาลเดิมจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้อยู่  เป็นเรื่องที่ต้องดูกันต่อไป


 


จตุพร ในวาระที่พรรคประชาธิปัตย์และผบ.ทบ. เรียกร้องให้รัฐบาลนายกฯ สมชายยุบสภา เหตุที่อดีตนายกฯ ไม่ยุบสภา เพราะว่า 1 รัฐธรรมนูญของเรายังไม่มีการแก้ไข 2 ขณะนั้นพันธมิตรฯ ยังยึดทำเนียบรัฐบาลและสนามบินอยู่ เพราะถ้ายุบสภาในขณะนั้นเลือกตั้งรัฐบาลมาก็ต้องมาเจอกับ พันธมิตรฯและรัฐธรรมนูญฉบับเดิม แต่ขณะนี้สถานการณ์การจัดตั้งรัฐบาล ทำให้ประชาชนที่ติดตามการจัดตั้งรัฐบาลจำนวนมากมีความรู้สึกว่านักการเมืองทำตัวน่าเบื่อหน่าย ยินยอมให้ ผบทบ. เสนาธิการทหารบก และอดีตผบ.ทบ. มาร่วมวงการในการขจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ เสมือนหนึ่เงป็นการรัฐประหารโดยไม่ต้องนำกลังทหารและรถถังออกมา ซึ่งถ้าทำเช่นนั้น ผมเสนอว่าควรจะทำรัฐประหารไปเลยดีกว่า เพราะคนเสื้อแดงจะได้ออกมาสู้อย่างซึ่งหน้ากับ พล.อ.อนุพงษ์ เพราะการที่พล.อ.อนุพงษ์ ชักใยอยู่ข้างหลังนั้นเป็นการอันตรายต่อประชาธิปไตยกว่า แต่ถ้าเป็นการต่อสู้กันระหว่างคณะรัฐประหารของพล.อ.อนุพงษ์กับคนเสื้อแดงจะทำให้ประชาธิปไตยมีความแข็งแรงเพิ่มขึ้นกว่าทีเป็นอยู่


 


เพราฉะนั้น เมื่อ พล.อ.อนุพงษ์ ยังคงใช้วิธีชักใย ความคิดที่จะมีการยุบสภาเพื่อคืนอำนาจให้กับประชาชนนั้นน่าจะเป็นหัวข้อของการขบคิดว่าท้ายที่สุดต้องให้เจ้าของประเทศนี้ คือประชาชนเป็นคนตัดสินอนาคตของประเทศนี้


 


วีระ ข้อสอง ถามว่าถ้ามีการยุบสภาเลือกตั้งใหม่ พรรคเพื่อไทยจะสามารถชนะการเลือกตั้งได้หรือไม่ ผมตอบโดยไม่ลังเลเลยโดยที่ผมไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งทั่วไปแน่นอน เพราะประชาชนทั้งประเทศเขาเห็นชัดหมดแล้ว ว่าพรรคประชาธิปัตย์ไปจับมือกับพันธมิตรฯ และจับมือกับทหาร ซึ่งมันเป็นวิธีการนอกระบอบประชาธิปไตย แล้วก็ทำให้ประเทศเสียหาย ประชาชนคนไทยเดี๋ยวนี้เข้าใจชัดว่า สิ่งที่คุณณัฐวุฒิได้อธิบายว่ามีอำนาจซ้อนอำนาจ  อำนาจหนึ่งคืออำนาจประชาชนมาจากการเลือกตั้ง อีกอำนาจหนึ่งเป็นอำนาจมืดโยงในเครือข่ายสามเครือข่ายนี้ โยงใยทหาร พรรคประชาธิปัตย์และพันธมิตรฯ ทั้งหมดนี้เนื่องจากความโกรธและเกลียดชังทักษิณอย่างเดียวเท่านั้น อำนาจมืดเกลียดชังทักษิณแต่ทำให้ประเทศไทยบาดเจ็บกันทั้งประเทศ คนที่เจ็บปวดจากการปิดสนามบินครั้งนี้ลึกไปถึงรากหญ้าในชนบท เพราะสินค้าการเกษตรถูกระงับ ส่งออกไม่ได้และเสียหายจำนวนมาก ดังนั้นถ้ามีการเลือกตั้งประชาชนกลุ่มนั้นก็จะยังสนับสนุนพรรคที่มีเงาของทักษิณปรากฏอยู่ แต่ว่ามันน่าเสียใจที่ว่า มันไม่ทำให้ประเทศไทยก้าวพ้นจากความขัดแย้งไปได้


 


กลับมาก็มาดูมวยคู่เก่า คือมวยที่อยู่ในเงามืดตัวหนึ่งและมวยที่อยู่ในความสว่างตัวหนึ่ง ซึ่งผมต้องโยงมาถึงข้อที่ 3 เพราะคำถามของท่านในข้อที่ 3 ผมเห็นใจและผมเสียใจในนามของคนไทย ที่เราไม่สามารถทำให้บ้านเมืองของเราสงบเรียบร้อยได้ เราไม่สามารถจะทำให้ประเทศเราเป็นประเทศที่มีความปลอดภัยได้ ผมต้องเรียนว่าท่านทีเป็นผู้สื่อข่าวมาอยู่ในประเทศไทยนั้นต้องใช้ความกล้าหาญมาก แต่อย่างไรก็ตามผมก็ยังขอร้องให้ท่านได้อยู่กันต่อไป ช่วยดูแลพวกผมให้ปลอดภัย เพราะผมรู้ว่าเงาของความไม่ปลอดภัยคุกคามพวกผมอยู่ แต่อย่างไรก็แล้วแต่ พวกผมก็ยังไม่สิ้นความพยายาม บางทีสงครามอาจจะทำให้เกิดสันติภาพก็ได้ ท่านอาจจะได้เห็นสงครามในเมืองไทยสักครั้งหนึ่งระหว่างคนไทยด้วยกัน มันอาจจะเป็นภาพยนตร์ Next Program ก็ได้


 


รายการของคุณมีผู้ติดตามจำนวนมาก แต่อย่างไรก็ตาม หากประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล รายการของคุณจะถูกยกเลิกหรือไม่


แน่นอนเขาต้องยกเลิกโปรแกรมของเรา เพราะแม้แต่เราเป็นรัฐบาลเขายังขอให้ยกเลิกเลย ถ้าเขาพวกผมได้ผมก็จะดีใจ จะได้หายเหนื่อย แต่ที่น่าวิตกก็คือว่า ผมกลัวว่าคนดูจำนวนมากจะไม่ยอมให้เขาปิดรายการ นี่คือม็อบกลุ่มใหม่ที่อาจจะทำให้ท่านปวดหัวกันอีกแล้ว   


คุณต้องต่อสู้กับอะไรหลายอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นรัฐธรรมนูญที่มาจากการรัฐประหาร องค์กรตรวจสอบที่มาจากการรัฐประหารหรือศาลที่ขาดความเป็นกลางทางการเมือง คุณจะต่อสู้อย่างไร


เราคิดว่าอำนาจเดียวเท่านั้นที่จะสู้กับอำนาจมืด สิ่งเดียวที่จะสู้ได้คือประชาชน มวลชนเท่านั้นที่นำการต่อสู้ให้ปลอดภัย ดังนั้นเรามีความจำเป็นที่จะต้องทำความเข้าใจกับมวลชนมหาศาล ดังนั้น ท่านจึงเห็นว่าเพราะเหตุใดเราจึงต้องมีคนจำนวนมากในแต่ละครั้ง ข้อมูลที่ถูกต้อง ข่าวสารที่ตรงต่อความเป็นจริง และความเห็นที่จะต้องยึดหลักว่าประชาธิปไตยคืออะไร นี่คือสิ่งที่พวกผมพยายามทำกันอยู่ หลังจากที่มีนักการเมืองอีกหลายๆ ท่านเคยทำจนกระทั่งเสียชีวิตไปแล้วก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ แต่เราก็ยังจะทำโดยไม่คำนึงว่าจะสำเร็จในชีวิตของเราหรือไม่ เพราะว่าเราได้รับการสนับสนุนกำลังใจจากมิตรประเทศที่เขาเป็นประชาธิปไตยเต็มตัวหลายประเทศทีเดียว ก็ต้องขอขอบคุณประเทศเหล่านั้นโดยไม่ต้องเอ่ยชื่อ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net